สวัสดี บุคคลทั่วไป

แสดงกระทู้

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.


Messages - damonshoppu

หน้า: 1 ... 13 14 [15] 16 17 18
211


ถัง IBC
         
เป็นเรื่องที่น่ายินดีสำหรับท่านที่กำลังมองหาบรรจุภัณฑ์ที่สามารถเก็บกักน้ำไว้ใช้งาน โดยในปัจจุบันนี้ได้มีการพัฒนาบรรจุภัณฑ์ที่สามารถใช้เก็บกักของเหลวได้อย่างดีเยี่ยม และยังทนต่อความเป็น กรดและความเป็นด่าง สามารถนำไปใช้กับโรงงานอุตสาหกรรมและในภาคครัวเรือนได้ โดยคุณสมบัติที่กล่าวมาเป็นคุณสมบัติของถัง IBC ขนาด 1,000 ลิตร ที่กำลังได้รับความนิยมในปัจจุบันนี้

โดยเฉพาะถัง IBC เป็นบรรจุภัณฑ์ที่ผลิตมาจากพลาสติกที่ใช้กรรมวิธีผลิตพลาสติกแบบ High Density Polyethylene ที่มีคุณสมบัติของความหนาแน่นของวัสดุสูงมาก ทนต่อการกัดกร่อนและสามารถบรรจุน้ำหรือของเหลวได้ถึง 1,000 ลิตร จึงทำให้ในปัจจุบันถัง IBC กลายเป็นทางเลือกอันดับต้นๆ สำหรับผู้ที่กำลังต้องการเก็บกักน้ำหรือของเหลว ซึ่งในพื้นที่ห่างไกลน้ำเข้าไม่ถึงหรือน้ำไหลช้าได้มีการนำถัง IBC ไปใช้กักเก็บน้ำเพิ่มขึ้นแทนที่โอ่งที่เคยใช้กันมานานเนื่องจากแตกง่าย สำหรับข้อดีของถัง IBC คือ สามารถเคลื่อนย้ายไปที่ต่างๆ ได้อย่างสะดวก ใช้วัสดุในการผลิดที่ยอดเยี่ยม ส่งผลทำให้ถัง IBC มีความคงทนถาวรทนทาน สามารถบรรจุน้ำได้ในปริมาณมาก ใส่ของเหลวได้หลายแบบ และยังใช้ได้ทั้งในภาคธุรกิจ อุตสามหกรรมต่างๆ และภาคครัวเรือน ภาคการเกษตร

เมื่อนำไปใช้งานจริงแล้วสามารถเพิ่มปริมาณของถัง IBC ได้ตามที่ต้องการ โดยเฉพาะการเคลื่อนย้ายก็สามารถทำได้ง่าย โดยถัง IBC นี้ สามารถใช้พาเลทในการรองฐานและยกเคลื่อนย้ายด้วยโฟล์คลิฟท์ โดยที่ไม่จำเป็นต้องใช้คนงานในการเคลื่อนย้าย มีความสะดวกในการเคลื่อนย้าย การขนส่งทางเรือ การขนส่งทางตู้คอนเทนเนอร์และมีความปลอดภัยสูง น้ำหนักเบา แข็งแรงทนทาน สามารถวางซ้อนกันได้ ประหยัดเนื้อที่ในการจัดเก็บ เหมาะสมสำหรับการเกษตรและอุตสาหกรรม เช่น เก็บน้ำใช้สำหรับการเกษตร ใส่ปุ๋ยสำหรับไว้ท้ายรถกระบะและขับรถตามแนวแปลงเกษตร หรือบรรจุของเสียจากโรงงานอุตสาหกรรมเพื่อรอการบำบัด



ถัง IBC หรือ Intermediate Bulk Container ใช้ในการจัดเก็บและขนส่งของเหลวหรือของที่มีลักษณะเป็นผงในปริมาณมาก โดยจะตั้งอยู่บนพาเลทเป็นถังที่ใช้ในอุตสาหกรรมและสามารถนำหกลับมาใช้ใหม่ได้ ตัวถังจะมีฝาอยู่ด้านบนและมีวาล์วอยู่ด้านล่าง

ขนาดบรรจุ 1,000 ลิตร (275 แกลอน) มีวาล์วด้านล่างขนาด 2 นิ้ว ฝาด้านบนขนาด 6 นิ้ว กว้าง 1 เมตร ยาว 1.2 เมตร สูง 1.16 เมตร น้ำหนักถังเปล่าประมาณ 55 กิโลกรัม

ถังพลาสติกชนิด HDPE (High Density Polyethylene)  โครงเหล็กชุปกัลป์วาไนซ์ พาเลทไม้ ทั้งหมดนี้ได้ครบชุด ถังพร้อมใช้งาน โดยปกติถัง IBC เหมาะกับการขนส่งเนื่องจากมี UN/DOT Certified
 
ราคา 1,800 บาท / รับสินค้าที่ รังสิต-ปทุมธานี ใกล้ฟิวเจอร์พาร์ครังสิต

===========================
ทีมงานยินดีให้คำปรึกษา
ร้านถัง 1,000 ลิตร
รังสิต-ปทุมธานี
โทร 089-780-6866 , 094-454-1994 , 081-445-8669 , 095-161-6266
Line ID : @bulk1000
เว็บไซต์ : www.bulk1000.com
===========================

212

 
ถ้าอยากให้ลูกมีจินตนาการล่ะก็ อันดับแรก พ่อแม่จะต้องเชื่อก่อนว่าตนเองก็มีจินตนาการเหมือนกัน เนื่องจากเราเห็นเด็กทุกคนมีจินตนาการมากมาย แต่พอโตเป็นผู้ใหญ่ หลายๆคนกลับทำจินตนาการร่วงหายไปกลางทาง กลายเป็นพ่อเป็นแม่ที่เคร่งขรึม จริงจัง เทคนิคก็คือ บิดามารดาจะต้องกล้าที่จะเอาจินตนาการของตัวเองออกมาใช้ก่อน พวกเราถึงจะมีแนวทางรับมือกับจินตนาการของลูก และมีแนวทางเลี้ยงลูกโดยสร้างเสริมจินตนาการของเขา ถอดฟอร์มของผู้ใหญ่ที่น่าเคารพยำเกรงออกสักระยะ แล้วดึงความเป็นเด็กในตัวเราออกมาให้เด็กๆได้เห็นว่าพวกเราเป็นพวกเดียวกับเขา แล้วมันถึงจะเกิดบรรยากาศที่ทุกๆคนได้สนุกสนานไปด้วยกัน บางครั้งอาจจะอ่านหนังสือด้วยกัน ทำงานศิลป์ด้วยกัน คุยกัน หาชุดแฟนซีเด็ก มาใส่ หรือพาลูกไปสู่ประสบการณ์ใหม่ๆ ให้เขาได้สัมผัสกับธรรมชาติ ดูพืชพันธุ์ มองนก มองแมลงแปลกๆ สิ่งเหล่านี้จะส่งเสริมให้เขามีจินตนาการกว้างไกลขึ้น
 

 
ทำความรู้จักเหล่า Disney Princess ให้กัน
 
เจ้าหญิง Snow White
 
ปรากฎตัวครั้งแรก: Snow White and the 7 Dwarfs 1937
อายุ: 14 ปี (ตามเนื้อเรื่องในวันที่ออกฉาย)
ฐานะในการเป็นเจ้าหญิง: สายเลือด (พ่อแม่เป็นพระราชา)
สัญชาติ : เยอรมัน (บาวาเรียน)
คู่สมรส : เจ้าชายเฟอร์ดินานด์ (Prince Ferdinand)
 
เจ้าหญิงคนแรกของกรุ๊ปเจ้าหญิงดิสนีย์ ก็คือ สโนว์ไวท์ จากเรื่องสโนว์ไวท์กับคนแคระทั้งเจ็ดนั่นเอง ซึ่งภาพยนตร์แอนนิเมชั่นเรื่อง สโนว์ไวท์กับคนแคระทั้งเจ็ด (Snow White and the seven dwarfs) เป็นภาพยนตร์แอนนิเมชั่นสีขนาดยาวเรื่องแรกของโลก ผลิตโดย วอลต์ ดิสนีย์ สตูดิโอ ออกฉายทีแรก (รอบปฐมทัศน์) วันที่ 21 ธ.ค. 1937 ใช้เงินทุนสำหรับในการสร้างถึง 1,500,000 ดอลลาร์ ซึ่งภาพยนตร์ฮอลลีวูดฟอร์มยักษ์ในยุคนั้น ใช้เงินสร้างเพียงแค่ 500,00 ดอลลาร์ รวมค่าตอบแทนนักแสดงแล้ว แม้กระนั้นเมื่อหนังออกฉาย สโนว์ไวท์กลับทำรายได้ถึง 184,925,486 ดอลลาร์ นับว่าเป็นหนังที่ทำเงินได้มากที่สุดในประวัติศาสตร์ภาพยนตร์ในยุคนั้น ยิ่งไปกว่านี้ยังเป็นเหตุให้ Walt Disney ได้รับรางวัล Oscar พิเศษ ในฐานะเป็นผู้ผลิตการ์ตูนขนาดยาวเรื่องแรกของโลก โดยรางวัลออสการ์ที่เขาได้รับมีความพิเศษตรงที่นอกเหนือจากการที่จะมีตุ๊กตาทองคำเหมือนของคนอื่นๆแล้วยังมีตุ๊กตาทองขนาดเล็กเรียงกันลงมาอีก 7 ตัว เท่ากับปริมาณของคนแคระในเรื่องอีกด้วย
 
สโนว์ไวท์เป็นเจ้าหญิงที่มีอายุต่ำที่สุดในบรรดาเจ้าหญิงดิสนีย์ทั้งปวงเลย โดยสโนว์ไวท์มีอายุเพียงแค่ 14 ปีเพียงเท่านั้น และก็เจ้าหญิงที่มีอายุสูงที่สุดปัจจุบันนี้คือ Cinderella มีอายุ 19 ปี แต่ในปีหน้านางก็ต้องเสียแชมป์ให้กับ Elsa เพราะเมื่อไหร่ที่ Elsa ได้รับการสถาปนาเป็นเจ้าหญิงดิสนีย์อย่างเป็นทางการ นางจะกลายเป็นเจ้าหญิงที่มีอายุมากที่สุด ด้วยอายุ 21 พรรษา และก็ยังเป็นเจ้าหญิงดิสนีย์คนแรกที่ได้ครองราชย์อีกด้วย
 
เจ้าหญิง Cinderella
 
ปรากฎตัวครั้งแรก: Cinderella 1950
อายุ: 19 ปี (ตามเนื้อเรื่องในวันที่ออกฉาย)
ฐานะสำหรับในการเป็นเจ้าหญิง: อภิเษกสมรส
ชนชาติ : ฝรั่งเศส
คู่สมรส : เจ้าชายเฮนรี่ (Prince Henry) หรือพวกเราจะชินหูกันในชื่อของเจ้าชายชาร์มมิ่งกันมากยิ่งกว่า
 
ซินเดอเรลล่านั้น ได้รับการแต่งตั้งให้เป็น Leader of Disney Princess บางทีอาจเนื่องจากวัยวุฒิของนางที่มีมากยิ่งกว่าผู้อื่นและก็บุคลิกที่ดูโตเป็นผู้ใหญ่ อีกทั้งเรื่องราวชีวิตที่ใครๆต่างก็ใฝ่ฝันต้องการให้ชีวิตตัวเองโชคดีได้สมรสกับเจ้าชายรูปงาม ตัวอย่างเช่น เจ้าชายชาร์มมิ่ง
 

 
จำหน่ายชุดแฟนซีเด็ก  ชุดแฟนซีผู้ใหญ่ชุดเจ้าชาย  พร้อมดาบหรือคฑา ชุดเจ้าหญิง พร้อมมงกุฎ  ชุดอาชีพ ในฝัน สร้างเสริมจินตนาการ เช่น ชุดคุณหมอ พร้อมอุปกรณ์ชุดพยาบาล ชุดทหาร ชุดตำรวจ ชุดแอร์โฮสเตส ชุดนักบิน ชุดดับเพลิง พร้อมอุปกรณ์ชุดวิศวกรพร้อมอุปกรณ์
 

 
- ชุดโจรสลัด Pirate กัปตันแจ็ค สแปร์โรว์กัปตันแบล็กเบียร์ด พร้อมดาบหรือปืนโจรสลัดตามแบบชุด
ชุดประจำชาติ ยกตัวอย่างเช่น ชุดกรีก โรมัน ชุดอียิปต์ ชุดฟาโรห์ ชุดประชาติเยอรมัน ชุดประจำชาติฝรั่งเศส ชุดประจำชาติอังกฤษ ชุกประจำชาติประเทศญี่ปุ่น ชุดประจำชาติโปรตุเกส ชุดอาหรับ ชุดประจำชาติประเทศสเปน ชุดพระแม่มำรี ชุดพระเยซู
- ชุดฮาโลวีน ชุดพ่อมด ชุดแม่มด ชุดแวมไพร์ ชุดแฮรี่พอตเตอร์
- ชุดเจ้าหญิงพร้อมมงกุฎ
- ชุดคอสเพลย์ทั้งเด็กและผู้ใหญ่ส่งฟรี EMS
 
ติดต่อสั่งซื้อชุดแฟนซี
เว็บไซต์: www.fancydressingbangkok.com
Line: @fancydressing

213

 
วรรณกรรม หมายถึง วรรณคดีหรือศิลป์ ที่เป็นผลงานอันเกิดขึ้นได้เพราะการคิด แล้วก็จินตนาการ แล้วเรียบเรียง นำมาบอก บันทึก ขับขาน หรือสื่อออกมาด้วยกลวิธีต่างๆโดยทั่วไปแล้ว จะแบ่งวรรณกรรมเป็น 2 ประเภทเป็นวรรณกรรมลายลักษณ์ เป็นวรรณกรรมที่บันทึกเป็นตัวหนังสือ แล้วก็วรรณกรรมมุขปาฐะ อย่างเช่นวรรณกรรมที่เล่าด้วยปาก ไม่ได้เขียนบันทึก
 
ด้วยประการฉะนี้ วรรณกรรมก็เลยสื่อความหมายครอบคลุมกว้าง ถึงเรื่องราว นิทาน ตำนาน เรื่องเล่า ขบขัน เรื่องสั้น นิยาย เพลง คำคม ฯลฯ วรรณกรรมเป็นผลงานศิลปะที่แสดงออกด้วยการใช้ภาษา เพื่อการสื่อสารเรื่องราวให้รู้เรื่องระหว่างมนุษย์ ภาษาเป็นสิ่งที่มนุษย์สร้างสรรค์ รวมทั้งประดิษฐ์ขึ้นเพื่อใช้สื่อความหมาย เรื่องราวต่างๆภาษาที่มนุษย์ใช้เพื่อการติดต่อและทำการสื่อสารตัวอย่างเช่น
 
1. ภาษาพูด โดยการใช้เสียง
2. ภาษาทางการ โดยการใช้ตัวอักษร ตัวเลข เครื่องหมาย แล้วก็ภาพ
3. ภาษาท่าทาง โดยการใช้กิริยาท่าทาง หรือประกอบวัสดุอุปกรณ์อันอื่น
 
ความงามหรือศิลปะสำหรับเพื่อการใช้ภาษาขึ้นอยู่กับ การใช้ภาษาให้ถูก ชัดเจนแล้วก็ เหมาะสมกับเวลา จังหวะ แล้วก็บุคคล นอกเหนือจากนั้น ภาษาแต่ละภาษายังสามารถปรุงแต่ง ให้เกิดความเหมาะสม ไพเราะ หรือสวยงามได้ นอกจากนี้ ยังมีข้อบังคับ คำราชาศัพท์ คำสุภาพ ขึ้นมาใช้ได้อย่างเหมาะควร บ่งบอกถึงวัฒนธรรมที่ยอดเยี่ยมทางการใช้ภาษาที่ควรดำรงและถือมั่นต่อไป ผู้สร้างสรรค์งานวรรณกรรม เรียกว่า ผู้เขียน หรือ กวี (Writer or Poet)
 
วรรณกรรมไทยปัจจุบัน (Contemporary literature)
 
วรรณกรรมไทยตอนนี้นั้นหมายความว่า วรรณกรรม ในรูปแบบใดก็ตามไม่ว่าจะเป็นร้อยแก้ว หรือร้อยกรอง ซึ่งขอบเขตของวรรณกรรมตอนนี้นั้นเริ่มตั้งแต่สมัยเริ่มต้นของวรรณกรรมร้อยแก้ว คือ ตั้งแต่ยุค รัชกาล ที่ 5 พุทธศักราช 2442 จนกระทั่งปัจจุบันนี้ (พ.ศ. 2553)
 
วรรณกรรมประเภทร้อยแก้วในตอนนี้จะอยู่ในรูปของ บันเทิงคดี อาทิเช่น เรื่องสั้น นิยาย นิทาน บทละคร สารคดียกตัวอย่างเช่น บทความ หนังสือวิชาการ งานศึกษาค้นคว้าวิจัย ฯลฯ
 
วรรณกรรมชนิดร้อยกรองในตอนนี้เป็นวรรณกรรมที่แตกต่างจากเดิมเป็นเป็นวรรณกรรมที่ไม่เน้นในเรื่องวรรณศิลป์ทางภาษามากสักเท่าไรนัก ไม่เน้นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับการใช้ภาษาแต่เน้นในเรื่องเกี่ยวกับการสื่อแนวคิด สื่อข้อคิดแก่นักอ่านมากกว่า ตัวอย่างเช่น ใบไม้ที่หายไป ของ จิรนันท์ พิตรปรีชา อื่นๆอีกมากมาย
 
วรรณกรรมไทย แบ่งออกได้ 2 ชนิด เป็น
 
1. ร้อยแก้ว เป็นเนื้อความเรียงที่แสดงเนื้อหา เรื่องราวต่างๆ
2. ร้อยกรอง เป็นเนื้อความที่มีการใช้คำที่สัมผัส สอดคล้อง ทำให้สัมผัสได้ถึงความงามของภาษาไทย ร้อยกรองมีหลายแบบเป็นโคลง ฉันท์ กาพย์ กลอน รวมทั้ง ร่าย
 
วรรณกรรมปรากฏขึ้นหนแรกในพ.ร.บ.คุ้มครองวรรณกรรมแล้วก็ศิลปกรรม พุทธศักราช 2475 คำว่า วรรณกรรม บางทีอาจเทียบได้กับคำภาษาอังกฤษว่า Literary work หรือ general literature ความหมายแปลตามรูปศัพท์ว่า ทำให้เป็นหนังสือ ซึ่งมองตามความหมายนี้แล้วจะเห็นว่ากว้างขวางมาก ซึ่งหมายถึงการเขียนหนังสือจะเป็นใจความสั้นๆ หรือเรื่องราวสมบูรณ์ก็ได้ ได้แก่ ประเด็นหลักที่เขียนตามใบปลิว ป้ายสำหรับโฆษณาต่างๆ ตลอดไปจนกระทั่งบทความ หรือ หนังสือที่พิมพ์เป็นเล่มทุกประเภท อย่างเช่น หนังสือตำราต่างๆ นิยาย กาพย์ กลอนต่างๆ ก็ถือเป็นวรรณกรรมทั้งหมด จากลักษณะกว้างๆ ของวรรณกรรม สามารถบ่งชี้ถึงคุณค่ามากน้อยของวรรณกรรมได้โดยขึ้นกับ วรรณศิลป์ คือ ศิลปะสำหรับในการแต่งหนังสือนั้นเป็นหลัก ถ้าเกิดวรรณกรรมเรื่องใดมีคุณค่าทางวรรณศิลป์สูง เป็นที่ยอมรับกันโดยทั่วไปว่าเป็นหนังสือดี วรรณกรรมก็อาจได้รับเชิดชูว่าเป็น วรรณคดี แม้กระนั้นการที่จะระบุว่า วรรณกรรมเรื่องใดควรเป็นวรรณคดีหรือไม่นั้น ต้องพิจารณาถึงตอนที่เขียนหนังสือนั้นนานเหมาะสมด้วย เพื่อพิสูจน์ว่าค่าของวรรณกรรมนั้นเป็นอมตะ เป็นที่ยอมรับกันทุกยุคทุกสมัยหรือเปล่า เนื่องจากอาจมีวรรณกรรมบางเรื่องที่ดีเหมาะสมกับช่วงเวลาเพียงแต่บางช่วงแค่นั้น ด้วยเหตุนั้นบางทีอาจสรุปได้ว่า วรรณคดีซึ่งก็คือวรรณกรรมนั่นเอง กล่าวคือ เป็นวรรณกรรมที่พิจารณารวมถึงตกแต่งให้พิถีพิถัน มีความเหมาะสมในด้านต่างๆ อันเป็นคุณประโยชน์ของการประพันธ์ หรือจะกล่าวคือ วรรณคดีนั้นเป็นวรรณกรรมไม่จำเป็นที่จะต้องเป็นวรรณคดีเสมอไป
 
ชนิดของวรรณกรรม วรรณกรรมนี้แบ่งได้ 2 ประเภท
 
- สารคดี หมายถึง หนังสือที่แต่งขึ้นเพื่อมุ่งให้ความรู้ความเข้าใจ ความนึกคิด ประสบการณ์แก่ผู้อ่าน ซึ่งบางทีอาจใช้ต้นแบบร้อยแก้วหรือร้อยกรองก็ได้
- บันเทิงคดีเป็นวรรณกรรมที่แต่งขึ้นเพื่อมุ่งให้ความสนุกสนาน เบิกบาน ร่าเริงแก่นักอ่าน ก็เลยมักเป็นเรื่องที่มีเหตุการณ์และก็นักแสดง
 
 
 

 
10 หนังสือขายดีวรรณกรรมหรือนวนิยายไทยที่ดีที่สุด ที่ ร้านหนังสือนายอินทร์
 
ซึ่งนิยาย 10 เรื่องที่ ร้านหนังสือนายอินทร์ จัดตามอันดับความโด่งดังหรือยอดจำหน่าย มีดังนี้
 
1. เจิ้นก็ยังคงสง่าผ่าเผยอย่างนี้แหละ เล่ม 1-2 - กงจื่ออจ้าน (Gong Zi Zhan)
จากคนธรรมดาๆ ที่ต้องจากโลกนี้เมื่ออายุยังไม่ทันถึงวัยยี่สิบสี่ กลับมาเกิดใหม่ย้อนเวลาทะลุมิติมาอยู่ในร่างของเยียนจี้ หวงตี้แห่งต้าฉี่ที่เพิ่งจะขึ้นครองราชย์ในวัยสิบหก แต่ว่าที่น่าปวดหัวกว่านั้นคือ เขากลับต้องตายก่อนอายุครบยี่สิบสี่แล้วก็ย้อนกลับมาเกิดใหม่ในร่างเยี่ยนจี้ตอนพึ่งครองบัลลังก์ครั้งแล้วครั้งเล่าอีกถึงสามชาติ.. ไม่ต้องบอกคงจะรู้ดีว่ามันช่างน่าเบื่อหน่าย แค่ไหนกับการจะต้องย้อนมาพบพานสิ่งที่ซ้ำจากจำเจเช่นนี้ แต่ในชาติที่ห้า ทุกสิ่งทุกอย่างกำลังจะเปลี่ยนไป หลายๆ ตัวละครจะเข้ามามีบทบาทที่สำคัญกับชีวิตของเขามากขึ้น ทุกๆ เรื่องราว ทุกๆความเกี่ยวข้องในเรื่องนี้จะมีผลให้คุณรัก เฮฮา รวมทั้งประทับใจน้ำตาซึม เรื่องบางสิ่งที่หล่นหายไป ความรู้ความเข้าใจของตัวเอก การรับมือรวมทั้งการมองโลกที่เปลี่ยนไปตลอดจนความรักที่ถักทอขึ้นใหม่ บางทีทั้งหมดเป็นกุญแจสำคัญที่ทำให้เยี่ยนจี้หยุดวงจรการกลับมากำเนิดใหม่นี้ได้ เขาจะมีชีวิตผ่านอายุยี่สิบสี่หรือไม่ มาร่วมลุ้นในนิยาย "เจิ้นก็ยังคงสง่าผ่าเผยอย่างนี้แหละ" และก็ประทับใจกับความน่ารักน่าเอ็นดูน่าชังของตัวละครกันเลย
 
2. ทุกชาติภพ กระดูกงดงาม - โม่เป่าเฟยเป่า
ชั่วชีวิตนี้ "สืออี๋" เคยทำเรื่องแปลกที่สุดเรื่องหนึ่งคือ วิ่งฝ่าเจ้าหน้าที่มากมายเพื่อเข้าไปทักชายไม่รู้จักคนหนึ่งที่ท่าอากาศยาน ครั้งแรกที่เธอเจอเขาคือที่ฉางอานเมื่อหลายร้อยปีก่อน เขา.. คือ ท่านอ๋องน้อยหนานเฉินผู้ห้าวหาญเทียมฟ้า เธอ.. คือว่าที่พระชายาขององค์รัชทายาทผู้งามล่มเมือง เพียง "นัยน์ตาสื่อรัก ใจประสานใจ" ประโยคเดียวทำให้โชคชะตาของพวกเขามีอันจะต้องเปลี่ยน แม้กระนั้นคราวนี้ แม้กาลเวลาจะมีผลให้ใบหน้าและเสียงของเขาเปลี่ยน แต่ว่าเธอยังคงจดจำเขาได้ เธอเป็นเพียงคนเดียวที่มีความจำของชาติก่อน แต่ว่าเขากลับจำเธอไม่ได้อย่างสิ้นเชิง "โจวเซิงเฉิน" สามคำนี้ทำให้ความรู้สึกอ่อนโยนที่สุดพรั่งพรูออกมาจากส่วนลึกของหัวใจเธอ การร่วมเผชิญกับแผนการร้าย การใส่ร้าย และก็การต่อสู้แย่งชิง ทำให้หัวใจของเขากับเธอค่อยๆ สนิทสนมกัน ตลอดชีวิตนี้เธอเพียงต้องการเรื่องราวที่เป็นของพวกเขาอย่างแท้จริงหาได้สนใจความร่ำรวยหรือการเดินคู่กับจักรพรรดิ์ไม่ พบกับเรื่องราวความรักที่มั่นคงของสองวัยรุ่น การแย่งชิง อำนาจ การฆาตกรรม ได้ใน "ทุกชาติภพ กระดูกงดงาม"
 
3. บุพเพรักหลานหลิง เล่ม 1-2 - ปาสี่
เขา..เก็บหน้ากากปีศาจที่นำพาพลังลึกลับมาให้ เขาทำศึกเพื่อปกป้องแว่นแคว้น ทุกคนเรียกขานเขาว่า เทพสงคราม เขาพานพบเด็กหญิงขายดอกบัวผู้มีปานแดงกลางหน้าผาก และจารจำนางผู้เป็นที่รักไว้ในใจ ยิ่งพรากจาก ยิ่งมิอาจลืมเลือน
นาง..เด็กหญิงกำพร้าในหอคณิกา มีชีวิตรอดเพราะอาจารย์ชุบเลี้ยง นางแฝงตัวเข้าแคว้นศัตรูเพื่อตอบแทนคุณอาจารย์ แม้จะต้องได้ชื่อว่าเป็นศัตรูกับบุรุษที่นางเฝ้าถวิลหาก็ตาม นางถลำลึกจนยากถอนตัว ยิ่งหักห้ามใจ ยิ่งรักไม่เสื่อมคลาย
ท่ามกลางสงครามแย่งชิงระหว่างแคว้น ทางแยกระหว่างความรักและบุญคุณ บุพเพรักของพวกเขาจะขับขานจนถึงท่วงทำนองสุดท้าย
 
4. มนตร์ทศทิศ - ราตรี อธิษฐาน
อุบัติเหตุที่เกิดขึ้นเมื่อเดินทางไปสักการะพระธาตุอินทร์แขวนส่งให้เอื้องดาวเรียงย้อนกลับไปในอดีตกาล ณ หงสาวดี เมืองทองที่เป็นดั่งดวงหฤทัยของผู้ที่ถูกขนานนามว่า พระเจ้าสิบทิศ แต่เมืองทั้งเมืองใช่ว่าจักมีแต่พระนามขององค์ประมุขผู้นี้เพียงเท่านั้น ภายในพระราชวังกัมโพชธานี สถานที่นี่ยังมีเรื่องราวมากมายที่ไม่อาจจารึกลงไว้ในประวัติศาสตร์
 
5. รัชศกเฉิงฮว่าปีที่สิบสี่ เล่ม 2 - เมิ่งซีสือ
มีโอกาสได้สร้างผลงานต่อเบื้องพระพักตร์ทั้งที ถ้าเป็นขุนนางคนอื่นๆอาจเนื้อเต้นด้วยความยินดี จบงานนี้ได้เลื่อนขั้น แต่ถังฟั่นแตกต่างจากขุนนางทั่วๆ ไป แทนที่จะชอบใจ กลับปวดขมับกลัดกลุ่มสิไม่ว่า เฮ้อ! เขาก็อยู่เงียบๆของเขาดีๆ แล้วเชียว สุยโจวมีเหตุกะทันหันให้ต้องไปจากเมืองหลวงเสียด้วย แต่ข้างกายถังฟั่นก็ใช่ว่าจะว่างลง เพราะผู้ที่เข้ามาเสียบแทน สวมบทคู่ขาเป็นการชั่วคราว ก็คือคุณท่านวังจื๋อผู้แสนจะเจ้ากี้เจ้าการเอาใจยากนั่นเอง คนคนนี้เปิดตัวมาแสนจะน่าหมั่นไส้ แต่ว่าอ่านไปอ่านมาก็มีมุมน่ารักๆ เหมือนกัน "รัชศกเฉิงฮว่าปีที่สิบสี่" ล่วงมาถึงเล่มสองแล้ว มาติดตามดูความก้าวหน้า ในด้านอาชีพการงานของ "ถังฟั่น" ควบคู่ไปกับแอบมองความสัมพันธ์ที่ใต้เท้าผู้พิพากษาของเรามีต่อผู้คนรอบตัวกันต่อได้เลย
 
6. ปีศาจราตรี - จิ่วลู่เฟยเซียง
ถ้าเกิดย้อนไปยุคเราเด็กๆ เวลาเดินทางไปต่างถิ่น หรือที่ที่พวกเราไม่รู้จัก คนแก่ชอบเตือนเสมอว่าอย่าไปคุยกับคนที่ไม่รู้จักหรือไปเก็บนั่นเก็บนี่กลับมา เพราะบางทีก็อาจจะเป็นของสกปรก เป็นของผิดสำแดงอาจมีเบื้องลึกภูมิหลังที่พวกเราไม่รู้เรื่องแล้วก็นำภัยมาสู่เราได้แต่ว่า "หลีซวง" นางเอกปีศาจราตรีเล่มนี้ ของเราไม่เชื่อคำเตือนประเภทนี้นัก นางไม่ตั้งใจเก็บเด็กผู้ชายความจำเสื่อมคนหนึ่งได้ระหว่างปฏิบัติภารกิจ เนื่องจากว่าเด็กบาดเจ็บรวมทั้งตัวคนเดียว นางก็เลยนำกลับมาเลี้ยงในค่ายทหาร ซ้ำยังตั้งชื่อใหม่ให้เขาอีกด้วย หลังจากเด็กคนนี้เข้ามาในค่าย เรื่องราวแปลกๆ หลายเรื่องก็ค่อยๆ ทยอยเกิดขึ้น มาถึงตรงนี้คนอ่านคงเริ่มสงสัยนิดๆ แล้วสิว่าเด็กคนนี้เป็นใครมาจากไหน จะแต่งเรื่องอะไรไว้บ้าง นี่จะเป็นนิยายจำพวกกลับชาติมาเกิด ย้อนเวลา หนึ่งร่างสองวิญญาณหรือเปล่า แต่มันแปลกยิ่งกว่านั้น
 
7. วิวาห์ไฮโซ เล่ม 2 - Jian Jia Ni Zi (เจียนจยาหนีจื่อ)
ลูกนอกสมรสของตระกูลเมิ่ง มีชะตาชีวิตอยู่สองแบบ แบบที่หนึ่งคือ 'มีประโยชน์' แล้วก็ถูกใช้ประโยชน์จนตาย แล้วก็แบบที่สอง 'ไร้ประโยชน์' หรือเป็นขยะรีไซเคิล เมื่อได้กลับมาเกิดใหม่อีกที เมิ่งถิงจึงเลือกแบบที่สอง อย่างไม่ลังเล ผลก็คือ เขาโดนจับสมรส! พบกับเรื่องราวน้องซื่อ แต่แอบร้าย แล้วก็เล่มสองยิ่งเพิ่มความร้ายอย่างสม่ำเสมอร้ายแบบซื่อๆจะเป็นอย่างไร ติดตามได้ใน "วิวาห์ไฮโซ เล่ม 2"
 
8. วิวาห์ไฮโซ เล่ม 1 - Jian Jia Ni Zi (เจียนจยาหนีจื่อ)
ความซื่อของเมิ่งถิงไม่เพียงแค่ทำให้เยืยนซุยหลง แต่ยังช่วยให้เมิ่งถิงเอาชีวิตรอดมาได้ทุกเหตุการณ์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเวลาปะทะกับแม่สามี และอาวุูธที่สำคัญอีกอย่างของเมิ่งถิงคือความเงียบ แต่ว่าอย่ารู้สึกว่าเมิ่งถิ่งใช้ความเงียบสงบสยบความเคลื่อนไหวอะไรเทือกนั้น จริงๆ เขาเพียงแค่สมองช้า คิดตอบโต้ไม่ทัน แต่ว่าศัตรูดันทนความเงียบไม่ไหว ชิงระเบิดตัวเองตายไปซะก่อนเพราะเหตุนี้ เมิ่งถิงเลยชนะทุกที ชนะแบบที่เจ้าตัวยังมึนงง พบกับ "วิวาห์ไฮโซ เล่ม 1" ในเล่มได้เลย
 
9. รัชศกเฉิงฮว่าปีที่สิบสี่ เล่ม 1 - เมิ่งซีสือ
ถังฟั่น มีชื่อรองว่า "รุ่งชิง" อายุพึ่งยี่สิบก็สอบได้ลำดับที่หนึ่งของบัณฑิตเอกชั้นหนึ่ง เวลานี้ดำรงตำแหน่งผู้พิพากษา ศาลซุ่นเทียน สมถะเรียบง่าย พอใจในสิ่งที่ตนมี พิถีพิถันก็แค่กับเรื่องอาหารเท่านั้น สุยโจว มีชื่อรองว่า "ก่วงชวน" นายกององครักษ์เสื้อแพรแห่งกองปราบฝ่ายเหนือ ไม่พูดไม่จาพูดน้อย ไม่ค่อยแสดงอารมณ์ รากฐานครอบครัวไม่ธรรมดา มีความเกี่ยวพันทางเครือญาติพระพันปิองค์ปัจจุบัน พันปีน ผู้ว่าการศาลซุ่นเทียน เป็นทั้งผู้บังคับบัญชาของถังฟั่่นและก็ศิษย์พี่ เพราะว่ามีอาจารย์เป็นนักปราชญ์ขุนนางคนเดียวกัน พันปิไม่ใช่คนขลาด เกรงอิทธิพล เพียงแต่รักความเงียบสงบ รู้รักษาตัวรอดปลอดภัยไว้ก่อน
 
10. วิวาห์ไฮโซ เล่ม 3 - Jian Jia Ni Zi (เจียนจยาหนีจื่อ)
ลูกนอกสมรสของตระกูลเมิ่ง มีโชคชะตาอยู่สองแบบ แบบที่หนึ่งคือ 'มีประโยชน์' และถูกใช้ประโยชน์จนตาย แล้วก็แบบที่สอง 'ไร้ประโยชน์' หรือเป็นขยะรีไซเคิล เมื่อได้กลับมาเกิดใหม่อีกที เมิ่งถิงจึงเลือกแบบที่สอง อย่างไม่ลังเล ผลก็คือ เขาถูกจับสมรส! สาววายที่นิยมนายเอกนุ่มนิ่ม น่ารักน่าเอ็นดู กับพระเอกไทป์ alpha

214

 
นิยาย คือ พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน ปี พ.ศ. 2525 ให้ความหมายของนิยายไว้ว่า หมายความว่าเรื่องที่เล่าต่อกันมา คือความไม่แน่นอนหรือไม่ใช่ข้อเท็จจริงทั้งสิ้น มีการเติมแต่งเสริมต่อบางตอนเรื่องราวนั้นจะต่างไปจากชีวิตจริง เช่น เกิดเป็น ลูกสัตว์แล้วมาใช้เวทย์มนต์เวทมนตร์คาถาให้กลายเป็นมนุษย์ได้ในตอนหลัง ฯลฯ
 
จากความหมายของนิทาน ตำนาน นิยาย ดังที่กล่าวมาแล้วข้างต้น จะเห็นว่ามีความคล้ายกัน จนบางคราวแยกกันไม่ออกและก็มีนิยาย ตำนาน นิทานพื้นบ้านอยู่เยอะแยะ ในขณะนี้พวกเราใช้คำว่านิยายเพื่อเรียกเรื่องราวที่มีผู้ประพันธ์ขึ้น บางครั้งก็อาจจะอิงหลักข้อเท็จจริงหรือไม่ก็ตาม นิยายมีหลายชนิด
 
ชนิดของนิยายต่างๆ
 
- นิยายรัก นิยายโรมานซ์ การดำเนินเรื่องโดยใช้เรื่องความรักเป็นหลักสำคัญ เน้นในเรื่องความรู้สึกรวมทั้งอารมณ์ของตัวละคร
- นิยายสยองขวัญ นิยายระทึกขวัญ เป็นการถ่ายทอดเรื่องราวด้วยตัวละครผี สาง นางไม้ เพื่อให้นักอ่านสัมผัสได้ถึงความน่าสะพรึงกลัว
- นิยายดราม่า การถ่ายทอดเรื่องราวด้วยผู้แสดงที่มีชีวิตแสนตรากตรำ รันทด และสอดแทรกคติธรรมในนิยายหัวข้อนั้นๆ
- นิยายแฟนตาซี เป็นการเดินเรื่องราวของตัวละครที่ไม่ใช่มนุษย์ เช่น แวมไพร์ แวร์วูลฟ์ แม่มด พ่อมด แล้วก็ ไซเรน เป็นต้น (นิยายแฟนตาซียังแบ่งได้อีกหลายชนิด
- นิยายพีเรียด หรือนิยายย้อนยุค เน้นในเรื่องการเขียนฉากหรือสถานที่เรื่องราวในอดีต และให้ตัวละครเข้ากับยุคนั้นๆ
- นิยายอิโรติก เน้นในเรื่องการบรรยายให้เข้าถึงความรู้สึกกามารณ์ของตัวละครในฉากกามารมณ์นั้นๆ
- นิยาย Yuri-Yaoi หรือนิยาย Y เน้นในเรื่องการบรรยายถึงความรักไร้พรมแดน แต่ไม่ใช่กับเพศตรงข้าม เน้นการบรรยายถึงความรักแบบเพศเดียวกัน ชายรักชาย หญิงรักหญิง
 
นิยายแปล
 
นิยายแปลก็คือ สำนวนที่แปลมาอีกภาษาหนึ่งซึ่งรูปคำประโยคจะไม่เคยทราบคนไทย อย่างนิยายจีนกำลังภายถือเป็นสำนวนนิยายแปลเหมือนกัน ลองเปรียบเทียบกันได้เลยระหว่างสำนวนที่คนไทยแต่งเองกับสำนวนเมืองนอกที่ผ่านการแปล
 
ยกตัวอย่างคำว่า "ประทับใจ" ในบางภาษามีคำศัพท์ที่แปลว่าประทับใจเยอะมาก แล้วก็แต่ละคำก็แสดงถึงความประทับใจที่ต่างกัน สมมุติว่าแปลเป็นไทยคือ "ประทับใจถึงขีดสุดจนจิตใจสะเทือนเลือดพลุ้งพล่านฮอร์โมนสูบฉีด" พอคิดคำไทยที่ใกล้เคียงและแบบกระชับมาหน่อย ตัวอย่างเช่น "สะเทือนอารมณ์" แต่บริบทมันไม่ใช่การสะเทือนอารมณ์ เราก็จะต้องพยายามหาคำที่เข้ากันกับบริบทให้ได้ ในที่สุดพอหาไม่ได้ หรือหาได้แต่ว่าใช้แทนแล้วมันแปลก แปลกแยก ลิเก อื่นๆอีกมากมาย พวกเราก็จำต้องมาชี้แจงให้ยาวหน่อย หรือเพิ่มคำสร้อยเพื่อให้เข้าถึงอารมณ์ตัวละครหรือสถานการณ์นั้นๆอีกที
 
นิยายแฟนตาซี นิยายแห่งโลกน่าพิศวง
 
นิยายแฟนตาซี Fantasy Fiction คือ นิยายที่จะเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับเรื่องที่น่าพิศวง อย่างเช่น เวทมนตร์ พลังเหนือธรรมชาติ สัตว์วิเศษ หรือ สัตว์ในตำนาน และก็ การต่อสู้ที่สุดแสนจะเกินบรรยาย ซึ่งนิยายแฟนตาซีจะสะท้อนให้เห็นถึงจินตนาการณ์ที่ไม่สิ้นสุดของคนอีกจำนวนไม่น้อย
 
เรื่องบางสิ่งบางอย่างไม่มีอยู่จริง แต่ คุณสามารถทำให้มันมีอยู่จริงได้ในรูปแบบของตัวอักษร
 
ในประเทศไทยเอง ก็มีสำนักพิมพ์เยอะไปหมด และก็แน่นอนว่านิยายแฟนตาซีก็มีเยอะแยะไม่แพ้กัน มีทั้งคนไทยแต่งเอง และ นิยายแปลจากเมืองนอก คุณสามารถเลือกซื้อมาอ่านได้ตามใจชอบ และเพลินไปกับนิยายได้อย่างเต็มเปี่ยมด้วย แฟนตาซีหลายๆเรื่อง อย่างในชุดของ "Forgotten Realm" แม้ว่าจะมีเครื่องกล หรือวิทยาศาสตร์เข้ามาประกอบอยู่ด้วย แต่ว่าด้วยโครงสร้างของฉาก แล้วก็เนื้อเรื่อง ย่อมมองออกในทันทีว่าเป็นแฟนตาซี
 
เสน่ห์ของนิยายแปลแฟนตาซี คือความหลากหลายของพล็อตเรื่อง และก็ตัวละคร อย่างไรก็แล้วแต่ ออร์สัน สก็อต การ์ด เคยให้ข้อคิดเห็นไว้ใน "How to write Science Fiction and Fantasy" ของเขาว่า นิยายแฟนตาซีที่สนุกและน่าติดตามนั้น เมื่อคุณสร้างโลกขึ้นมาแล้ว ไม่ใช่ว่าตัวละครทุกตัว (หรือบางตัว) จะมีอำนาจเวทมนตร์คาถา มีความสามารถไม่จำกัด นั่นคือควรต้องมีข้อจำกัด ตามกฎที่คุณทำขึ้นในโลกของคุณ อาทิเช่น ถ้าต้องการอำนาจใด อาจจะต้องเสียบางอย่างไปเพื่อแลกเปลี่ยนกับมันมา กล่าวคือไม่มีการกระทำใดๆที่ปราศจากผลกระทบ เป็นต้น
 

 
10 นิยายแปลแนะนำที่ ร้านหนังสือนายอินทร์
 
1. King Golf จอมซ่าราชานักหวด
เด็กเกเร ฉายา "พรีเดเตอร์" ยูกิ โซสุเกะ หลังจากได้เจอกับสายตาหยามเหยียดโดยไม่ตั้งใจของนักกอล์ฟสมัครเล่นยอดอัจฉริยะ คาสุมิ ฮิคารุ ก็เกิดความอะไรไม่รู้ล่ะ บุกไปถึงชมรมกอล์ฟ ทั้งที่กะจะแค่ไปป่วน แต่สุดท้ายก็ถูกท้าให้ตีกอล์ฟสักลูก และนั่นก็คือจุดเริ่มต้นให้เขาอยากเล่นกอล์ฟและอยากเป็นราชากอล์ฟล่ะนะ หากสงสัยว่า เจ้าพรีเดเตอร์จอมแสบ แต่อัดคนเก่งชะมัดอย่างโซสุเกะ จะทำอย่างไร
การฝึกฝนในต่างแดนที่ต้องทรมานกับลมและหญ้าที่มีสภาพแตกต่างกับสนามกอล์ฟในญี่ปุ่นได้ผ่านพ้นไปเป็นเวลา 1 ปีกับอีก 2 เดือนโซสุเกะที่เดิน ทางกลับมานั้น จะพัฒนาไปได้มากสักแค่ไหน!? เวทีการแข่ง SSS คัพจัดขึ้นที่ยูมิโนะอุระคันทรี่คลับซึ่งมีอีกชื่อที่เรียกกันคือ "สนามอสูรกาย"!!โซสุเกะจะสู้ศึกในสนามสุดโหดนี้ด้วยการเล่นรูปแบบใด!?
 
2. เทพยุทธ์เซียน GLORY
เรื่องราวเล่าถึงเกม Glory ซึ่งเป็นเกมแนว MMORPG ซึ่งเป็นเกมที่ได้รับความนิยมที่สุดแห่งยุค สามารถเล่นเป็นอาชีพและทำเงินได้ "Glory" คือเกมออนไลน์ที่ได้พัฒนาสู่กีฬา E-Sport มีสมาพันธ์ลีกอาชีพรองรับ จัดการแข่งขันอย่างมีระบบ เยี่ยชิว ยอดฝีมือผู้ลึกลับแห่งวงการ ผู้เคยคว้าแชมป์สามสมัยให้กับสโมสรเจียซื่อต้นสังกัด ได้ประกาศวางมือกะทันหัน เป็นผลให้ "อี๋เยี่ยจือชิว" ตัวละครระดับเทพที่เขาปั้นขึ้นมากับมือ ต้องตกไปสู่ผู้สืบทอดคนใหม่ที่หนุ่มกว่า! ทว่าการวางมือของเขา กลับไม่ได้เกิดจากความสมัครใจ และด้วยข้อบังคับของสัญญา ทำให้เขาต้องจากมาตัวเปล่า เมื่อผ่านมาเจออินเทอร์เน็ตคาเฟ่แห่งหนึ่งซึ่งเจ้าของร้านเป็นแฟนพันธุ์แท้กลอรี่ กำลังเปิดรับสมัครพนักงานกะดึก เขาจึงยื่นสมัครงานอย่างไม่ลังเล ประจวบเหมาะกับระบบเกมกำลังจะเปิดให้บริการเซิฟเวอร์ใหม่ มหาเทพสมญานามตำราสอนแห่งวงการลีกอาชีพ จึงได้ฤกษ์จุติอีกครา เพื่อกลับมาทวงคืนความยิ่งใหญ่ ให้ยุทธภพแห่งกลอรี่ต้องสะท้านสะเทือน!
 
3. เคล็ดลับมัดใจนายซื่อบื้อ
ไทเซเป็นนักเรียน ม.ปลายที่ประคบประหงมปกป้องเคย์จนเกินเหตุ เหตุเพราะสมัยยังเด็ก เคย์เคยช่วยเขาไว้ตอนที่ถูกรังแก ด้านเคย์ ทั้งที่น่าจะแค่ต้องการให้ตนกับไทเซเป็น "เพื่อนกันธรรมดา" ไม่ได้อยากปกป้อง หรือเป็นฝ่ายถูกปกป้องแท้ๆ แต่จู่ๆ ตัวเองกลับเข้าไปจูบและสารภาพรักกับไทเซซะงั้น
นั่นเป็นเรื่องราวสมัยที่เรายังไปเรียนพิเศษด้านดนตรี "กีตาร์นี่มันอะไรกันเนี่ย" แค่มาเรียนพิเศษอย่าเอาของหรูแบบนี้มาได้ไหม "เอาคืนมาน่า!" ช่วงเวลาที่เหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นเป็นประจำ ต่อให้พ่อนายเป็นนักดนตรียังไงก็อย่าเหลิงไปหน่อยเลย "โอ๊ะทนทายาดผิดคาดแฮะ" "เจ้าบ้าหยุดนะโว้ย!!" "จะโวยวายทำไม" "หรือนี่เป็นของดูต่างหน้าของท่านพ่อ?" "เอ๊ะ?" "อัคคุงข้างหลัง!" นั่นเป็นการพบพานระหว่างเรา หลังจากนั้นยามที่เพื่อนผู้ยิ่งใหญ่คนนี้มีเรื่องอะไร เราเป็นคนรุดไปช่วยเอง นั่นคือสิ่งที่เราคิด ติดตามได้ใน "เคล็ดลับมัดใจนายซื่อบื้อ"
 
4. ยอดนักสืบสมองกล KEI ไขกลพิศวงแฟ้มคดีปริศนา
คาซาโอกะ เคย์ เด็กหนุ่มสุดยอดอัจฉริยะหน้าตาดีสมบูรณ์แบบ สังกัดชมรมวิจัยเรื่องลึกลับของโรงเรียนเอกชนมัธยมปลายชั้นแนวหน้า! ในอดีต พ่อของเขาได้ทำการฝัง "อัลตร้าคอมพิวเตอร์" ไว้ในสมอง ทำให้หลายคดีที่ไม่สามารถอธิบายได้ มีแต่เขาเท่านั้นที่คลี่คลายด้......คดีปริศนาสองเรื่องยาว "ทำนองอาถรรพ์" ที่ฟังแล้วต้องตาย กับ "เกมที่ถูกย่างสด" ที่ผู้เล่นจะตายเหมือนกับตัวละครในเกม!! กำลังถูกไขโดยนักสืบสมองกลผู้นี้
 
5. รกกะ ตำนานผู้กล้าหกบุปผา
เมื่อปีศาจร้ายคืนชีพ พระเจ้าได้เลือก ผู้กล้าหกบุปผา มาเพื่อต่อกร แอตเล็ท ชายที่เรียกตัวเองว่าผู้ที่แข็งแกร่งสุดในโลกก็อยู่ในกลุ่มนี้ แต่ทว่าเมื่อเหล่าผู้กล้าพบกันกลับพบว่าคนที่ถูกเลือกมี 7 คน จึงเชื่อกันว่าหนึ่งในนั้นคือศัตรู ใครกันแน่ที่เป็นตัวปลอม ใครกันแน่ที่เป็นปิศาจร้าย จงร่วมกันไขปริศนา
จะเชื่อมั่น นึกสงสัย ช่วยเหลือ หรือว่าทำลาย ยามใดที่ 'มาจิน' ลืมตาตื่นจากก้นบึ้งแห่งความมือมิด เทพเจ้าแห่งโชคชะตาจะคัดเลือกผู้กล้าทั้งหก และมอบพลังให้ช่วยโลกแอดเล็ท เด็กหนุ่มผู้อ้างตนเองว่าแข็งแกร่งที่สุดในโลก ได้รับเลือกให้เป็น 'ผู้กล้าหกบุปผา' และมุ่งหน้าสู่การต่อสู้เพื่อหยุดยั้งการฟื้นคืนชีพของเทพปีศาจ แต่ไม่รู้เพราะเหตุใดผู้กล้าที่มารวมตัวกัน ณ ดินแดนแห่งสัญญากลับมีเจ็ดคน หลังจากนั้นอาณาเขตม่านหมอกลวงตาก็ทำงานทันที ทำให้ทั้งเจ็ดคนถูกขังเอาไว้ในป่า เมื่อเหล่าผู้กล้ารู้สึกตัวว่าในบรรดาเจ็ดคนมีคนหนึ่งเป็นศัตรู พวกเขาก็ตกอยู่ในวังวนแห่งความสงสัย และผู้ที่ต้องสงสัยก่อนเป็นอันดับแรกก็คือ แอดเล็ท... เรื่องราวสุดยอดแฟนตาซีที่ท้าทายกับตำนานต่อสู้กับปริศนา! เริ่มต้นขึ้นอย่างยิ่งใหญ่!
 
6. นิวซาก้า พลิกตำนานวีรชน
เพื่อแก้ไขเรื่องราวการล่มสลายของมนุษยชาติ ไคล์ผู้มีความทรงจำของภพก่อนจึงออกเดินทางรอบที่สอง เพื่อช่วยโลกร่วมกับพวกพ้องอีกครั้ง! เดือนพฤษภาคม ปี 2826 ตามปฏิทินสร้างโลก เผ่าปีศาจเริ่มทำการบุกโจมตีเผ่ามนุษย์ การต่อสู้ที่ไม่มีคำว่ากลัวตายของเผ่าปีศาจนั้นทรงพลังอย่างมาก อาณาจักรของมนุษย์ถูกทำลายล้างลงไปหลายแห่งในพริบตา ตามคำสั่งของราชาปีศาจตนใหม่ ซึ่งเพิ่งจะขึ้นครองอำนาจโดยภายหลังถูกเรียกว่า "การรุกรานครั้งใหญ่" เดือนเมษายน ปี 2827 จักรวรรดิกัลกันที่มีกองทัพที่แข็งแกร่งของเผ่าพันธุ์มนุษย์ล่มสลาย เผ่าพันธุ์มนุษย์ที่ไม่สามารถถอยหลังกลับได้อีก ได้รวบรวมกำลังทหารที่ยังหลงเหลืออยู่ จัดตั้งเป็นกองทัพทหารชั้นหัวกะทิบุกเข้าไปที่ปราสาทของราชาปีศาจ หน่วยจู่โจมพิเศษนักดาบเวทมนตร์เป็นศูนย์กลาง ติดตามเรื่องราวการแก้ไขการล่มสลายของมนุษยชาติเพื่อช่วยโลกอีกครั้งใน "นิวซาก้า พลิกตำนานวีรชน"
 
7. ฝันถึงเรื่องนั้นอีกแล้ว
ผลงานอีกเรื่องของ "ซูมิโนะ โยรุ" ผู้เขียนเรื่อง "ตับอ่อนเธอนั้น ขอฉันเถอะนะ" ที่ทุกคนคงประทับใจกับเนื้อเรื่องอันเรียบง่ายแต่ทรงพลัง ไม่ว่าใครก็ต้องมี "เรื่องที่อยากแก้ไข" กันทั้งนั้น "นาโนกะ" คือเด็กประถมที่ไม่มีเพื่อนที่โรงเรียนเลยสักคน แต่กลับมีเพื่อนนอกโรงเรียนตั้งหลายคน ทั้ง "คุณมินามิ" ผู้มีรอยแผลที่ข้อมือ "คุณดอก" พี่สาวคนสวยที่ทำงานขายฤดูกาล "คุณยาย" ที่อาศัยอยู่เพียงลำพังแต่ทำขนมอร่อยมาก และ "เธอ" ยายตัวแสบที่มีหางสั้นกุด แล้ววันอันแสนสงบสุขของ นาโนกะก็ต้องสั่นคลอน เมื่อคุณครูให้เธอจับคู่กับ "คิริวคุง" เพื่อเขียนเรียงความเรื่อง "ความสุขคืออะไร" แต่กลับเกิดเรื่องที่ทำให้เพื่อนคนนี้ ไม่มาโรงเรียนเสียนี่ นาโนกะจึงต้องอาศัยความช่วยเหลือจากเพื่อนนอกรั้วของเธอทั้งสี่ เพื่อตามตัวคิริวคุงกลับมาช่วยกันทำรายงาน และช่วยกันหาคำตอบให้กับตัวเองว่า "ความสุข" ของทั้งคู่คืออะไรกันแน่
โคยานากิ นาโนะกะ เด็กสาวที่มีปัญหาเรื่องการเข้าสังคมกับเพื่อนๆ เธอตามหาว่า "ความสุขคืออะไร" หลังเลิกเรียกทุกวันเธอจะออกไปเจอกับ - เด็กสาวม.ปลายที่ใช้การกรีดข้อมือในการระงับสติอารมณ์ - พี่สาวคนสวยที่ทำงานกลางคืน - คุณยายที่อาศัยอยู่ตัวคนเดียวบนเนินเขาใกล้บ้าน ซึ่งทุกคนที่กล่าวมานั้นคือตัวของนาโนะกะเองในอนาคต
ทุกคนมาพูดคุยกับเธอเพื่อที่ช่วยให้เธอแก้ไขข้อผิดพลาดในชีวิต อย่างเด็กสาวม.ปลาย คืออนาคตของเธอที่รู้สึกผิดจากการที่ทะเลาะกับพ่อแม่ของเธอซึ่งได้เสียชีวิตไปในอุบัติเหตุหลังเหตุการณ์ที่ทะเลาะกัน ส่วนพี่สาวที่ทำงานกลางคืนคืออนาคตที่นาโนะกะเลือกที่จะเลิกข้องเกี่ยวกับผู้คน เพราะผิดหวังในตัวเพื่อนรอบข้าง ที่ทำเป็นเหมือนเธอไม่มีตัวตนไปด้วยอีกคน
เมื่อเธอเข้าไปช่วยเพื่อนที่ถูกกลั่นแกล้ง ซึ่งหลังจากที่นาโนะกะแก้ไขข้อผิดพลาดเรื่องต่างๆ ที่ทั้งสามคนแนะนำ ตัวเธอในอนาคตทั้งสามคนก็หายไป และหลังจากนั้นนาโนะกะเองก็ได้ค้นพบคำตอบของคำถามที่ว่า "ความสุขคืออะไร" อีกหนึ่งผลงานเรื่องเยี่ยมจากผู้เขียน "ตับอ่อนเธอนั้นขอฉันเถอะนะ"
 
8. รักเธอสุดหัวใจแต่ยังไงก็ต้องฆ่าเธอ
เวลาคุณรักใครสักคนคุณคงอยากจะอยู่เคียงข้างและปกป้องเขาให้ถึงที่สุด แต่การ์ตูนเรื่องรักเธอสุดหัวใจแต่ยังไงก็ต้องฆ่าเธอนั้น ความรักกลับกลายเป็นแรงกระตุ้นที่บิดเบี้ยวและน่ากลัว ความรักทำให้คุณอยากฆ่าคนที่คุณรักให้ตายด้วยมือของตัวเอง ยิ่งรักมากเท่าไรจิตสังหารและพลังแฝงจะยิ่งรุนแรงมากขึ้นเท่านั้น
"คามิชิโระ ทาคุ" หลงรักเพื่อนสาวคนสนิท "ฮานะโซโนะ มิกะ" และวางแผนที่จะสารภาพรักกับเธอในวันรุ่งขึ้น แต่จากการเข้าไปช่วยเหลือหญิงสาวที่ถูกคุกคามจากชายคนนึงทำให้ชีวิตของเขาเปลี่ยนไปตลอดกาล คามิชิโระติดเชื้อจิตสังหารจากชายคนนั้นและเริ่มมีภาพจินตนาการว่าเขาได้ฆ่าฮานะโซโนะในทุก ๆ ครั้งที่เขาอยู่กับเธอ ในขณะที่เขายังพอครองสติไว้ได้เขาพยายามหลึกเลี่ยงการเผชิญหน้ากับฮานะโซโนะเพื่อไม่ให้จิตสังหารในจิตใจปะทุออกมา แต่แล้วฮานะโซโนะที่เขารักและปรารถนาที่จะฆ่ากลับถูกลักพาตัวไปโดยกลุ่มผู้ติดเชื้อคนอื่น คามิชิโระออกตามหาฮานะโซโนะทันทีโดยที่ไม่อาจแยกแยะสติของตัวเองได้ด้วยซ้ำว่าแท้จริงเขาต้องการที่จะปกป้องฮานะโซโนะจากอันตรายหรือเขาต้องการที่จะฆ่าเธอด้วยมือของเขาเองกันแน่ การต่อสู้ของจิตใจเพื่อหญิงสาวผู้เป็นที่รักเริ่มต้นขึ้นแล้ว ความรู้สึกที่อยากจะปกป้องหรือจิตสังหารแห่งการฆ่าฟันจะเป็นฝ่ายครอบครองจิตใจของคามิชิโระกันแน่ ติดตามทั้งหมดได้ใน "รักเธอสุดหัวใจแต่ยังไงก็ต้องฆ่าเธอ"
 
9. จะรักหรือจะหลอก
ในสถานการณ์ที่อัตราการเกิดตกต่ำสุดขีดในประเทศญี่ปุ่น จึงเกิด "กฏยูคาริ" ขึ้นมาเพื่อแก้วิกฤตินี้ โดยมาตรการที่ว่านั้นก็คือ "การจับคลุมถุงชน" วัยรุ่นชายหญิงที่อายุครบ 16 ปีโดยหน่วยงงานของรัฐบาล อาศัยการวิเคราะห์ความเหมาะสมของพันธุกรรมทั้งสองฝ่ายเพื่อให้ในอนาคตจะได้มีปัญหาการครองเรือนน้อยที่สุด แล้วอัตราการเกิดของเด็กรุ่นใหม่ก็จะจะสูงขึ้นตามมาเอง และที่ผ่านมามาตรการนี้ก็ประสบความสำเร็จมากซะด้วยสิ
แต่หัวใจของคนเรานั้นเต็มไปด้วยอารมณ์ความรู้สึกที่ไม่มีคอมพิวเตอร์เครื่องไหนเข้าใจได้ เช่นเดียวกับกรณีของ เนจิมะ ยูคาริ (เนจิ) หนุ่มน้อยวัย 15 ปีที่กำลังจะถึงวันเกิดปีที่ 16 ของเขาแล้ว เนจิกำลังตกหลุมรักเพื่อนร่วมชั้น ทาคาซากิ มิซากิ อย่างหัวปักหัวปำและมุ่งหวังที่จะแต่งงานกับเธอให้ได้ แล้วเนจิก็ได้รู้ในภายหลังว่าเขาและเธอนั้นมีใจให้กันมาตั้งแต่เด็กแล้ว แต่ความสมหวังนี้จะง่ายดายมากถ้าไม่มี "กฏยูคาริ" มาเป็นอุปสรรค
ความเข้มงวดของ "กฏยูคาริ" นั้นแม้จะเป็นแค่กฎที่ไม่ได้มีบทลงโทษทางแพ่งหรืออาญาอย่างชัดเจน เพราะหากเจ้าตัวไม่เห็นด้วยด้วยเหตุผลใดๆ ก็ตามก็ยังสามารถจะปฏิเสธการจับคู่ได้ แต่ผลกระทบที่อาจตามมานั้นใหญ่หลวงกว่าที่คิด เพราะผู้ที่ปฏิเสธอาจจะต้องถูกริดรอนสวัสดิการต่างๆ จากรัฐบาล การถูกต่อต้านจากคนรอบข้าง การเข้ารับการใช้บริการทางการแพทย์ การเข้าศึกษาต่อทั้งของตัวเองและของลูกหลาน รวมไปถึงการสมัครงานเข้าองค์กรต่างๆ ที่จะต้องพิจารณาตรงส่วนนี้เป็นอันดับแรกๆ ด้วย ทำให้ "กฏยูคาริ" นั้นศักดิ์สิทธิ์มากสำหรับสังคมญี่ปุ่นในเรื่องนี้
ในวันที่เนจิอายุครบ 16 ปีเต็มก็ได้มีตัวแทนรัฐบาลมาส่งสารถึงที่บ้านว่าคู่แต่งงานของเขานั้นก็คือ ซานาดะ ริรินะ สาวน้อยวัยเดียวกันที่สวยน่ารักมากๆ ทั้งคู่ไม่ค่อยเห็นด้วยกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นนี้ และพอริรินะรู้ว่าเนจิมีใจให้กับทาคาซากิอยู่แล้วก็ไม่รอช้า ออกตัวเชียร์คู่หมั้นของเธอให้สมหวังกับคนที่รักจริงๆ ทันที แม้คู่ต่อสู้จะเป็นถึงรัฐบาลญี่ปุ่นและต้องคอยพบกับทาคาซากิแบบหลบๆ ซ่อนๆ ก็ตาม
เมื่อหญิงสาวทั้งสองได้พบกัน ได้เป็นเพื่อน ได้แก้ปัญหา และได้ให้กำลังใจซึ่งกันและกันโดยมีเนจิเป็นจุดศูนย์กลางของความสัมพันธ์ ไปๆ มาๆ ความรู้สึกของทั้งสามคนเริ่มสั่นคลอนลงทีละนิดๆ เนจิเริ่มลังเลว่าเขาควรจะรักใครกันแน่ ทาคาซากิเริ่มอ่อนแรงและยอมรับสถานภาพมือที่สาม และริรินะก็เริ่มหลงรักเนจิมากขึ้นเรื่อยๆ
 
10. คุณฮิมาวาริ
อีกหนึ่งการ์ตูน Feel Good ที่สื่ออารมณ์ได้ดีมากๆ กับบรรยากาศเนื้อเรื่องที่สบายๆ และดูอบอุ่น ถ้าคุณกำลังตามหาการ์ตูนสักเรื่องที่อ่านแล้วทำให้หัวใจพองโตเรื่องนี้อาจจะเป็นคำตอบที่คุณตามหาอยู่ก็เป็นได้ ลายเส้นจัดว่าสวยงามเอาเรื่องบวกกับเนื้อเรื่องสบายๆ แต่ดึงดูด และชวนติดตามอย่างไม่น่าเชื่อทำเอาวางการ์ตูนเรื่องแทบไม่ลง การดำเนินเรื่องถือว่าค่อนข้างเรื่อยเปื่อย และซ้ำซากเพราะเรื่องราวต่างๆ ส่วนมากจะเกิดขึ้นที่ร้านหนังสือฮิมาวาริจะมีเปลี่ยนฉากเปลี่ยนบรรยากาศบ้างก็เล็กน้อย แต่น่าแปลกมากที่รู้สึกชอบมันซะอย่างนั้น ราวกับว่าผู้เขียนพยายามสร้างความผูกพันระหว่างผู้อ่านแล้วร้านหนังสือเก่าๆ ร้านนี้ ซึ่งสำหรับเราแล้วผู้เขียนทำสำเร็จอย่างงดงาม เรียกว่าสมบูรณ์แบบเลยแหละ
 
 

215

 
จิตวิทยา คือ ?
 
จิตวิทยา (Psychology) หมายถึงศาสตร์ที่ว่าด้วยการศึกษาเกี่ยวกับจิตใจ (กระบวนการของจิต), กระบวนความคิด, แล้วก็พฤติกรรม ของมนุษย์ด้วยกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ เนื้อหาที่นักจิตวิทยาศึกษา เช่น การรับรู้ (กระบวนการรับข้อมูลของมนุษย์), อารมณ์, บุคลิก, พฤติกรรม, และรูปแบบความสัมพันธ์ระหว่างบุคคล จิตวิทยายังสื่อความหมายรวมไปถึงการประยุกต์ใช้วิชาความรู้กับกิจกรรมในด้านต่างๆ ของมนุษย์ที่เกิดขึ้นในชีวิตประจำวัน (เช่นกิจกรรมที่เกิดขึ้นในครอบครัว, ระบบการเรียน, การจ้างงานเป็นต้น) และยังรวมถึงการใช้วิชาความรู้ทางจิตวิทยาสำหรับเพื่อการรักษาปัญหาสุขภาพจิต นักจิตวิทยามีความมานะบากบั่นที่จะศึกษาทำความเข้าใจถึงหน้าที่หรือจุดประสงค์ต่างๆ ของพฤติกรรมที่เกิดขึ้นมาจากตัวบุคคลแล้วก็ความประพฤติที่เกิดขึ้นในสังคม ขณะเดียวกันก็ศึกษาวิจัยขั้นตอนของระบบประสาทซึ่งส่งผลต่อการควบคุมแล้วก็แสดงออกของความประพฤติปฏิบัติ
 
สรุปแล้วจิตวิทยาก็ คือ ศาสตร์ที่เรียนรู้เกี่ยวกับการกระทำของคนเรานั่นเอง
 
ภาษาทางจิตวิทยา
 
จิตวิทยาก็มีการบัญญัติศัพท์ขึ้นมาเพื่อใช้สำหรับการศึกษาเหมือนกับศาสตร์อื่นๆ คำศัพท์นิดหน่อยประกอบด้วยศัพท์ที่คนทั่วไปใช้กันอยู่ในชีวิตประจำวัน ศัพท์บางคำก็เป็นคำศัพท์ทางวิชาการที่คุ้นเคย แม้ว่าศัพท์บางคำจะเป็นที่เข้าใจ แล้วก็คุ้นเคยของคนทั่วๆไป แม้กระนั้นนักจิตวิทยาก็ได้ให้คำจำกัดความเฉพาะเพื่อเกิดความเข้าใจอย่างถ่องแท้ในการศึกษาจิตวิทยา
 
โครงสร้างของจิตวิทยา
 
1. ลักษณะเนื้อหาวิชา แบ่งเป็นเรื่องต่างๆ ยกตัวอย่างเช่น พัฒนาการของมนุษย์, กรรมพันธุ์, ระบบการตอบสนอง, การรับรู้, การรู้สึก, แรงจูงใจ, อารมณ์, ภาษา การคิด และก็การจัดการกับปัญหา, ความหลักแหลมและก็การทดลองปฏิภาณ, บุคลิกลักษณะแบบต่างๆ แล้วก็การคาดคะเนบุคลิกภาพ, แบบต่างๆ

2. เป้าหมายของจิตวิทยา เป้าหมายของการศึกษาได้มาจากกรรมวิธีที่ต่างกัน 3 จำพวก อาทิเช่น
 
- การค้นคว้าปรับใช้ ให้ความสนใจสำหรับในการจัดการกับปัญหาที่เกิดขึ้นขณะนั้น ผลจากการวิจัยในปัญหานี้สามารถ นำมาประยุกต์ใช้ในชีวิตจริงได้ การศึกษาวิจัยดังกล่าวจะต้องได้รับการวางเป้าหมายดำเนินการ ควบคุมวิธีการด้วยความระวัง การศึกษาค้นคว้าวิจัย บริสุทธิ์ก่อให้เกิดการวิจัยประยุกต์อย่างมีแบบแผน
- การปรับใช้ เป็นการประยุกต์คำตอบที่ได้ ไปใช้ในเหตุการณ์จริงๆในโลกซึ่งไม่มีการควบคุม สถานการณ์อะไรก็แล้วแต่นักจิตวิทยากลุ่มที่มีการปรับใช้เยอะที่สุด คือ นักจิตวิทยาคลินิก รองลงมาคือ นักจิตวิทยาการศึกษา
- สถานที่ดำเนินงานทางจิตวิทยา นักจิตวิทยาสาขาต่างๆ ปฏิบัติงานในสถานที่ต่างกัน บางสาขาทำวิจัยรวมทั้งสอนในมหาวิทยาลัยแล้วก็วิทยาลัย บาง สาขาทำงานในสถานพยาบาลรวมทั้งโรงพยาบาล, ศูนย์บริการให้คำแนะนำต่างๆ ในสถานที่เรียน, บริษัทหรือโรงงานอุตสาหกรรม, ศูนย์สุขภาพที่เกิดขึ้นกับจิต ศูนย์คุ้มครองป้องกันรวมทั้งปราบปรามสารเสพติด ศูนย์พักฟื้นคนป่วยที่เพิ่งถูกส่งออกจากโรงพยาบาล ศูนย์บริการประชาชน เป็นต้น
 
ความสัมพันธ์ของจิตวิทยากับศาสตร์อื่น
 
จิตวิทยามีความสัมพันธ์เหนียวแน่นกับวิชาจิตเวช (อันเป็นส่วนใดส่วนหนึ่งของวิชาแพทยศาสตร์ คือสาขาที่ว่าด้วยการรักษาจิตใจ) และกับศาสตร์ทางด้านชีววิทยา ซึ่งยกตัวอย่างเช่น สรีรวิทยา ประสาทวิทยาและชีวเคมี การกระทำ ของบุคคลจำเป็นมากที่จะจำเป็นต้องศึกษาจากบุคคลนั้นโดยตรงก่อน ทั้งทางด้านพันธุกรรม ระดับวุฒิภาวะ แล้วก็สภาพการ เคลื่อนไหวของร่างกาย รวมทั้งปัจจุบันนี้ก็สัมพันธ์อย่างเด่นชัดกับมานุษยวิทยาและก็สังคมวิทยา โดยมานุษยวิทยาเรียนรู้จุดเริ่มต้น ของคนเรา รวมทั้งการสืบทอดวัฒนธรรม ขนบธรรมเนียมประเพณี สภาพของสิ่งแวดล้อมที่เกิดขึ้นทางด้านที่เกี่ยวข้องกับสังคม ส่วนทางสังคมวิทยาจะเน้น ศึกษากลุ่มสังคมมากกว่าตัวบุคคล โดยศึกษาการปะทะสังสรรค์ของแต่ละบุคคลในกลุ่ม และก็ศึกษาอิทธิพลของกลุ่มที่มีต่อ แต่ละบุคคล
 
หนังสือสร้างแรงจูงใจ
 
ถ้าคุณกำลังมองหาเคล็ดลับที่จะนำไปสู่การบรรลุผล คำตอบบางทีอาจอยู่ที่นี่แล้ว คุณอาจกำลังคิดว่า เคล็ดลับก็คงจำต้องถูกเก็บเป็นความลับ โดยไม่ให้ผู้ใดทราบได้อย่างง่ายๆซึ่งคุณกำลังคิดผิด จริงๆแล้วมหาเศรษฐีที่บรรลุเป้าหมายในชีวิตได้แชร์เทคนิคต่างๆ ของพวกเขา ไว้ให้พวกคุณมากมายก่ายกอง แล้วอะไรจะดีไปกว่าการได้ศึกษาวิถีทางที่ประสบความสำเร็จจากคนที่บรรลุผลสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ของโลกล่ะ
 
คนนำทางธุรกิจ ผู้ประกอบการ รวมทั้งดาราผู้แสดงมากมายต่างเห็นด้วยว่าหนังสือเหล่านี้เป็นหนังสือที่มีผลดีต่อการใช้ชีวิตของพวกเขาอย่างยิ่ง บางเล่มได้อธิบายถึงแนวความคิดการลงทุน บางเล่มก็เป็นกระบวนการปรับปรุงตนเอง ซึ่งหนังสือน่าอ่านพวกนี้จะบอกเทคนิคของสิ่งที่คุณจะต้องเปลี่ยนเพื่อที่คุณจะได้ก้าวเดินไปสู่การบรรลุผลแล้วก็เป็นผู้เชี่ยวชาญแบบพวกเขา
 


10 หนังสือจิตวิทยา และหนังสือสร้างแรงบันดาลใจ ที่แนะนำ โดยร้านหนังสือนายอินทร์
 
1. คุณสมบัติ 8 อย่างที่จะทำให้คุณโดดเด่นในที่ทำงาน
คนจำนวนมากที่ชอบบ่นงานของตัวเอง พวกเขาชอบพูดว่าตัวเองพยายามตั้งใจทำงานอย่างหนักแต่เจ้านายก็ไม่เคยมองเห็น เพื่อนร่วมงานของคุณได้เลื่อนขั้นแต่คุณคิดว่าคุณทำได้ดีกว่าพวกเขา ก่อนที่คุณจะบ่นคุณควรจะหันกลับมามองตัวเองก่อน คุณคิดว่าคุณมีอะไรพิเศษกว่าพวกเขา คุณทำงานได้ดีกว่าพวกเขาหรือเปล่า แล้วคุณจะทำให้เจ้านายของคุณ มองเห็นพรสวรรค์ของคุณได้อย่างไร พรสวรรค์และความสามารถของคุณจะทำให้คุณแตกต่าง หนังสือ "คุณสมบัติ 8 อย่างที่จะทำให้คุณโดดเด่นในที่ทำงาน" เล่มนี้จะทำให้คุณรู้ว่าจะโดดเด่นในที่ทำงานได้อย่างไรด้วยคุณสมบัติ 8 อย่างนี้
ประสิทธิภาพในการทำงาน-บริษัทไม่ได้สนใจแค่เพียงว่าคุณทำงานเสร็จเรียบร้อยเพียงเท่านั้น แต่เขาให้ความสนใจกับการใช้เวลาในการทำงานและมีประสิทธิภาพที่ดีของงานที่คุณทำด้วย ให้ความสำคัญกับผลลัพธ์-บริษัทจะสนใจแค่เพียงว่าคุณให้ประโยชน์อะไรกับบริษัทได้บ้าง ไม่ได้สนใจว่าคุณต้องผ่านความยากลำบากอะไรมาบ้าง การสื่อสาร-คนที่เป็นผู้นำที่ดี 90% สามารถมองเห็นได้จากทักษะการสื่อสารของเขา ทีมเวิร์ก-เจ้านายจะไล่คุณออกถ้าเกิดว่าคุณไม่สามารถทำงานเป็นทีมได้ไม่ว่าคุณจะเป็นพนักงานที่ดีแค่ไหนในบริษัท คุณจะประสบความสำเร็จในหน้าที่การงานได้มากแค่ไหนขึ้นอยู่กับคุณสมบัติทั้งหมดเหล่านี้ มีคำพูดว่า ทักษะและความสามารถของคุณทำให้คุณมาอยู่ในตำแหน่งของคุณ และคุณสมบัติในการทำงานเหล่านี้จะช่วยทำให้คุณได้เปรียบในการแข่งขัน ทำให้คุณพิเศษ ไม่มีใครที่จะมาแทนที่คุณได้ แล้วคุณก็จะเป็นพนักงานที่ดีที่สุดในบริษัท คุณจะประสบความสำเร็จในหน้าที่การงานได้มากแค่ไหน ขึ้นอยู่กับคุณสมบัติทั้งหมดที่อยู่ในหนังสือ "คุณสมบัติ 8 อย่างที่จะทำให้คุณโดดเด่นในที่ทำงาน" เล่มนี้
 
2. วิธีสร้างพลังใจสู้ชีวิต และมีวินัยในตนเอง เพื่อก้าวสู่เป้าหมายที่ตั้งใจ
หนังสือเล่มนี้สอนในเรื่องขั้นตอนและวิธีการที่เข้าใจง่าย ไม่ว่าจะเป็นการสร้างความอดทน การวางแผน การสร้างความเข้าใจในความปรารถนาของตน การแบ่งปัญหาออกเป็นส่วนย่อยๆ การฝึกตนให้คิดบวกขจัดความคิดลบ และค้นหาความแข็งแกร่งที่มีอยู่ในตัวตนของเรา ซึ่งผลลัพธ์ได้คือการมีชีวิตที่ดี และประสบความสำเร็จตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ หนังสือ "วิธีสร้างพลังใจสู้ชีวิต และมีวินัยในตนเอง เพื่อก้าวสู่เป้าหมายที่ตั้งใจ" เล่มนี้เป็นหนังสือดี มีเนื้อหากระชับ จับแต่ประเด็นสำคัญๆ มานำเสนอผ่านการ์ตูนก้างปลา ซึ่งจะช่วยให้ท่านสามารถก้าวสู่เป้าหมายที่ตั้งไว้ และมีชีวิตที่ดีได้ตลอดไป
พลังใจ คือปัจจัยสำคัญสู่ความสำเร็จ พูดอีกนัยหนึ่งคือการมีพละกำลังที่จะลงมือทำ หรือละเว้นการกระทำ เพื่อให้บรรลุเป้าหมายไม่ว่าเป้าหมายจะเป็นอะไรก็ตาม พอถึงเวลาคุณจะรู้ตัวและลุกขึ้นมาทำอะไรสักอย่าง และมีบางเวลาที่เราต้องหลีกเลี่ยงที่จะทำอะไรสักอย่าง ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับว่าคุณมีพลังใจมากพอที่จะขับเคลื่อนให้คุณลงมือทำตามความคิดนั้นได้หรือไม่
เป้าหมายของเราคือ สอนคุณในสิ่งที่เราได้เรียนรู้มา เราหวังใจว่าเราจะนำเสอนไอเดียที่ช่วยให้คุณนำไปปรับใช้ในการพัฒนาพลังใจของคุณเพื่อให้คุณสามารถทำเป้าหมายได้สำเร็จ "คุณสมบัติหนึ่งอย่างที่แยกคนคนหนึ่งให้โดดเด่นออกจากกลุ่ม ไม่ใช่ความสามารถพิเศษ การศึกษา หรือความฉลาดระดับอัจฉริยะ หากคือ เรื่องวินัยในตนเอง ซึ่งเป็นกุญแจสำคัญที่ส่งผลให้คนคนหนึ่งทำตามสิ่งที่ปรารถนาได้ ในขณะที่อีกหลายคนยังจมปลักอยู่กับความขาดแคลน เมื่อเรามีวินัยในตนเองแล้ว ทุกอย่างก็เป็นไปได้ หากปราศจากวินัยในตนเองแล้ว ทุกอย่างก็เป็นไปได้ หากปราศจากวินัยในตนเอง แม้กระทั่งเป้าหมายง่ายๆ ก็ดูแทบเป็นไปไม่ได้เลย"
 
3. เทคนิคตั้งค่าสมอง ของคนที่ประสบความสำเร็จ Train Your Brain for Success
"ไม่ต้องฉลาด.. คุณก็คิดเก่ง จำแม่น อ่านเกมขาดได้" วิธีคิดแบบนี้หมายความว่าการประสบความสำเร็จไม่ได้เกิดขึ้นเพราะเวทมนตร์ โชคช่วย หรือสถานการณ์เป็นใจ แต่เป็นเพราะสิ่งที่คุณคิดและสิ่งที่คุณทำ ลองอ่านเป้าหมายที่คุณเขียนแล้วตอบดูว่าเคยมีคนทำสำเร็จมาก่อนไหม ผมแทบไม่เคยเจอใครตอบว่าไม่มีเลย ไม่ว่าเป้าหมายของคุณจะเป็นอะไร ย่อมต้องมีคนเคยทำสำเร็จมาแล้ว และนี่ก็คือข่าวดีสำหรับคุณ ถ้ามีคนเคยประสบความสำเร็จในสิ่งที่คุณตั้งเป้าไว้ ก็มั่นใจได้เลยว่าพวกเขาไม่ได้เก่งหรือโชคดีไปกว่าคุณ แต่พวกเขาทำได้เพราะมีวิธีคิดและทำอะไรบางอย่างที่ต่างออกไป หากคุณคิดและทำแบบเดียวกับพวกเขา คุณก็จะประสบความสำเร็จได้แน่นอน จำไว้ว่าความสำเร็จย่อมทิ้งเบาะแสไว้ ดังนั้น ไม่ว่าคุณจะเริ่มต้นจากตรงไหน คุณก็สามารถก้าวไปสู่จุดที่คุณต้องการได้ พูดอีกอย่างก็คือ หากคุณต้องการไปถึงเป้าหมายให้เร็วที่สุด ลองมองหาบุคคลต้นแบบที่เคยทำสิ่งนั้นสำเร็จมาแล้วและทำตามเขา คุณก็จะบรรลุเป้าหมายได้เร็วและง่ายดายมากขึ้น และคุณจะพบเทคนิคดีๆในหนังสือ "เทคนิคตั้งค่าสมอง ของคนที่ประสบความสำเร็จ" เล่มนี้
 
4. 1 นาที ฝึกมองคนให้ทะลุ
ฝึกฝนให้ตัวเองมี "ดวงตาที่มองทะลุจิตใจคน" ได้อย่างไรกันนะ พวกเราแค่คอยพิจารณาและศึกษาสิ่งต่างๆ รอบตัวในแต่ละวัน หมั่นสั่งสมประสบการณ์ จึงจะเข้าใจวิธีดูคนให้ออก เข้าใจจุดแข็ง จุดอ่อน ข้อดีและข้อเสียของอีกฝ่ายได้อย่างรวดเร็ว ผ่านการสนทนากันเพียงชั่วขณะสั้นๆ เท่านั้น หนังสือ "1 นาที ฝึกมองคนให้ทะลุ" เล่มนี้จะกล่าวถึงหลักจิตวิทยาและหลักสังคมศาสตร์ โดยอ้างอิงตัวอย่างจากสถานการณ์จริง ข้อสรุป และตัวอย่างจำนวนมากประกอบกัน ถือเป็นหนังสือจิตวิทยาที่อ้างอิงหลักวิทยาศาสตร์มาอธิบายวิธีมองคน วิธีแบ่งประเภทคน วิธีจูงใจคน ส่งผลให้สามารถปรับตัวไปตามสถานการณ์ต่างๆ ได้ ผู้เขียนเชื่อว่า ผู้ที่อ่านและเข้าใจเนื้อหาในหนังสือเล่มนี้จะกลายเป็นผู้ที่มีสายตามองทะลุจิตใจคนอย่างแน่นอน
ในชีวิตเรา "การมองคน" เป็นวิชาชีวิตที่สำคัญมาก เพราะพวกเราต้องพบปะกับผู้คนมากหน้าหลายตา เพื่อไม่ให้ผู้อื่นหลอกใช้ความรู้สึกและผลประโยชน์จากเรา พวกเราต้องแยกแยะผู้คนที่อยู่ข้างตัวเราให้ออก อย่าให้คนหลอกลวงแสร้งทำตัวเป็นเพื่อนเรา และอย่าให้เพื่อนเราถูกใส่ความจนกลายเป็นศัตรู การไม่ระมัดระวังจนมองคนผิด จะก่อให้เกิดความเจ็บปวดและเสียใจภายหลัง โดยเฉพาะอย่างยิ่งความเจ็บปวดทางจิตใจ แค่มองคนผิดพลาดเพียงครั้งเดียว อาจต้องตกอยู่ในคุกแห่งความเจ็บปวดตลอดชีวิต ไม่อาจหลุดออกมาได้ แม้จะรู้ว่าตัวเองมองคนผิดไปแล้วก็ตาม...
 
5. สานสัมพันธ์ด้วยสันติ
หนังสือเล่มนี้คือหนังสือที่เสนอวิธีการแก้ไขความขัดแย้งโดยใช้การสื่อสารที่มีพลัง ซึ่งมาร์แชลผู้บุกเบิกได้ตั้งชื่อว่า การสื่อสารอย่างสันติส่วนเรื่องการแก้ไขความขัดแย้งนั้น ขออ้างถึงหนังสือเล่มหนึ่งที่ใช้สอนในสหรัฐอเมริกา ซึ่งสรุปความว่า วิธีแก้ไขความขัดแย้งมี 3 วิธีคือ 1 หนี (หน้า) หรือ Flight 2 สู้หรือ Flight 3 Work it out พอดีกับที่มาร์แชลได้เขียนหนังสือเล่มนี้ โดยตั้งชื่อว่า We can work it outซึ่งถอดความเป็นภาษาไทยโดย "ไพรินทร์ โชติสกุลรัตน์" โดยมีความหมายในภาษาไทยว่า เราสามารถแก้ไขความขัดแย้งได้ถ้าเราสื่อสารกันอย่างสันติ
 
6. แค่อ่านหนังสือถูกวิธีก็เป็นคนหัวดีได้
หนังสือ "เรียนเก่งได้ใน 66 วัน" ติด 1 ใน 10 อันดับหนังสือขายดีในหมวดหนังสือเรียนของเกาหลี เป็นหนังสือที่จุดความหวังให้ใครก็ตามมีกำลังใจในการเรียนมากขึ้น เนื้อหาในเล่มตอบทุกความต้องการของเด็กในยุคปัจจุบันที่มีการแข่งขันค่อนข้างสูง เน้นการท่องจำเป็นหลัก ผู้เขียนจึงแนะนำวิธีการอ่าน/ทบทวน/เรียน
คะแนนดีเกิดจากการเรียนที่ถูกวิธีไม่ได้ขึ้นอยู่กับว่าใครหัวดีหรือหัวไม่ดี ให้โอกาสตัวเองอีกครั้ง ลองเปลี่ยนวิธีเรียนใหม่ และสร้างนิสัยเรียนเก่งด้วยหลักการง่ายๆ วิเคราะห์เนื้อหาโดยรวมจากย่อหน้าแรก วิธีท่องจำสามเด้ง จง "อ่าน พูด เขียน" เขาจดโน้ตกันแบบนี้ แค่เลือกสีปากกาเป็นก็ช่วยให้เรียนเก่งแล้ว เชื่อมโยงความรู้ใหม่กับความรู้เก่า อย่าวางแผนเกินตัว นอนวันนี้ ตื่นพรุ่งนี้ อย่าหามรุ่งหามค่ำ อย่ามัวขยันแค่อ่าน จงขยับทดสอบด้วย เรียนเก่งได้ด้วยตัวเองแบบไม่เหนื่อย ไม่กดดัน ไม่โต้รุ่ง ด้วยโปรแกรมฝึกนิสัยให้เป็นคนหัวดีภายใน 66 วัน ในหนังสือ "แค่อ่านหนังสือถูกวิธีก็เป็นคนหัวดีได้" เล่มนี้ช่วยคุณได้
 
7. ปลาวาฬไม่ไปทำงาน
ชีวิตเป็นเรื่องธรรมดาที่สุด เท่าที่จะคิดได้ เพราะประสบการณ์ของคนๆ หนึ่งอาจคือประสบการณ์ที่คนๆ อื่นได้ผ่านมา เรื่องเล่าจากปลาวาฬ ที่กลั่นกรองจากประสบการณ์การทำงานตรง และประสบการณ์จากผู้คนรอบข้าง ในโลกการทำงาน แห่งแฟนตาซี ที่คนทำงานต่างแปลงร่างกลายเป็น หอย กวาง ราชสีห์ ปลาหมึกฯ และต่างพยายามพัฒนาสายพันธุ์สูงๆ ขึ้นไป เพื่อดำรงเผ่าพันธุ์ให้อยุ่รอด ปลาวาฬไม่ได้แนะนำ วิธีการที่จะพาท่านสู่การเป็นท๊อปขององค์กร แบบหนังสือฮาวทู หากแต่ร่วมแบ่งปันความสุข ทุกข์ กับเพื่อนที่กำลังมีชีวิตอยู่ในโลกใบเดียวกัน บนเส้นทางที่ผ่านมา ที่เมื่อมองย้อนกลับไปเพียงเรื่องๆ หนึ่งที่ผ่านพ้นไป และเมื่อมองลงบนพื้นดินก็พบว่ามีรอยเท้าของผู้ที่เคยมาเส้นทางนี้มากมาย ก็ชีวิตเป็นเรื่องธรรมดาที่สุดเท่าที่จะคิดได้ มายิ้มกว้างๆ แบบ "ปลาวาฬไม่ไปทำงาน" กันดีกว่า
 
8. ทำไมคนจนยิ่งจนคนรวยยิ่งรวย
ทุกคนต่างก็หวังอยากจะร่้ำรวย แต่ไม่ใช่ทุกคนจะเป็นได้ดังที่หวัง ทุกคนต่างก็หวังอยากจะร่ำรวย แต่ไม่ใช่ทุกคนจะเป็นได้ดังที่หวัง เพราะในความเป็นจริงแล้ว คนจนกลับยิ่งจน ส่วนคนรวยกลับยิ่งรวย เพราะเหตุใด หรือว่าความจนกับความรวยถูกลิขิตมาแล้วทำไมบางคนถึงเป็นเศรษฐี แถมยังร่ำรวยขึ้นเรื่อยๆ หนึ่งเรื่องราวแฝงสติปัญญาไร้ที่สิ้นสุด คนที่ยังไม่ร่ำรวยควรจะเรียนรู้จากบุคคลที่ประสบความสำเร็จ เพื่อจะได้พบหนทางสร้างความร่ำรวยจากเรื่องราวของพวกเขา และจดจำแนวคิดของคนรวยให้ขึ้นใน ถ้าคุณเปลี่ยนความคิดของตัวเอง และวิเคราะห์ปัญหาเหมือนกับคนรวยเหล่านั้น รวมถึงพยายามมุ่งมั่นไม่ท้อถอย เชื่อว่าสักวันหนึ่งคุณจะกลายเป็นสมกชิกคนหนึ่งในกลุ่มคนรวย ในหนังสือ "ทำไมคนจนยิงจนคนรวยยิ่งรวย" เล่มนี้
 
9. จิตวิทยาครอบครัว FAMILY PSYCHOLOGY
หนังสือเล่มนี้จะช่วยเหลือพ่อแม่ที่มีลูกในวัยต่างๆ กัน การวิจัยทางคลินิกชี้ให้เห็นชัดเจนว่าวิธีแบบ ใครๆ ก็ใช้ได้ นั้นไม่ได้ผล วิธีแก้ไขที่ได้ผลกับเด็กมากที่สุดนั้นต้องให้พ่อแม่มีส่วนร่วมในการเปลี่ยนแปลงด้วย หนังสือ จิตวิทยาครอบครัว เล่มนี้จะช่วยให้พ่อแม่สำรวจปฎิกิริยาของตัวเองต่อปัญหาทางด้านพฤติกรรมของเด็ก เช่นเดียวกับทึ่จะเสนอแนะให้เข้าใจความคิดอ่านของเด็ก เมื่อพ่อแม่ขอคำแนะนำเพื่อปรับปรุงปฏิสัมพันธ์กับลูกก็จำเป็นต้องระลึกถึงแนวคิดหลักสี่ข้อให้ดี ติดตามหลักสี่ข้อแนวคิดปฏิสัมพันธ์ได้ในเล่มนี้
พบกับวิธีการรับมือกับลูกหลานที่กลายเป็นคนที่ชอบพูดปด ลักขโมย ขบถหัวดื้อ แม้แต่การระเบิดอารมณ์และอาละวาด ไปจนถึงแก้ปัญหาความวิตกกังวล รวมถึงความหวาดกลัว และการทำร้ายตัวเองของเด็ก พิจารณาถึงปัจจัยที่ทำให้เกิด เรื่องราวต่างๆ ซึ่งเรามองข้ามไป โดยศึกษาจากกรณีตัวอย่างที่มาจากประสบการณ์ตรงของ เจมส์ เอ. พาวเววล์
นักจิตวิทยามากความสามารถ หนังสือเล่มนี้ช่วยเหลือพ่อแม่ผู้ปกครองรับมือกับลูกๆ ในวัยที่ต่างกันด้วยวิธีที่เหมาะสม เพื่่อช่วยให้เราสามารถเลี้ยงดูลูกให้เติบโตขึ้นอย่างมีความสุข และมีความมั่นคงทางอารมณ์
 
10. เปลี่ยนแค่ 1% ชีวิตดีขึ้น 100%
พัฒนาแค่ 1% ก็เป็นเลิศได้ในทุกๆ ด้านเทคนิคทำน้อยได้มาก ที่เห็นผลทันทีทั้งเรื่องงานและชีวิต จากนัเขียนขายดีของ New York Times

216
 
 
ธรรมะ คืออะไร ?
 
ธรรมะเป็นสิ่งที่มีจริง พระพุทธเจ้าทรงตรัสรู้ธรรม คือ รู้แจ้งเห็นจริงความเป็นจริงของสิ่งที่มีจริงๆ สิ่งที่มีจริงๆ ก่อนจะมีการตรัสรู้ไม่มีใครพบว่าเป็นธรรมะ เพราะเป็นคน เป็นสัตว์ เป็นเรา เป็นเขา เป็นวัตถุสิ่งต่างๆ แต่ว่าเมื่อทรงตรัสรู้แล้ว ตรัสรู้ธรรมทั้งหลายเป็นอนัตตา มีความหมายว่าทุกสิ่งทุกอย่างไม่ใช่ตัวตน ไม่ใช่สัตว์ บุคคล ไม่ใช่วัตถุสิ่งใดสิ่งหนึ่ง ที่เที่ยง แต่ว่าลักษณะของธรรมนั้น เป็นสภาพธรรมที่มีจริงในขณะนี้ ซึ่งต้องค่อยๆ ใคร่ครวญ ได้แก่ ขณะนี้อะไรจริง กำลังเห็นมีจริงๆ สิ่งที่ปรากฏทางตามีจริงๆ เสียงมีจริงๆ จิตที่ได้ยิน รู้เสียงนั้นมีจริงๆ ความสุขมีจริง ความทุกข์ทรมานมีจริง รูปแบบของแข็งมีจริง สภาพที่กำลังรู้แข็งมีจริง ทั้งผองนี้เป็นธรรมเพราะฉะนั้น ก็จะต้องศึกษาให้รู้ว่า ที่เคยยึดมั่นว่าเป็นเรา แต่ถ้าหากไม่มีตัวธรรมะที่เกิดขึ้นปรากฏ พวกเราก็ไม่มี แต่ว่าเมื่อมีเหตุปัจจัยที่จะทำให้สภาพธรรมหนึ่งสภาพธรรมใดเกิดขึ้น เนื่องจากความไม่รู้ก็เลยถือว่าสิ่งที่เกิดนั้นเป็นเรา หรือเป็นของเรา ได้แก่ รูปตั้งแต่ศีรษะตลอดเท้า มีเหตุปัจจัยปรุงแต่งเกิดขึ้น แต่เพราะความไม่รู้ก็ยึดมั่นรูปนั้นว่าเป็นเรา แม้แต่ภาวะของจิตใจ หรือความรู้สึกสุข กังวล ก็เกิดขึ้นเพราะเหตุปัจจัย แต่เมื่อไม่รู้ก็ยึดถือสภาพธรรมนั้นๆ ว่าเป็นเรา
 
ธรรมะคือหน้าที่
 
คำว่า "ธรรมะ" ก็เกิดเป็นคำที่มีความหมาย หรือมีความสำคัญขึ้นมาสำหรับพวกเราจะต้องรู้ ผมอยากจะพูดว่า คุณต้องจำคำว่า "ธรรมะ" นี้ไว้ให้ดีๆ "ธรรมะ" คำนี้ถ้าเกิดเป็นภาษาทั่วไปคือ "หน้าที่" ถ้าหากคุณไม่เคยทราบมาก่อน ก็ต้องได้ยินเสียเดี๋ยวนี้ว่า คำว่าธรรม หมายความว่าหน้าที่ ที่จำเป็นต้องปฎิบัติ คุณลองคิดดูว่า คำว่า "ธรรมะ" จะเกิดมาในโลก ในภาษาพูดของผู้คนได้อย่างไร? มนุษย์ในสมัยหินก็ไม่มีคำๆ นี้ใช้ แล้วต่อมามนุษย์ก้าวหน้า จนรู้จักคำพูดคำนี้ใช้ขึ้นมา เขาเล็งถึงอะไร? คำพูดคำนี้เกิดขึ้นที่ริมฝีปากมนุษย์ พูดกันเป็นครั้งแรก มันเล็งถึง หน้าที่ ที่จำต้องทำ ไม่ทำไม่ได้ มันเลยกลายเป็นของดีที่สุดไปเลย ด้วยเหตุว่าไม่ทำ ไม่ได้ ต้องทำ คำว่า "ธรรมะ" จึงมีความหมายว่า "หน้าที่" ส่วนที่เรามาแปลกันว่า คำสั่งสอน หรืออะไรออกไปนี้ มันเป็นเรื่องทีหลัง อบรมสั่งสอนเรื่องอะไร? ก็อบรมสั่งสอนเรื่องหน้าที่ ถ้าว่าธรรมในฐานะที่เป็น มรรค ผล นิพพาน นั่นก็คือผลของหน้าที่ เพราะฉะนั้นมันเกี่ยวกับหน้าที่ของคนเรา มนุษย์ทุกคนมีบทบาท ทุกคนจะต้องปฏิบัติภารกิจให้ดี นับตั้งแต่หน้าที่ชั้นล่างๆ ธรรมดาสามัญที่สุด อาทิเช่นจะทานข้าว อาบน้ำ ถ่ายอุจจาระ ปัสสาวะ อะไรก็ตาม เป็นหน้าที่ที่จะต้องทำ และจำเป็นต้องทำให้ดี
 
ทีนี้ พวกเราก็มีหน้าที่ตามธรรมชาติ คือหาเลี้ยงชีวิต ซึ่งจำต้องทำให้ถูกต้อง ถ้าต้องมีคู่ชีวิต ซึ่งก็เป็นหน้าที่ของมนุษย์ตามธรรมดาหรือสัตว์ตามธรรมดา มันก็ต้องทำให้ถูกต้อง มีครอบครัวขึ้นมา ก็จำต้องทำให้ถูก ล้วนแต่เป็นหน้าที่ที่จะจะต้องทำให้ถูกต้อง สูงขึ้นไป-สูงขึ้นไป จนกระทั่งทางจิตใจ ก็จะต้องทำจิตทำใจ ให้ถูกต้อง จนกระทั่งกว่าจะตายไป ก็ให้มันตายอย่างถูกต้อง ทั้งหมดนี้มันอยู่ในคำๆ เดียวว่า "หน้าที่" เรียกเป็นภาษาบาลีว่า "ธมฺม" ในภาษาสันสกฤตว่า "ธรฺม"ภาษาไทยว่า "ธรรม" เมื่อทราบดีว่า ธรรม คือหน้าที่แบบนี้แล้ว มันก็ง่ายเข้าที่จะรู้ว่า ฆราวาสนั้นมีบทบาทอย่างไร?
 
ธรรมะคือธรรมชาติ
 
ทุกสรรพสิ่งในโลกนี้ ล้วนมีความเป็นเองตามธรรมดาของเหตุปัจจัย หรือเรียกว่าสภาวธรรม ยกตัวอย่างเช่นคุณงามความดี หรือความชั่ว ย่อมมีเหตุผลส่งต่อกันให้เกิดขึ้นเป็นไปตามเหตุปัจจัย ความดี ย่อมมีต้นเหตุมาจากบุญกุศลธรรม ส่วนความชั่ว ก็ย่อมเป็นผลมาจากอกุศลธรรม อกุศลธรรมเป็นรากของ โลภะ โทสะ โมหะ ที่ทำให้คนประพฤติมิชอบไปในทางเลว เป็นไปในทุจริตธรรม ๓หมายถึงทางกายโกง ทางวาจาทุจริต และก็ทางใจคดโกง โกงทั้ง} ๓ อย่างไม่ควรปฏิบัติเนื่องจากว่าจะมีผลให้สังคมเดือดร้อน อกุศลกำเนิดได้ยังไง ก็เกิดจากความไม่มีการสังวรอินทรีย์ ปล่อยให้เกิดความรู้สึกยินดียินร้ายบ้าง,ความรู้สึกพอใจหรือไม่ พอใจบ้าง,ความรู้สึกประทับใจหรือไม่พอใจบ้าง, ความรู้สึกเหล่านี้เกิดขึ้นได้เนื่องมาจากการได้มองเห็นรูป ได้ยินเสียง ได้สูดกลิ่น ได้ลิ้มรส ได้สัมผัสทางร่างกายมีเย็นหรือร้อนอ่อนหรือแข็ง นี่แหละเป็นเหตุต้นสายปลายเหตุให้เป็นไปในอกุศล อกุศลธรรม ส่งผลให้มนุษย์เรามีอัตตาและก็อคติมองดูคนในแง่ร้าย ติเตียนนินทาใครๆ ในใจอยู่เป็นประจำหากแม้พ่อแม่ก็ไม่เว้น และก็คิดพยาบาทอาฆาตแค้น คิดร้ายใครๆ ในใจอยู่เสมอก็เลยเป็นเหตุให้เกิดความทุกข์ทรมานตามมาให้ผล มีทุกข์ในชาตินี้ แล้วก็ทุกข์ในชาติหน้าด้วย
 
เพราะอะไร? หนังสือธรรมะอ่านแล้วถึงจิตใจสงบ
 
เวลาที่พวกเรารู้สึกรำคาญ ไม่ค่อยสบายใจ รู้สึกกลุ้มใจในหลายๆ สิ่งที่เกิดขึ้นในชีวิตทุกวันของเรา เรามักจะไปพึ่งพิงหนังสือธรรมะหรือวีซีดีธรรมะ ไม่ว่าจะเป็นบทสวดมนต์ คำอบรมสั่งสอนนิทานหรือเรื่องราวอะไรต่างๆ ที่ช่วยทำให้เราอ่านแล้วศึกษาแล้วสุขใจ
 
ปกติมนุษย์เรานั้นเมื่อพวกเราได้บริโภคสิ่งไหนเป็นปริมาณมาก พวกเราก็มักจะมีจิตใจจดจ่ออยู่กับสิ่งพวกนั้น ทดลองเทียบว่าเมื่อพวกเราได้บริโภคข่าวสาร ข่าวสารดารา หรือดูหนังอะไรซักเรื่องหนึ่งที่เป็นหนังเรื่องยาว พอเริ่มต้นที่พวกเราดูหนัง อารมณ์ของพวกเราอาจจะยังไม่ค่อยซึมซับความมันส์ในหนังเรื่องที่กำลังดูอยู่สักเท่าไหร่ แต่พอเราดูไปถึงกลางเรื่อง จิตใจพวกเราเริ่มจดจ่ออยู่กับหนังเรื่องนั้นและก็เราก็จะมีความรู้สึกสนุกตื่นเต้นไปกับมันเช่นเดียวกัน ถ้าว่าหนังนั้นเป็นหนังความรัก พวกเราก็จะมีความรู้สึกอินฉบับเลิฟตามไปด้วย ถ้าหนังนั้นเป็นหนังผี พวกเราก็จะมีจิตใจหม่นหมองสยองตามไปด้วย ทั้งทั้งที่ข้างตัวเราเองไม่ได้มีเรื่องมีราวของความรักรวมทั้งผีเข้ามาอยู่ในรอบตัวของเราเลย เพียงแค่มันถูกครอบนำจิตใจพวกเราไปจนถึงหมดสิ้นแล้ว
 
คนที่ได้ฟังธรรมะหรืออ่านหนังสือธรรมะก็เลยมีจิตใจที่สงบนิ่ง เป็นผลจากการบริโภคข้อมูลเนื้อหาที่ไม่ชวนคิดฟุ้งซ่านปวดหัว แตกต่างจากกลุ่มคนที่ชอบบริโภคเสพข้อมูลต่างๆ ซึ่งมีแต่เรื่องเครียด เรื่องคิดเยอะ ชอบให้จิตใจตื่นเต้นอยู่ตลอดเวลา
 

 
10 หนังสือธรรมะ ศาสนา และปรัชญา ที่แนะนำ โดยร้านหนังสือนายอินทร์
 
1. อมตะสยาม
การศึกษาพระเครื่องทุกวันนี้ ไม่เป็นไปตามความจริงที่ควรจะเป็น กลับกลายเป็นเรื่องผลประโยชน์เป็นเรื่องใหญ่ พระเครื่องในเมืองไทยเรานี้เป็นเรื่องใหญ่มาก มียอดเงินหมุนเวียนในแต่ละปีหลักหลายร้อยล้าน แต่สำหรับเราๆ ท่านๆ ก็ไม่มีโอกาสให้เช่าในราคาสูงลิบ
ผู้เขียนคิดว่าเราต้องใช้องค์ความรู้เผยแพร่ให้ทุกคน หันมาศึกษาอย่างจริงจัง เมื่อเราศึกษาอย่างจริงจังแล้วผลของการศึกษา นำมาซึ้งองค์ความรู้แล้วเปลี่ยนไปเป็นวิชาชีพ เลี้ยงครอบครัวได้ การเรียนรู้ก่อให้เกิดรายได้ ทั้งนี้ทั้งนั้นเขาคนนั้นจะต้องมั่นในศิลธรรมอันดีงามด้วย ไม่เบียดเบียนใคร เรื่องการซื้อขายเป็นเรื่องธรรมดาต้องมีกำไร แต่ไม่ควรหลอกลวงใครให้หลงเชื่อ ให้มีสัจจะ ให้มีหิริโอตัปปะ บุคคลนั้นจะเจริญแน่นอน
 
2. วิธีอยู่กับทุกข์โดยไม่ทุกข์
"วิธีอยู่กับทุกข์โดยไม่ทุกข์" ผลงานเล่มใหม่ของพระไพศาล วิสาโล สอนวิธีปฏิบัติให้เราฝึกไม่เป็นทุกข์กับอะไร เป็นสภาวะที่ทำให้เป็นอิสระ ไม่ยึดเกาะเกี่ยวกับสิ่งใด วางใจเป็นกลาง แค่ฝึกวิธีอยู่กับทุกข์โดยไม่เป็นทุกข์จากเล่มนี้ คุณก็สามารถนำไปใช้ได้กับความทุกข์ที่เกิดขึ้นในทุกเรื่อง ทุกสถานการณ์
คงปฏิเสธไม่ได้ว่ามนุษย์เราต้องการความสงบ เพราะความสงบนำมาซึ่งความสุข ความสงบสุขนั้นหาได้ยากยิ่งในทุกวันนี้ เพราะถึงแม้เราจะต้องการความสงบ แต่ในชีวิตประจำวันกลับเลือกเข้าหาความไม่สงบอยู่ตลอดเวลา
ความอึกทึกวุ่นวายจากภายนอกยังพอหลบหลีกไปหาสถานที่ที่สงบเงียบได้บ้าง แต่ความว้าวุ้น วุ่นวายภายในจิตใจเป็นสิ่งที่เราห้ามหรือหลีกเร้นไปแทบไม่มีเลย โดยเฉพาะในสังคมก้มหน้า เห็นคนนั่งกันเป็นกลุ่มไม่พูดไม่คุยกัน ใช่ว่าจะสงบ เพราะแต่ละคนกำลังวุ่นวายอยู่ในโลกของโซเชียล นำมาซึ่งเหตุแห่งความทุกข์จากอารมณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้น
 
3. ทางลัดสู่ความพ้นทุกข์
หลวงพ่อคำเขียนได้แนะนำการปฏิบัติตั้งแต่ขั้นต้น เน้นการวางใจให้ถูกต้องเพื่อสร้างความรู้สึกตัวให้เกิดขึน รู้กายเคลื่อนไหว รู้ใจคิดนึก เมื่อมีอารมณ์ใดเกิดขึ้นก็ให้มีสติ แล้วความรู้สึกตัวจะเกิดขึ้น และจะทำให้เกิดปัญญา เห็นแจ้งในสัจธรรมจนหลุดพ้นจากความยึดมั่นถือมั่นทั้งปวง จนเข้าถึงความพ้นทุกข์ได้ในที่สุด
"อยากพ้นทุกข์ให้ปฏิบัติธรรม อยากปฏิบัติธรรมให้มี 'ความรู้สึกตัว' น้อยคนนักที่จะรู้ว่าทุกข์ละได้โดยการ "รู้ทุกข์" ซึ่งจะรู้ทุกข์ได้นั้น ก็ต้องฝึกที่จะมีสติและมีความรู้สึกตัว "ทางลัดสู่ความพ้นทุกข์" เล่มนี้ หลวงพ่อคำเขียนได้แนะนำวิธีฝึกปฏิบัติเพื่อให้มีสติ เปลี่ยนจาก "หลง" ให้กลายเป็น "รู้" หลงก็รู้ ทุกข์ก็รู้ ปวดก็รู้ เมื่อยก็รู้ ง่วงก็รู้ เบื่อก็รู้.. รู้สึกตัวทุกขณะตามที่เกิดขึ้นในปัจจุบันอย่างต่อเนื่อง เพียงเท่านี้เราก็สามารถเข้าถึงธรรมได้จนถึงขั้นบรรลุธรรม
 
4. นิพพาน..ที่ที่..เดี๋ยวนี้
สำหรับชาวพุทธรุ่นใหม่ที่ยังไม่คุ้นเคยกับคำว่า "นิพพาน" หรือยังรู้สึกว่านิพพานเป็นเรื่องห่างไกลจากชีวิต หนังสือ "นิพพาน..ที่นี่..เดี๋ยวนี้" เล่มนี้จะเป็นจุดเริ่มต้นที่ดียิ่งในการทำความรู้จักกับ "นิพพาน" จากพระพุทธวจนะอย่างตรงจุด ผ่านการตีความและการประยุกต์ใช้ตามทัศนะที่เปิดกว้างและหลากหลายของท่านพุทธทาสภิกขุและพระวิปัสสนาจารย์แห่งยุคสมัยอีก ๔ รูป ที่จะทำให้นิพพานกลายเป็นเรื่องที่ชัดเจน ร่วมสมัย และนำมาใช้ได้จริงในชีวิตประจำวันเป็นเรื่องที่ชัดเจน ร่วมสมัย และนำมาใช้ได้จริงในชีวิตประจำวัน
ส่วนสำหรับชาวพุทธตัวจริง ผู้อยู่ระหว่างการศึกษาปฏิบัติธรรมและมีนิพพานเป็นจุดหมายปลายทางในชีวิตอยู่แล้ว หนังสือเล่มนี้จัดว่าเป็นกัลยาณมิตรชั้นดีที่จะคอยเตือนสติว่า การปฏิบัติไม่ใช่เรื่องของความมุ่งมาดคาดหวังในอนาคตจนหลงลืมความสำคัญของปัจจุบันขณะ แต่คือการหมั่นดึงตัวเองกลับมาอยู่กับความเป็นจริงที่อยู่ตรงหน้า ใส่ใจกับรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ ในชีวิต และมุ่งใช้ชีวิตในแต่ละขณะให้เปี่ยมเต็มและสมบูรณ์ที่สุด เพื่อให้เกิด นิพพาน..ที่นี่..เดี๋ยวนี้ ขึ้นในทุกๆ ขณะของชีวิต อันจะเป็นหนทางเดียวที่จะนำไปสู่โลกกุตรนิพพานทีแท้จริงต่อไป
หนังสือเล่มนี้จะพิสูจน์ให้ชาวพุทธทุกคนเห็นจริงว่า ไม่ว่าคุณจะอยู่ ณ สี่แยกไฟแดง ในศูนย์การค้า กลางที่ประชุม หรือบนรถเมล์.. นิพพาน" นั้นเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นได้และให้ผลได้จริง.. ที่นี่และเดี๋ยวนี้
 
5. ชุดนรกสวรรค์ผลจากทำบุญบาป
"นรก" ดินแดนแห่งการลงทัณฑ์ของเหล่าดวงวิณญาณทั้งหลาย ความร้อนจากไฟนรก ที่ไม่มีวันดับ ความคมของเครื่องทรมานที่ไม่มีวันทื่อ การลงโทษ นิรยบาล ที่ไม่มีวันเหน็ดเหนื่อย และความทุกข์ทรมานของสัตว์นรกที่ไม่มีวันตาย ไม่มีวันจบสิ้น นรก จึงเป็นดินแดนแห่งการลงโทษ ความบาป ของผู้ที่กระทำผิด ด้วยความยุติธรรม... "สวรรค์" ดินแดน ที่เต็มเปี่ยม ไปด้วยความอุดมสมบูรณ์ วิจิตรงดงาม และเป็นที่ที่หลายคนปรารถนาจะไปเกิด เพื่อเสวยสุขอันประณีตงดงาม อันเป็นผล มาจากบุญกุศล ที่ตนได้สร้างไว้ในอดีต... และเพื่อเป็นการยืนยันว่า นรก สวรรค์ และการเวียนว่าย ตาย เกิด ในภพภูมิต่างๆ นั้นมีอยู่จริง หนังสือเล่มนี้ ยังได้รวบรวมเรื่องเล่าจาก "พระอริยเจ้า" ที่ท่านทั้งหลายได้ยืนยันด้วยประสบการณ์ที่ได้พบเจอมากับตัว
 
6. ธรรมะจากพระภูเขา MONK IN THE MOUNTAIN
เป็นผลงานเขียนชิ้นแรกของพระอาจารย์สุมโน ภิกขุ ที่ได้รับการแปลและเรียบเรียงเป็นภาษาไทย พระอาจารย์สุมโน ภิกขุ เป็นพระภิกษุชาวอเมริกันที่มีจริยาวัตรอันงดงาม ปฏิบัติธรรมอย่างสันโดษและจริงจัง ณ ถ้ำสองตา อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ท่านได้ละทิ้งชีวิตอันรุ่งเรืองทางโลก เพื่อหันมาพัฒนาทางด้านจิตวิญญาณ ท่านอุปสมบทเป็นพระภิกษุและปฏิบัติตามแนวทางของพระอาจารย์ชา สุภทฺโท อย่างเคร่งครัด ด้วยความเมตตาอันเปี่ยมล้นของท่าน ทำให้มีญาติโยมและผู้ที่ผ่านไปมา ได้มาขอคำปรึกษาชี้แนะทั้งเรื่องทางโลกและทางธรรม ซึ่งแต่ละคำถามนั้นล้วนน่าสนใจและมีหลายคนที่ประสบในสถานการณ์ใกล้เคียงกัน ท่านจึงรวบรวมและเรียบเรียง คำถาม-คำตอบ เพื่อถ่ายทอดธรรมะอันเปี่ยมด้วยสาระ ลึกซึ้ง และควรน้อมนำไปปฏิบัติ สำหรับทุกเพศทุกวัย
 
7. ทางสายกลาง ศรัทธาอย่างมีเหตุผล The Middle Way Faith Grounded in Reason
จะเข้าถึงพุทธธรรมนั้นมิอาจทำได้ด้วยลำพังศรัทธาและความทุ่มเท แต่จะต้องมีการสอดส่องธรรมอย่างอุกฤษฏ์ วิธีนี้เรียนว่า "วิถีแห่งผู้มีปัญญา" เป็นวิถึปฏิบัติที่คุรุลันทาทั้งหลายพร่ำสอนในงานเขียนของพวกท่าน หากศรัทธาในองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าและพระธรรมคำสอน ได้รับการบ่มเพาะด้วยวิถึแห่งผู้มีปัญญาเยี่ยงนี้ ศรัทธานั้นจะมั่นคง และเป็นศรัทธาในระดับสูงสุด ถ้าเช่นนั้น เราจะทำอย่างไรจึงจะเกิดศรัทธาที่ไม่คลอนแคลนเช่นนี้ได้
ขอให้ปัญญาของคุรุนาคารชุน ปราชญ์ผู้ยิ่งใหญ่ ซึ่งองค์ทะไลลามะได้ถ่ายทอดไว้อย่างน่าจับใจ จงเป็นบ่อเกิดของแรงบันดาลใจและปัญญาให้แก่ผู้แสวงธรรม ขอให้ทุกท่านเข้าถึงความรู้แจ้งบนเส้นทางนี้ด้วยเถิด
 
8. พรตลอดปี ชีวิตดีตลอดไป
หลักธรรมเพื่อความก้าวหน้าในชีวิต - ศรัทธาและปัญญาช่วยให้ชีวิตก้าวหน้า มีความสุข และเป็นอิสระ - เมื่อตนมีความสุข สังคมก็มีความสุข - สอนให้เข้าใจว่าเวลาทุกขณะ คือโอกาสก้าวหน้าของชีวิต - คิดเป็น ทำเป็น แก้ปัญหาเป็น คือการทำให้ชีวิตก้าวหน้าและเป็นสุข ข้อปฏิบัติเพื่อความเจริญก้าวหน้าในชีวิต
ปีเก่าเป็นเรื่องที่ผ่านไปแล้ว เราก็นึก เราอยากจะให้เป็นเรื่องที่ผ่านพ้นกันไปเสียที ก็หมดๆ ไป เราคิดแค่นั้น คิดว่าให้มันผ่านไป ส่วนปีใหม่เราก็มองไปข้างหน้า ด้วยความหวังว่าจะมีความเจริญงอกงาม บางทีก็เป็นการฝันลมๆ แล้งๆ แต่ความจริงสิ่งที่ปฏิบัติได้คือปัจจุบันเท่านั้น เวลา อดีตเราย้อนกลับไปทำอะไรมันไม่ได้ อนาคตเราก็ยังไปทำอะไรไม่ได้ มันไม่ได้อยู่กับเรา สิ่งที่อยู่กับเราแน่นอนคือปัจจุบัน ใช้ปัจจุบันให้เป็นประโยชน์ก็คือทำเหตุปัจจัยให้สำเร็จผลที่ต้องการแล้วอนาคตที่ต้องการมันก็จะกลายเป็นเรื่องราวการวางแผนที่ถูกต้องขึ้นมา เชิญผู้อ่านทุกท่านพบข้อปฏิบัติเพื่อความสุข ความเจริญรุ่งเรือง ขอกราบนมัสการขอบพระคุณพระเดชสมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ ผู้แสดงธรรม
 
9. สมาธิกับการทำงาน
ใจที่สงบเป็นใจที่ได้รับการบริหารและพัฒนา เป็นใจที่มีพลัง จะทำอะไรก็จดจ่อ กำกับสิ่งนั้นอย่างต่อเนื่อง ไม่สะดุด ไม่ขาดตอน คนมีสมาธิจึงเป็นคนที่ทำงานทุกชนิดเสร็จเร็วและเรียบร้อยไม่บกพร่อง สามารถรับงานปริมาณมากๆ และทำงานหนักได้โดยไม่มีปัญหาเหมือนคนขาดสมาธิ"สมาธิกับการทำงาน" จึงเป็นหนังสือที่จะนำไปสู่ความเข้าใจชีวิตและปัญหาอย่างแท้จริง เพราะสมาธิทำให้จิตใจสงบ แม้บางปัญหาจะแก้ไม่ได้ แต่สมาธิจะทำให้เข้าใจและสามารถเผชิญปัญหาได้ด้วยความสงบ ไม่ตื่นตระหนก สมาธิจึงเป็นบันไดขั้นแรกของการแก้ปัญหาอย่างแท้จริง
 
10. ไม่โกรธอีกต่อไป
คู่มือปลดล็อกความหงุดหงิด วุ่นวายใจบรรเทาความเครียดในชีวิตประจำวันได้จริง เราจะมาหยุดการแล่นไปมาของ "ความโลภ" "ความโกรธ" "ความหลง" ไปด้วยกัน ด้วยการทำความเข้าใจโครงสร้างของจิตที่ทำให้ "ความโลภ" "ความโกรธ" "ความหลง" เกิดขึ้นมาด้วยหนังสือ "ไม่โกรธอีกต่อไป" เล่มนี้ จากนั้นก็ควบคุมความคิดที่ไร้ประโยชน์ให้สำเร็จ เพื่อที่ความโกรธนี้จะได้ไม่ต้องทำให้ตนเองเจ็บปวดและไม่ต้องทำร้ายผู้อื่น
 
 
 

217

 
นิตยสาร (Magazine) เป็นสิ่งพิมพ์รายคาบที่ออกเป็นระยะสำหรับนักอ่านทั่วๆไป มีเนื้อหามากมาย มุ่งทั้งให้ความรู้ความเข้าใจและความเพลิดเพลิน วิชาความรู้มักเป็นไปในลักษณะที่ให้ความรู้ มีการหาเงินจากการโฆษณารวมทั้งขายทั่วๆไป คนอ่านสามารถเป็นสมาชิกได้
 
คำว่า "นิตยสาร" มาจากรากศัพท์ คือ หมายถึงนิตย (เป็นประจำ) และสาร (เนื้อหา) คำว่า "นิตยสาร" โดยปกติอาจมีความหมายคาบกันกับคำว่า วารสาร ซึ่งออกตามที่กำหนดเวลาที่แน่นอนเช่นเดียวกัน แต่ในทางบรรณารักษศาสตร์ ปัจจุบันนี้ เมื่อมีการใช้อินเทอร์เน็ต ทำให้มีนิตยสารในอินเทอร์เน็ต ซึ่งมิใช่สิ่งพิมพ์ แต่ก็ยังเรียกกันว่า "นิตยสาร"
 
เป็นที่น่าสังเกตว่า นิตยสารบางชื่อ ไม่ได้ใช้คำว่า นิตยสาร แม้กระนั้นก็น่าจะจัดเป็นนิตยสารได้ อาทิเช่น "อนุสาร อ.ส.ท." ของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ขณะที่สิ่งพิมพ์บางประเภท มีความก่ำกึ่ง ระหว่างหนังสือพิมพ์รายสัปดาห์ รวมทั้งแมกกาซีนรายสัปดาห์ ได้แก่ มติชนรายสัปดาห์ สยามรัฐรายสัปดาห์ เนชั่นรายสัปดาห์ เป็นต้น ทั้งนี้เพราะรายละเอียดในเล่ม มีทั้งข่าวสาร วิเคราะห์ข่าว และบันเทิง ในสัดส่วนที่พอกัน โดยปกติแมกกาซีนมักจะมีลักษณะผ่อนคลาย เล่า ไม่นิยมเขียนในลักษณะตำรา เว้นแต่ว่าจะแทรกอยู่เป็นบางส่วนของเล่ม
 
นิตยสารสำหรับนักอ่านเฉพาะกลุ่ม ฉบับแรกของโลกเผยแพร่ในกรุงลอนดอนเมื่อ พ.ศ. 2274 (สมัยพระเจ้าท้ายสระ) ชื่อ "นิตยสารสุภาพบุรุษ" (The Gentleman's Magazine) เลิกกิจการไปเมื่อ พุทธศักราช 2450
 
นิตยสารสำหรับผู้บริโภคฉบับแรกของโลกเป็น "แมกกาซีนสกอต" (The Scots Magazine) ตีพิมพ์ในสกอตแลนด์เมื่อปี พ.ศ. 2282 ซึ่งตรงกับสมัย{พระเจ้าอยู่หัวบรมโกศ และยังคงพิมพ์อยู่จนถึงในตอนนี้
 
องค์ประกอบของแมกกาซีน
 
ส่วนประกอบของนิตยสารอาจมีความไม่เหมือนกันได้เป็นอย่างยิ่ง ส่วนประกอบหลัก อาทิเช่น วาระการออก รูปแบบ เป้าหมายกลุ่มนักอ่านมีการเปลี่ยนแปลงหาความแน่นอนไม่ได้ วารสารบางฉบับจะเจาะเรื่องที่น่าสนใจเฉพาะ ได้แก่ เกี่ยวกับสัตว์เลี้ยง ยานพาหนะ งานอดิเรก หรือการเมือง และแนวศิลปะ รื่นเริง แฟชั่น รถยนต์ ท่องเที่ยวระยะการออกจึงมีตั้งแต่รายสัปดาห์ รายปักษ์ รายเดือน รายสองเดือน ราย 3 เดือน (quarterly) ราย 6 เดือนไปจนถึงทุกปี
 
ธรรมดาวารสารจะมีวันที่ปรากฏบนปก นิตยสารแทบทั้งหมดจะวางจำหน่ายตามร้านค้าแล้วก็แผงขายหนังสือทั่วทั้งประเทศ ผู้เป็นสมาชิกจะได้รับวารสารทางไปรษณีย์
 
วารสารโดยมากพิมพ์ในปริมาณที่มากแล้วก็พยายามทำให้ทุนการพิมพ์ต่ำเพื่อให้มีราคาขายต่ำ แมกกาซีนบางจำพวกที่มีต้นทุนการพิมพ์สูงมักอาศัยการลงโฆษณามาช่วยลดราคาขายให้ลดน้อยลง
 
นิตยสารทุกเล่ม ต้องขอจัดพิมพ์จากทางราชการ และก็ได้รับเลขสากลประจำแมกกาซีน เรียกว่า ISSN (International Standard Serial Number) ซึ่งนิตยสารจะเผยแพร่เอาไว้ภายในส่วนที่เห็นได้ชัดของเล่ม อาทิเช่น ปกหน้า สารบัญ สันปก หรือปกด้านหลัง
 
ลักษณะสำคัญของนิตยสาร
 
1.เป็นสิ่งพิมพ์ต่อเนื่อง (Periodical or Serial) มีการตั้งเวลาออก ตัวอย่างเช่น รายสัปดาห์ (Weekly) , รายปักษ์ (Fortnightly) , รายครึ่งเดือน (Semimonthly) , ทุกเดือน (monthly) , รายหกเดือนหรือรายครึ่งปี (Semiannually) , ทุกปี (Annually) ฯลฯ
2. มีเลขกำกับประจำฉบับ เลขปีที่ (Volume) เลขฉบับที่ (Issue Number) รวมทั้งวัน เดือน ปี (Date) ซึ่งเป็นเลขที่จำต้องต่อเนื่องเป็นลำดับกันไปแล้วยังมีเลขอีกชุดหนึ่งเป็นเลขเฉพาะที่แน่นอน ไม่มีการเปลี่ยนแปลงนับว่าเป็นรหัสประจำนิตยสารแต่ละชื่อ เพื่อการควบคุมทางบรรณานุกรม
3. รูปเล่ม ขนาดรูปเล่มแมกกาซีนต้องกะทัดรัด หยิบถือได้สะดวก มีหลากหลายขนาด โดยพิมพ์ปกด้วยกระดาษที่หนากว่าหน้าใน รวมทั้งใช้ภาพที่มีสีสันสวยงาม สะดุดตา ทั้งนี้ความหนาของนิตยสารจะไม่แน่นอน
4. เนื้อหา วารสารนำเสนอบทความหลายบทความ จากนักเขียนหลายคนทั้งที่|ให้ความรู้ความเข้าใจแล้วก็ความบันเทิงแก่ผู้อ่านอย่างหลากหลาย มีการจัดหน้า และก็รูปเล่มที่งดงามมากกว่าหนังสือพิมพ์ รายละเอียดอาจเป็นรูปภาพ เป็นคำวิพากษ์วิจารณ์ สรุปข่าวสารแล้วก็พินิจพิจารณา เหตุประเทศชาติ อื่นๆอีกมากมาย ทั้งนี้เป็นไปตามประเภทและจุดประสงค์ของนิตยสารแต่ละฉบับ
5. ผู้จัดพิมพ์นิตยสารอาจเป็นเอกชน หน่วยงานราชการ รัฐวิสาหกิจ สถาบัน หน่วยงาน สโมสร โดยมีจุดประสงค์บางสิ่ง เช่น เพื่อเผยแพร่ความรู้ทางวิชาการ ประชา-สัมพันธ์หน่วยงาน ให้ความบันเทิง วิชาความรู้ทั่วๆไป หรือเพื่อธุรกิจการค้า เป็นต้น
6. การเผยแพร่ มีทั้งการจำหน่ายแล้วก็แจกฟรี การจำหน่ายบางทีอาจวางจำหน่ายตามร้านค้าจำหน่ายหนังสือ การให้คนอ่านบอกรับเป็นสมาชิกประจำ จ่ายค่าวารสารล่วงหน้าแล้วผู้จัดพิมพ์เป็นผู้ส่งนิตยสารไปให้สมาชิก
 
วารสารนักอ่านเฉพาะกลุ่ม
 
วารสารกลุ่มผู้อ่านเฉพาะกลุ่ม ยกตัวอย่างเช่น วารสารการบ้านการเมือง เจาะลึกเฉพาะทางทางด้านการเมือง มีทั้งบทวิเคราะห์ หรือรายงานพิเศษที่เกี่ยวโยงกับการบ้านการเมืองทั้งหมด อย่างเช่น มติชนสุดสัปดาห์ หลักไท นิตยสารแฟน เป็นนิตยสารที่ออกมาสำหรับแฟนๆ ลุ่มหลงเรื่องที่ตนเองสนใจ ได้แก่ ทางกีฬา ทางบันเทิง ทางภาพยนต์ หรือดารานักร้อง วารสารงานที่ทำเวลาว่าง ทำออกมาเพื่อกลุ่มที่ชอบทำงานที่ชอบทำในเวลาว่าง หรือสนใจด้านใดด้านหนึ่ง ต้องการเพิ่มพูนความรู้ เช่น นิตยสารเกี่ยวกับสแตมป์ ทำสวน ถ่ายภาพ นิตยสารอาชีพ เน้นรายละเอียดเพื่อไปเลี้ยงชีพได้จริงๆ อย่างเช่น นิตยสารปศุสัตว์ วารสารอุตสาหกรรมรถยนต์ เมื่อมนุษย์ได้รู้จักการเขียน การพิมพ์ จนนำไปสู่การสร้างสรรค์สิ่งพิมพ์ โดย ค.ศ. 1455 สิ่งพิมพ์ชิ้นแรกที่ปรากฎเป็นหนังสือทางศาสนาหรือพระคัมภีร์ไบเบิ้ล ต่อมาก็ได้มีการปรับปรุงเป็นสื่อสิ่งพิมพ์แบบอื่นๆซึ่งแล้วก็นิตยสารด้วย แล้วก็ในปีค.ศ. 1663 แมกกาซีนฉบับแรกของโลกได้ถือกำเนิดขึ้น ชื่อ Erbauliche monaths-unterredungen ซึ่งถูกเผยแพร่ครั้งแรกในประเทศเยอรมัน
 
แนวโน้มของนิตยสารในตอนนี้มุ่งเย้ายวนใจนักอ่านเฉพาะกลุ่มมากขึ้น เนื้อหาของแมกกาซีนก็เลยค่อนข้างจะเน้นเฉพาะ ด้านมากขึ้น แต่ว่าอย่างไรก็ดี ลักษณะความหลากหลายของข้อเขียน หรือคอลัมน์ในนิตยสาร ยังบอกให้เห็นไม่เหมือนกัน ของนิตยสารจาก ลักษณะหนังสือทั่วไปที่จะมีรายละเอียดเป็นเรื่อง เดียวกันทั้งเล่มได้ ลักษณะเด่นของ นิตยสารที่ไม่เหมือนกันกับหนังสือทั่วๆไป คือ
 
1. นิตยสารจะเน้นสำหรับการเสนอบทความสารคดี แล้วก็ข้อเขียนต่างๆ ที่ให้ความรู้ความเข้าใจและความเพลิดเพลิน กับคนอ่านได้มากกว่า แล้วก็ละเอียดกว่า
2. นิตยสารมีโฆษณาที่สวยสะดุดตากว่า
3. แมกกาซีนมีการจัดหน้าที่สวยงามและละเอียดลออมากกว่า
4. แมกกาซีนมีรูปเล่มกะทัดรัดหยิบถือได้สะดวกกว่า
5. ปกแมกกาซีนจะมีขนาดราวๆ 8 1/2 คูณ 1 11/2 นิ้ว หรือขนาด A4 หรือ 8 หน้ายก บางฉบับก็มีขนาดใหญ่พอๆกับ หนังสือพิมพ์ขนาดเล็ก (tabloid) แม้กระนั้นบางเล่มก็เล็กแทบพอกับหนังสือพ็อกเก็ตบุ๊ก
6. แมกกาซีนโดยมากจะมีปกที่พิมพ์ด้วยกระดาษหนากว่าหน้าข้างใน ปกจะมีสีสัน และรูปภาพสวยสะดุดตาเย็บรวมกับเนื้อใน ส่วนความหนาหรือปริมาณหน้าของนิตยสารนั้นไม่แน่นอน
7. แมกกาซีนหลายฉบับจะเสนอเนื้อหาข่าวในเล่มด้วยแม้กระนั้นส่วนใหญ่จะเป็นการสรุปข่าว หรือวิจารณ์ข่าวสาร
 
อนาคตของนิตยสาร
 
ตอนนี้มีใครยังซื้อวารสารอยู่ไหม หรือหนสุดท้ายที่อ่านนิตยสารแบบเป็นเล่มๆ นั้นเมื่อไหร่กัน คำตอบอาจชัดเจนในประเทศไทยเป็นอย่างมาก เพราะเหตุว่าในปีนี้เองเราได้เห็นข่าวมากมายเกี่ยวกับการปิดตัวของแมกกาซีนหลายๆ ฉบับไป เพราะเหตุว่าสู้ต้นทุนในตอนนี้มิได้หรือ ทำนิตยสารเริ่มจะไม่มียอดรายได้เข้ามา ประกอบกับการโดนสื่อดิจิทัลในแบบไม่ว่าจะเว็บไซต์ สื่อโซเซียลแล้วก็รวมถึงการเกิด Disruption ในเรื่อง e-Book ที่เป็น App ต่างๆมาอีก ทำให้สื่อแมกกาซีนนั้นสู้ไม่ไหว แต่ในเมืองนอกเองสื่อแมกกาซีนหลายๆฉบับยังมีความแข็งแกร่งอย่างมาก แล้วก็สร้างยอดจำหน่ายอย่างต่อเนื่องและก็มีรายได้ต่างๆ เข้ามาอีกเยอะมาก นั้นเป็นเพราะเหตุใดกัน สิ่งนั้นเป็นมูลค่าในความเป็นสิ่งพิมพ์ที่มอบให้ผู้บริโภค ซึ่งนั้นคือเรื่องแบรนด์ของสิ่งพิมพ์
 
ในยุคของดิจิทัลที่เป็นกระแสหลักแบบนี้ คนทำสื่อแมกกาซีนนั้นต้องมองดูตัวเองว่าไม่ใช่แค่เป็นสื่อสิ่งพิมพ์แบบหนึ่งอีกต่อไป แต่จะต้องมองดูตัวเองเป็นแบรนด์หนึ่งแบรนด์ที่สร้างมูลค่าให้กับลูกค้า โดยแบรนด์แมกกาซีนนั้นก็อย่าไปจำกัดกรอบตัวเองที่สิ่งพิมพ์อีกด้วย แต่ให้คิดว่าแบรนด์ทั้งหมดของตัวเองนั้นมีช่องทางสำหรับเพื่อการสร้างแบรนด์ ติดต่อสื่อสารกับลูกค้าอย่างไรบ้าง โดยคิดถึงยุทธวิธีด้านการขายที่จะใช้เว็บ สื่อโซเซียล การทำ e-commerce การจัดกิจกรรม หรือแนวทางการทำอีเว้นท์ต่างๆเยอะแยะ สิ่งที่เกิดขึ้นที่ทำให้นิตยสารหลายๆ ฉบับนั้นไม่สามารถที่จะอยู่รอดได้เพราะการไปโฟกัสในสื่อสิ่งพิมพ์จนกระทั่งไม่ได้สร้างแบรนด์ของตนขึ้นมา ทำให้ผู้คนนั้นเวลาคิดถึงสื่อแมกกาซีนนั้นจะไม่รู้ว่าสื่อนิตยสารนั้นมีความสำคัญอะไรกับชีวิต แต่ในต่างประเทศเองนั้นสื่อวารสารหลายๆฉบับมีความแข็งแกร่งในแบรนด์ของตนเอง ได้แก่ Monocle, Wired, Fast Company และก็ฯลฯ แต่ละวารสารก็แตกธุรกิจของตัวเองออกไป Horizontal โดยใช้แบรนด์ของวารสารเป็นหัวหอกสำหรับเพื่อการสร้างรายได้ใหม่ๆให้เกิดขึ้นกับแมกกาซีนนั้นๆขึ้นมา
 


10 นิตยสารออกใหม่ที่แนะนำ โดยร้านหนังสือนายอินทร์
 
ร้านนายอินทร์รวบรวมนิตยสารในเครืออมรินทร์ นิตยสารออกใหม่ทั้งที่เพิ่งวางแผง และกำลังจะวางแผง นิตยสารรายเดือน และนิตยสารที่น่าอ่าน ให้นักอ่านได้เลือกซื้อทางออนไลน์ และสมัครสมาชิกผ่านเว็บไซต์ได้
 
1. แพรว
นิตยสารรายปักษ์สำหรับสาวยุคใหม่วัยทำงานที่ทันสมัยเป็นนิตยสารที่สร้างแรงบันดาลใจให้กับผู้หญิงในทุกด้านมีเนื้อหาสาระและความบันเทิงครบครันตั้งแต่แฟชั่นความงามสุขภาพไลฟ์สไตล์ข่าวคราวความเคลื่อนไหวในสังคมบทสัมภาษณ์บุคคลที่น่าสนใจและเรื่องราวต่างๆที่ผู้หญิงควรรู้โดยในปีที่ผ่านมานิตยสารแพรวได้มีการปรับโฉมใหม่ให้ทันสมัยและน่าอ่านยิ่งขึ้นออกวางตลาดทุกวันที่ 10 และ 25 ของเดือน
 
2. แพรว wedding
นิตยสารสำหรับผู้ที่มีความรักในหัวใจ นิตยสารรายเดือนที่จะช่วยให้วันแต่งงานของคุณสมบูรณ์แบบและน่าจดจำด้วยการนำเสนอไอเดียงานแต่งงานเก๋ๆพร้อมทั้งวิธีเตรียมตัวสำหรับคุณเจ้าสาวให้คำแนะนำในเรื่องเกี่ยวกับความรักและการดูแลความสัมพันธ์ให้ดำเนินไปอย่างมีความสุขภายใต้แนวคิด Love, Weddingand Living Together วางตลาดทุกวันที่ 5 ของเดือน
 
3. MY HOME
นิตยสาร MY HOME เรานำเสนอเรื่องราวเพื่อคนรักบ้าน โดยมีความเชื่อว่า ไม่ว่าจะอยู่เมืองใหญ่หรือเล็ก มีเงินเยอะหรือน้อย ทุกคนมีบ้านที่ดีได้ ไม่ต้องฝันกลางวันไปตามกระแสนิยม เราช่วยคุณสร้างฝันที่จับต้องได้ บ้านในฝันที่คุณทำได้ด้วยงบประมาณจำกัด
 
4. AMARIN Baby & Kids
นิตยสารแม่และลูกเล่มแรกในเครืออมรินทร์ที่เป็นเสมือนคู่มือการเลี้ยงลูกของพ่อแม่ยุคใหม่ที่มีลูกวัย 0 - 12 ปีนำเสนอข้อมูลความรู้ที่ถูกต้องเกี่ยวกับการเลี้ยงลูกในแต่ละช่วงวัยตั้งแต่ในครรภ์ถึง 12 ปีผ่านคำแนะนำของผู้เชี่ยวชาญและจากประสบการณ์จริงของคุณแม่ช่วยให้ลูกเติบโตได้อย่างสมบูรณ์แบบรอบด้านทั้งในเรื่องสุขภาพความฉลาดพัฒนาการและการเรียนรู้รวมทั้งเรื่องการดูแลตนเองของคุณแม่และสัมพันธภาพของครอบครัวเพื่อชีวิตสมดุลของพ่อแม่ยุคใหม่วางตลาดทุกวันที่ 25 ของเดือน
 
5. SECRET
นิตยสารรายปักษ์แนวสุขภาพที่สร้างแรงบันดาลใจในการดำเนินชีวิตเป็นหลักให้แก่ชีวิตเป็นที่พึ่งทางใจด้วยการนำเสนอแง่คิดดีๆจากหลากหลายบุคคลผ่านเนื้อหาที่เข้าใจง่ายอ่านสนุกให้แง่คิดเคล็ดลับและแนวทางปฏิบัติเพื่อนำไปสู่ความสุขและความสำเร็จในชีวิตวางตลาดทุกวันที่ 10 และวันที่ 26 ของเดือน
 
6. HEALTH & CUISINE
นิตยสารรายเดือนที่ให้ความรู้เรื่องอาหารเพื่อสุขภาพสูตรอาหารและวัตถุดิบที่คัดสรรมาเพื่อผู้อ่านโดยเฉพาะตลอดจนเรื่องราวสุขภาพความงามเพื่อผู้หญิงยุคใหม่ "Inspiration for Healthy Living"ตอบสนองวิถีชีวิตทันสมัยที่มุ่งเน้นการดูแลตนเองนับตั้งแต่เรื่องของอาหารการกินไปจนถึงเรื่องของสุขภาพซึ่งสิ่งเหล่านี้สามารถทำได้อย่างเรียบง่ายเป็นอีกหนึ่งทางเลือกสำหรับผู้ต้องการแสวงหาสิ่งดีๆให้กับชีวิตวางแผงทุกวันที่ 5 ของเดือน
 
7. บ้านและสวน
นิตยสาร บ้านและสวน มุ่งนำเสนอเรื่องราวเกี่ยวกับการตกแต่งบ้านการจัดสวนเกร็ดความรู้เกี่ยวกับบ้านรวมถึงเทรนด์การออกแบบสถาปัตยกรรมงานศิลปะไลฟ์สไตล์และผลิตภัณฑ์ต่างๆที่เกี่ยวข้องโดยมีกลุ่มผู้อ่านที่ครอบคลุมช่วงวัยทำงานผู้ที่มองหาบ้านเพื่อสร้างครอบครัวใหม่หรือผู้ที่ต้องการต่อเติมและตกแต่งบ้านวันนี้ "บ้านและสวน" เป็นนิตยสารเกี่ยวกับบ้านและสวนที่มียอดพิมพ์ต่อฉบับสูงสุดในประเทศซึ่งนับได้ว่าเป็นนิตยสารหมวดตกแต่งบ้านที่ขายดีที่สุดของประเทศไทยวางตลาดทุกวันที่ 10 ของเดือน
 
8. ชีวจิต
ทางเลือกใหม่เพื่อสุขภาพป่วยก็ต้องอ่านไม่ป่วยก็ต้องอ่าน เป็นแนวความคิดต่อ เรื่องสุขภาพแบบองค์รวม (Holistic) คือผนวกรวมเอา "ชีว" ที่หมายถึง "กาย" รวมเข้ากับ "จิต" ที่หมายถึง "ใจ"
ให้เป็นสองภาคของชีวิตที่มีผลต่อกันและกันโดยตรง ไม่อาจแยกกายออกจากจิต และจิตย่อมกระทบถึงกายเช่นเดียวกัน
ความหมายและการปฏิบัติตัวตามแนวทางของชีวจิต จึงอาจอธิบายได้ว่า คนเราจะมีความสุขความแข็งแรงได้ก็ต่อเมื่อกายและใจทำงานเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน (Wholeness as Perfection) การใช้ชีวิตให้เป็นไปตามธรรมชาติ บริสุทธิ์ละเรียบง่าย เป็นแก่นความคิดสำคัญอีกประการหนึ่งของชีวจิต ใช้ชีวิตในที่นี้หมายรวมถึง การบริโภคอาหารสุขภาพที่มาจากธรรมชาติ และมีการดัดแปลงน้อยที่สุด รวมถึงการบริโภคผลิตภัณฑ์ใดๆ ที่มาจากธรรมชาติหรือใกล้เคียงกับธรรมชาติมากที่สุด เพื่อให้ชีวิตหลุดพ้นจากความยุ่งเหยิงวุ่นวายของสังคมแบบวัตถุนิยมในปัจจุบัน ซึ่งเป็นสาเหตุของโรคสมัยใหม่นานัปการ แนบเนื่องกับแนวปฏิบัติทางร่างกาย ต้องมีการปฏิบัติทางใจควบคู่ไปด้วย เป้าหมายของการฝึกจิตใจ...
 
9. ROOM
คู่มือเพื่อความสนุกในการตกแต่งทุกพื้นที่การใช้ชีวิตของคุณ นิตยสารรายเดือนที่เปรียบเสมือนดีไซเนอร์ผู้รู้ใจเรื่องการตกแต่งนำเสนอข้อมูลที่เข้ากับไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่ที่ทันสมัยมีสไตล์โดดเด่นในเรื่องของดีไซน์ที่สร้างแรงบันดาลใจให้กับผู้อยู่อาศัยนำเสนอสิ่งที่เป็นจริงและสัมผัสได้พร้อมภาพประกอบสวยสดในมุมมองที่แตกต่างนิตยสาร"room" จึงทำให้ผู้อ่านสนุกกับการใช้ชีวิตในทุกพื้นที่ภายใต้คอนเซ็ปต์Ideas for Practical Living วางตลาดทุกวันที่ 2 ของเดือน
 
10. NATIONAL GEOGRAPHIC
"นิตยสารรายเดือนที่พาผู้อ่านก้าวสู่โลกกว้างกับการเรียนรู้สิ่งต่างๆรอบตัวด้วยเรื่องราวที่น่าสนใจเกี่ยวกับธรรมชาติและสิ่งมีชีวิตทั่วทุกมุมโลกการนำเสนอเนื้อหาแบบเจาะลึกในวิทยาการด้านต่างๆ อาทิ วิทยาศาสตร์เทคโนโลยีภูมิศาสตร์ประวัติศาสตร์ธรรมชาติวิทยาศิลปวัฒนธรรมประเพณีโบราณคดีและอารยธรรมอันทรงคุณค่าจึงเป็น นิตยสารคุณภาพที่ได้รับความเชื่อถือจากผู้อ่านทั่วโลก ตีพิมพ์เป็นภาษาต่างๆ ใน 29 ประเทศทั่วโลก และประสบความสำเร็จในทุกๆ ประเทศทั่วโลก เหมาะกับผู้ที่สนใจการสำรวจ ค้นคว้า และศึกษาโลกในทุกๆด้าน

218

 
นิยายและก็นวนิยายไม่เหมือนกันยังไง?
 
นิยาย หมายถึง เรื่องเล่าจากจินตนาการ เรื่องราว รวมทั้งเนื้อเรื่อง แตกต่างกับข้อเท็จจริง โดยครอบคลุมเรื่องแต่งทั้งหมด นิยายแบบตะวันตก ที่มีบทพูด แล้วก็นิยมแต่งกัน ในรุ่นหลังมักเรียกกันว่า นวนิยาย ผลงานที่จัดเป็นนิยาย ตัวอย่างเช่น นิทาน เรื่องสั้น ภาพยนตร์บางจำพวก เรื่องปรัมปรา การ์ตูน หรืออาจเป็นแอนิเมชัน และก็วิดีโอเกมบางประเภท เป็นต้น
 
นวนิยาย เป็นแบบหนึ่งของวรรณกรรมลายลักษณ์ แต่งในรูปของร้อยแก้ว มีลักษณะแตกต่างจากเรื่องแต่งแบบเดิม ที่เรียกว่า นิยาย หรือนิทาน ที่เรียกว่า นวนิยาย ก็เพราะเหตุว่าถือเป็นนิยายแบบใหม่ novel ตามแบบตะวันตก นั่นเอง อย่างไรก็แล้วแต่ ในภาษาพูดโดยปกตินิยมเรียกว่า นิยาย ซึ่งกระชับกว่า นวนิยายนั้น เป็นเรื่องราวที่มีลักษณะสมจริงมากกว่านิทานหรือนิยายแบบเดิม บางครั้งอาศัยฉากหรือเรื่องจริง หรืออิงความจริง มีบทสนทนา รวมทั้งอธิบายเรื่องราวอย่างมนุษย์ทั่วไป
 
นิยายมีหลากหลายประเภท
 
1. นิยายรัก ( Romance fiction ) เป็นนิยายที่เน้นในเรื่องความเกี่ยวพันระหว่างบุคคลเป็นแกนกลางของเรื่อง จะเน้นในเรื่องความรู้สึกของตัวละครเป็นสำคัญ นิยายแนวนี้เป็นที่นิยมมากในตลาดแล้วก็พลอตเกี่ยวกับความรักนี้ก็เกือบแทรกเข้าไปในนิยายทุกจำพวก
2. นิยายลึกลับ ( Mystery fiction ) จะเน้นในเรื่องการสืบสวน มีการคลายปมเป็นหลัก
3. นวนิยายสยองขวัญ (Horror fiction) เป็นนิยายเกี่ยวกับตัวประหลาด ซาตาน สัตว์ร้าย ที่พอเวลาคนอ่านได้อ่านแล้ว จะเกิดความขนพองสยองเกล้า ขยะแขยงในความน่าสยดสยอง
4. นวนิยายวิทยาศาสตร์ ( Sciences fiction ) เป็นการนำวิชาความรู้ทางวิทยาศาสตร์มาเป็นศูนย์กลางสำหรับในการสร้างเรื่อง ยกตัวอย่างเช่นการทำทดลองวิจัย การโคลนนิ่งมนุษย์ นิยายแนวนี้จะต้องมีความรู้และมีความเข้าใจในเรื่อง นั้นๆถึงจะสามารถแต่งได้ คนเขียนจำเป็นต้องทำการบ้านมาเป็นอย่างดี
5. นวนิยายมหัศจรรย์ ( Fantasy fiction) หรือบางคนบางครั้งก็อาจจะเรียกว่านิยายแนวแฟนตาซี จะมีการใช้เทวดาต่างๆมาใช้สำหรับการแต่งเรื่อง แล้วก็เรื่องที่เกิดความนับถือ อภินิหาร ตำนวน เรื่องราวที่เหนือธรรมชาติ นิยายแนวนี้มักจะมีการผสมผสานระหว่างความมหัศจรรย์กับวิทยาศาสตร์เข้าด้วยกัน จนกลายเป็นนิยายประเภท sciences fantasy ขึ้นมา
6. นวนิยายแนวกามารมณ์ ( Erotica fiction) เป็นนิยายที่เน้นอารมณ์แล้วก็ความรู้สึก ซึบซับไปกับการบรรยายที่เป็นธรรมชาติ และเขียนถึงฉากกามารมณ์มากมายเป็นพิเศษในเรื่อง
7. นิยายที่สะท้อนปัญหาสังคม เป็นนิยายที่เน้นในเรื่องการแก้ปัญหาของสังคม แทรกสอดคติธรรมเข้ามา ให้ความเห็นของตัวละครลง ไม่จำเป็นที่จะต้องบอกทางแก้ อยู่ที่ว่าผู้เขียนอาจจะใส่ทางแก้ของปัญหาลงไปหรือไม่
 
องค์ประกอบของนวนิยาย
 
องค์ประกอบของนวนิยาย นวนิยายเป็นเรื่องเล่าร้อยแก้วที่ยึดหลักเรื่องจริงเป็นกฏเกณฑ์ กล่าวคือ เขียนให้ใกล้เคียงกับความเป็นจริงเท่าที่จะสามารถทำได้ แม้กระนั้นไม่พยายามทำให้เห็นว่าเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นจริงเป็นเพียงแต่เรื่องแต่งขึ้นแค่นั้น องค์ประกอบที่สำคัญของนวนิยายที่ทำให้คนอ่านเกิดความเพลิดเพลิน มีดังนี้
 
1. พล็อตเรื่อง เป็นเค้าโครงของความประพฤติต่างๆนวนิยายแต่ละเรื่องจะมีเค้าเรื่องใหญ่แล้วก็เค้าเรื่องย่อย เค้าเรื่องใหญ่ หมายถึง เรื่องที่เกี่ยวข้องกับปัญหารวมทั้งความไม่ถูกกันที่สำคัญของตัวสำคัญ เค้าเรื่องย่อยเป็นเรื่องที่แทรกอยู่ในเค้าเรื่องใหญ่ มีความจำเป็นน้อยแต่ว่าเสริมให้มีความสนุกสนานร่าเริงเพิ่มมากขึ้น ในเค้าเรื่องจะมีส่วนประกอบที่สำคัญอยู่ 2 ประการ คือการกระทำที่เป็นการกระทำของตัวละครในเรื่องแล้วก็ความขัดแย้งในลักษณะต่างๆกัน ตัวอย่างเช่น ความขัดแย้งระหว่างมนุษย์กับธรรมชาติ ความขัดแย้งระหว่างมนุษย์ด้วยกันเอง ความไม่ลงรอยกันที่เกิดขึ้นในตัวเอง ฯลฯ
 
2. แก่นเรื่องหรือความคิดหลัก คือ จุดสำคัญของเรื่องที่จะเชื่อมโยงเรื่องทั้งหมดเข้าด้วยกัน เพื่อสื่อความนึกคิดของผู้ประพันธ์ สาระสำคัญของเรื่องมีหลายแนวทาง เช่น แนวแสดงทัศนะเป็นแนวที่นักเขียนเสนอข้อคิดเห็นต่อบางอย่าง เช่น ความแค้น ความหึงหวง ความหวาดกลัว แนวแสดงกริยา เป็นแนวที่คนเขียนเน้นในเรื่องความประพฤติของตัวละคร อย่างเช่น ความประพฤติปฏิบัติทดแทนบุญคุณตลอดทั้งเรื่อง
 
3. ตัวละคร คือ ผู้ที่มีบทบาทในเรื่อง จะต้องเหมือนมนุษย์หรือเทียบเท่า มีชีวิตจิตใจ แสดงอารมณ์ หน้าที่ คำพูด รวมทั้งมีกิริยาได้แก่คนจริงๆความประพฤติที่ตัวละครแสดงออกมาจำต้องน่าเชื่อถือ ตัวละครที่สำคัญในเรื่องเรียกว่า ตัวสำคัญ ตัวละครอื่นเป็น ตัวประกอบ แนวทางแสดงลักษณะนิสัยของตัวละครบางทีอาจทำได้หลายแนวทาง เช่น ผู้ประพันธ์อธิบายนิสัยของตัวละคร}เอง
 
ประโยชน์ของการอ่านนิยาย
 
- ฝึกสมาธิ การอ่านหนังสือทำให้เราสามารถจดจ่ออยู่กับเรื่องราว ถือได้ว่าเป็นการฝึกซ้อมให้เกิดสมาธิได้อย่างแน่นอน
- ฝึกนิสัยรักการอ่าน การเขียนภาษาไทยให้ถูก ทุกตัวอักษรจะต้องผ่านสายตา ฉะนั้นแล้วการอ่านนิยาย เป็นการฝึกฝนการอ่านภาษาไทย ดูตัวสะกดที่ถูก รับประกันได้ว่าวรรณยุกต์ทุกตัวสะกด ถูกครบถ้วนสมบูรณ์อย่างแน่นอน
- สร้างจินตนาการ เสริมสร้างวิชาความรู้ด้านต่างๆของสังคม แนวอิงประวัติศาสตร์ เศรษฐศาสตร์ การเมืองการปกครองในแต่ละยุคสมัย เรียนรู้การเปลี่ยนแปลงของแต่ละสังคมแต่ละระยะเวลา เปิดโลกทัศน์และมุมมองใหม่ให้กับให้กับตัวคุณเอง
- สัมผัสกับสถานที่ต่างๆได้อย่างไม่มีข้อจำกัด เรื่องราวทั้งในแล้วก็นอกประเทศบางครั้งพวกเราบางทีอาจมิได้มีโอกาสไปสัมผัสสถานที่นั้นได้จริง นิยายจะพาเราไปสัมผัสกับสถานที่เหล่านั้น ด้วยการลงทุนแบบประหยัดมากที่สุด แต่กลิ่นบรรยากาศถูกบันทึกในความทรงจำอย่างครบถ้วน
- มองโลกในแง่ดี คนคิดบวกเสมอ การเรียนรู้เรื่องราวต่างๆผ่านตัวหนังสือจะมีผลให้เรารู้เรื่องความเป็นธรรมชาติของโลกเยอะขึ้น ส่งผลต่อระบบความนึกคิด แล้วก็มุมมองสำหรับในการดำรงชีพได้เป็นอย่างดีเมื่อกาล เวลาเปลี่ยนไป ทั้งหมดทุกอย่างถูกแรงขับเคลื่อนด้วยวัฒนธรรม เทคโนโลยี แทรกซึมแปลงเป็นส่วนใดส่วนหนึ่งของชีวิตตัวอย่างเช่นเดียวกับเรื่องราวของนวนิยาย ถูกเคลื่อนให้เข้าสู่โลกดิจิตอล มีผลการสำรวจว่า เด็กอายุ ๖ - ๒๔ ปี นิยมอ่านหนังสือในรูปแบบออนไลน์เยอะขึ้น หลายเว็บก็เลยเปรียบได้เสมือนดั่งพื้นที่
กระดาษสีขาว ให้นักประพันธ์มือใหม่ได้แต่งแต้มสีสันในนิยายของตัวเอง ถือว่าเป็นเวทีของนักประพันธ์หน้าใหม่ ได้มาแข่งขันวิชาได้อีกทางหนึ่ง นำมาซึ่งการทำให้ลูกค้าอย่างเราเลือกอ่าน
ได้หลากหลายแนว แม้กระนั้นไม่ว่าความสบายของนักอ่านจะเป็นไปในลักษณะของหนังสือ หรือว่าเทคโนโลยีอื่น
 
นิยายวาย คือ
 
"นิยายวาย" นั้นคือ หนังสือนิยายประเภทหนึ่ง ที่บอกเล่าความเกี่ยวข้องของตัวละครที่เป็นเพศเดียวกัน จิดานันท์ เหลืองเพียรสมุท นักประพันธ์ กล่าวว่า นิยายวายเสมือนนิยายทั่วไป วรรณกรรมแล้วก็นิยายทุกเรื่องเล่าเรื่องความเป็นมนุษย์ ตัวละครที่มีการทำในสถานการณ์ต่างๆนิยายวายก็เช่นเดียวกัน เล่าเรื่องของผู้คนคนหนึ่งว่า ชีวิตของเขาเป็นยังไง พบเจอกับอะไร เพียงแต่ว่าเพศของตัวละครก็บางทีอาจจะไม่เหมือนกันออกไป ทำให้รู้สึกว่า ไม่เหมือนนิยายธรรมดา จริงๆเหมือน มันมีวายหลายแบบ เป็นต้นว่า วายสอบสวน, วายรักสลด, วายรักหวานแหววน่ารัก ชีวิตมัธยม ดังนิยายทั่วๆไป สามารถซื้อนิยายออนไลน์ ได้ที่ ร้านหนังสือนายอินทร์
 

 
10 นวนิยายหรือนิยายแนะนำที่ ร้านหนังสือนายอินทร์
 
1. ซาตานร้ายสยบรัก
อุรัตน์นรินทร์กะพริบตาถี่ๆ หายใจยาวๆ เพื่อไล่น้ำตาและความรู้สึกทรมานที่ตีรื้นขึ้นมาอีกระลอก "ทำไมล่ะ ผมจะตัดสินใจผิดพลาดในชีวิตสักครั้งไม่ได้เลยหรือไงใช่ว่าผมได้คุณแล้ว จะต้องทนดักดานอยู่กับคุณไปตลอดชีวิตนี่ คนไม่ได้รักได้ชอบกัน ยังไงสักวันก็ต้องเลิกรากันอยู่ดี ยิ่งเรายุติความสัมพันธ์คลุมเครือนี้ได้เร็วเท่าไร ผมว่าจะยิ่งเป็นการดีกับคุณเท่านั้นนะอุรัตน์นรินทร์" "ความสัมพันธ์คลุมเครือหรือคะ?" เธอจดจ้องหน้าปราปต์ ไม่วางตา "ทุกครั้งที่พี่มีอะไรกับอิน อินก็ไม่เคยเห็นพี่จะตะขิดตะขวงใจอะไรนี่คะ ออกจะทำทุกอย่างด้วยความชำนาญและชัดเจนเกินไปด้วยซ้ำ" "ผมก็ทำได้หมดนั่นแหละไม่ว่าจะกับใคร ยิ่งเป็นคนที่ผมปรารถนาผมจะยิ่งทำมันด้วยความเต็มใจและมีความสุขกว่านี้อีก" อุรัตน์นรินทร์ยิ้มขื่น "ถ้าอย่างนั้น ความผิดพลาด" อย่างอินคงสำคัญตัวผิดไปจริงๆ ขอโทษพี่ปราปต์ด้วยแล้วกันนะคะที่อินเป็นคนที่พี่ปรารถนาไม่ได้"
 
2. เล่าเรื่องสามก๊ก ฉบับคนรุ่นใหม่
เรื่องราวของสามก๊กตั้งแต่ต้นจนจบ ด้วยสำนวนอย่างคนรุ่นใหม่ เพื่อให้หนังสือเล่มนี้อ่านง่ายที่สุด ไม่สับสน กระชับรัดกุมและเก็บเนื้อความตามท้องเรื่องของฉบับเจ้าพระยาพระคลัง (หน) ให้ได้มากที่สุด แต่ยังเป็นการให้ความรู้ปูพื้นฐานถึงความเป็นมาไว้อย่างละเอียดละออน่าสนใจยิ่ง นำบทความเหตุการณ์สำคัญในสามก๊ก และแผนผังการตั้งตัวเป็นใหญ่และรวมตัวกันของขุนศึกเมืองต่างๆ ลงเป็นภาคผนวกท้ายเล่ม ซึ่งทำให้หนังสือ "เล่าเรื่องสามก๊ก ฉบับคนรุ่นใหม่" เล่มนี้ทรงคุณค่าและสมบูรณ์ยิ่งขึ้นเป็นอย่างมาก ขอให้ท่านได้อ่านหนังสือเล่มนี้อย่างสนุกสนานและมีความสุขไปกับเรื่องราวของ "สามก๊ก" นวนิยายอิงประวัติศาสตร์ที่สุดแสนวิเศษและมหัศจรรย์ที่สุดฉบับหนึ่งของโลก
 
3. แสนงาม
แสนงาม คือ จุดเริ่มต้นจากความสงสารจนกลายเป็นหวั่นไหว
แสนงาม คือ คนที่ทำให้เขารู้สึกอยากจะปกป้องและดูแลเธอ
แสนงาม คือ รักที่อยากได้ครอบครอง อยากโอบกอดไว้ด้วยวงแขนกว้าง
แสนงามของพี่ธาม คือ ทั้งหมดในไทม์ไลน์ของหัวใจ...
 
4. เจ้าพ่อร้อนรัก
"เกล็ดมณี วีรประภากร" เซเลบคนดัง เธอสวย เธอรวย เธอมีเสน่ห์ และเธอก็มั่นใจเกินร้อยว่าคุณสมบัติทั้งปวงจะทำให้ตัวเองเข้าไปนั่งในหัวใจ "เจ้าพ่อปืนโต" ได้หญิงสาวจึงของอนุญาตสามแสน แสนหวาน แสนดี และแสนรัก จีบคุณพ่อสุดแซ่บของเพื่อนๆ เกล็ดมณี ไม่รู้อะไรซะแล้ว ว่าไฟที่ว่าร้อนแรงก็ยังสู้ไฟรักที่ลุกโชนอยู่ในดวงตาของเจ้าพ่อปืนโตไม่ได้ แต่ในเมื่อเดินหน้าแล้ว เธอจะถอยไม่ได้ ส่วนเรื่องที่ว่าเธอจะรับมือได้อย่างไร ไปติดตามกันได้ใน "เจ้าพ่อรัอนรัก" ค่ะ
 
5. จักรพรรดิอันธพาล (ซีรี่ส์ชุด จอมใจจักรพรรดิ)
เป็นเรื่องราวของ "ฮุ่ยอัน" สาวสวยที่มีใจรักทางด้านจิตรกรรม วันหนึ่งเธอเดินขึ้นเขาเพื่อวาดภาพความงามตามธรรมชาติ ก็ได้พบเต่าบกตัวน้อยสีทองอร่ามตา เต่าน้อยพาฮุ่ยอันให้เดินตามเข้าไปในม่านหมอกและรู้สึกตัวอีกทีก็โผล่มาอยู่ที่โลกคู่ขนานในยุคจีนโบราณเสียแล้ว ณ จุดนี้ตกใจไปก็คงแก้ไขอะไรไม่ได้ ฮุ่ยอันจึงต้องยอมตามน้ำไปก่อน เริ่มด้วยการปลอมตัวเข้าไปสอบเป็นขันทีในวังหลวง ด้วยทักษะมั่วขั้นเทพก็ยังอุตส่าห์เข้าตา "หยางหยุนอู้" ฝ่าบาทรูปงาม แถมเขายังเรียกให้ขันทีหน้าหวานมาถวายการรับใช้ใกล้ตัวเสียด้วยนอกจากต้องรับมือกับขุนนางเฒ่าในท้องพระโรงเคียงคู่ฝ่าบาทแล้ว ยังต้องคอยกำราบกลุ่มโจรที่ปล้นสะดมชาวบ้านอีกด้วย ทั้งเก่งและแสนดีอย่างนี้มีหรือจะไม่เป็นที่โปรดปรานของฝ่าบาท ว่าแต่ฮุ่ยอันจะเก็บความลับไว้กับตัวได้นานสักเท่าไร โดยเฉพาะหัวใจดวงน้อยๆ ที่อยู่ใกล้ฝ่าบาทเสียขนาดนี้ ฝ่าบาทที่ทั้งสง่า ฉลาด และอาบเสน่ห์ เรื่องราวของขันทีน้อยฮุ่ยอันจะดำเนินต่อไปเช่นไร หยางหยุนอู้จะรู้ความจริงที่เธอซ่อนไว้ภายในหัวใจหรือไม่ เราตามไปให้กำลังใจฮุ่ยอันพร้อมๆ กันใน "จักรพรรดิอันธพาล" ดีไหมคะ
 
6. บุปผาพ่ายรัก
ตัวละครที่เรารู้จักและคาดหวังให้คนทั้งสองรักกัน นั่นก็คือฮ่องเต้น้อย "หยางเจี้ยนเหว่ย" และ "จางหมิ่นฉ่าย" คุณหนูจางคนรองนั่นเอง เรื่องนี้จะไม่สุขนิยมเท่าเรื่อง จางฟางเซียน นะค ฮ่องเต้ของเราแสดงออกชัดเจนตั้งแต่เด็กเลยค่ะว่าสนใจนางเอก แต่ก็มีเรื่องเข้าใจผิดกันจนเกิดเรื่องวุ่นวายมากมาย ทำนางเอกร้องไห้ไปก็หลายครั้ง จนนางเอกของเราเริ่มตีตัวออกห่างถึงได้ร้อนใจขึ้นมา ส่วนกระต่ายน้อย (ฮ่องเต้แอบตั้งให้หมิ่นฉ่าย) ของเราเจอมรสุมรักค่อนข้างหนักหนาพอสมควร แต่ก็อย่าได้หนักใจแทนน้องกระต่ายนะคะ เพราะนางมีคนคอยช่วยเหลืออยู่รอบตัวเต็มไปหมด แล้วแต่ละคนใช่ว่าเป็นชาวบ้านธรรมดา แต่เป็นถึงไทเฮา องค์ชายรอง ชินอ๋อง ชินหวางเฟย และฮ่องเต้คอยปกป้องไว้ตลอด แต่ก็นั่นแหละ แม้นางเอกจะแสนดีก็ใช่ว่าจะไม่ลุกขึ้นสู้ ต้องบอกว่านางเอกของเราเรียนรู้จากคนใกล้ชิดและตามคำแนะนำของชินหวางเฟยได้เป็นอย่างดีค่ะ เอาเป็นว่าหากอยากรู้ว่าฮ่องเต้จะง้อนางเอกยังไง และนางเอกจะได้ขึ้นเป็นฮองเฮาตอนไหน ไปอ่านกันใน "บุปผาพ่ายรัก" เล่มนี้ดีกว่านะคะ
 
7. กุหลาบประกาศิต
สายใยบางเบาระหว่างสองพี่น้องต่างบิดาขาดสะบั้นไปพร้อมกับลมหายใจของใครบางคนในอดีต... 'พีระพัฒน์' ชิงชัง 'ปฏิปักษ์' สุดหัวใจ เขาสาบานว่าจะแย่งชิงและทำลายผู้หญิงทุกคนที่พี่ชายต่างพ่อรัก เหมือนกับที่อีกฝ่ายทำให้เขาต้องสูญเสียผู้เป็นรักแรกไปอย่างไม่มีวันหวนกลับทว่าโชคชะตากลับเล่นตลกครั้งใหญ่ เมื่อ 'อลิตา' หญิงสาวผู้เป็นที่รักของปฏิปักษ์คือคนที่พีระพัฒน์หมายจะให้เธอเป็นรักครั้งใหม่ของตน สงครามระหว่างพี่น้องจึงเปิดฉากขึ้นอีกครั้ง และครั้งนี้ปฏิปักษ์จะไม่ยอมถอย แม้ว่าจะต้องร้ายสักแค่ไหนหรือกลายเป็นคนเลวในสายตาอลิตา เขาก็จะไม่มีวันยอมให้พีระพัฒน์แย่งเธอไปได้สำเร็จขณะที่ผู้เป็นพี่สาวถูกแย่งชิงด้วยความรัก 'ระรินทิพย์' กลับถูกดึงเข้ามาในวังวนนี้เพียงเพื่อเป็นหมากให้พวกเขาใช้สอย แต่ไม่ว่าจะเป็น 'มงกุฎแห่งชัยชนะ' ที่พวกเขาปรารถนา หรือว่า 'หมากไร้ค่า' ที่รอวันถูกทำลาย พวกเธอล้วนเจ็บปวดและถูกทำร้ายจากการกระทำของพวกเขา สี่หนุ่มสาวกับเกมกระดานนี้จะจบอย่างไร หรือสุดท้ายแล้วหัวใจพวกเขาจะต้องพบกับความพินาศย่อยยับไปพร้อมกัน!
 
8. Kiss of Mars ปฏิบัติการยึดรักข้ามดวงดาว
เคยได้ยินแต่คำว่า ผู้ชายมาจากดาวอังคาร ผู้หญิงมาจากดาวศุกร์ นั่นเป็นเพราะว่าดาวอังคารเป็นสัญลักษณ์ของการแข่งขันและพละกำลัง ส่วนดาวศุกร์ก็เป็นสัญลักษณ์ของความสงบสุขและความสดใสนั่นเองค่ะ "ไฮท์" หนึ่งในหนุ่มหล่อแห่งกลุ่ม Rebellion ถึงได้บอกว่า "เพลงขลุ่ย" นั้นเป็นผู้หญิงที่มาจากดาวพฤหัสได้ล่ะเนี่ย แล้วคู่นี้ยังก่อสงครามกันตั้งแต่แรกเริ่มเจอหน้า หลังจากนั้นก็เรียกได้ว่าไม่มีใครยอมใครเลยจริงๆ ทีนี้ก็เป็นหน้าที่ของพวกเราที่ต้องมาลุ้นกันแล้วล่ะค่ะว่าสงครามแสนหวาน ระหว่างมนุษย์จากดาวอังคารและมนุษย์จากดาวพฤหัสจะลงเอยอย่างไร ใน "Kiss of Mars ปฏิบัติการยึดรักข้ามดวงดาว"
 
9. รัชศกเฉิงฮว่าปีที่สิบสี่
ความสัมพันธ์ระหว่าง ถังฟั่น กับ สุยโจว แม้ไม่หวือหวาแต่หลายๆ ซีนก็มีทำให้เราใจเต้น ยิ่งในเล่มนี้มีฉากที่ทำให้ใจเต้นแรงหลายฉากเชียวล่ะค่ะ ไม่ได้หมายความว่าสองคนนี้ความสัมพันธ์พัฒนาก้าวกระโดดจากสิบไปร้อยหรอกนะคะ ที่บอกว่าใจเต้นคือด้วยความลุ้นระทึก เพราะคดีที่ ถังฟั่น ต้องรับผิดชอบในครั้งนี้คือการไขปริศนาสุสานจักรพรรดิโบราณซึ่งผู้เกี่ยวข้องมีทั้งภูตผีวิญญาณ โจรขุดสุสาน เทพแม่น้ำ และแม้กระทั่งสัตว์ประหลาด แต่ละสิ่งแต่ละอย่างนอกจากทำให้ใจเต้นแรงแล้วยังทำแข้งขาสั่นด้วย คดีประหลาดเขย่าประสาทแบบนี้ ลำพัง ถังฟั่น คนเดียวคงเอาไม่อยู่ ดีนะว่าได้สุยโจวตามประกบไปไหนไปด้วยกัน ไม่ว่าระยะทางจะไกลแค่ไหน ปริศนาจะซับซ้อนเท่าไร ต้องเผชิญอุปสรรคอะไรบ้าง แต่สองคนช่วยเหลือดูแลกัน ก็ไม่มีอะไรที่พวกเขา ไม่สามารถรับมือ ทุกคนคิดเหมือนกันไหม
 
10. MY MELTING CHEF เชฟครับ
หากเปรียบหนังสือเล่มหนึ่งเป็นอาหาร My Melting Chef เล่มนี้ก็คงเป็นอาหารฟูลคอร์สรสเลิศที่จะเริ่มต้นเรียกน้ำย่อยด้วยออเดิร์ฟรสกลมกล่อม ไม่นานก็ส่งจานเปิดตัวมาให้เกิดความรู้สึกกระตือรือร้นมากขึ้น จากนั้นก็จะพบกับอาหารจานหลักที่จัดเต็มครบทุกรสชาติ ทำให้ประทับใจชนิดที่ไม่สามารถวางมือได้เลยแม้สักนาทีแล้วปิดท้ายด้วยของหวานรสนุ่ม ละมุนลิ้นจนอิ่มเอมไปกับอาหารมื้อนี้ได้อย่างไร้ที่ติ ถ้าคุณผู้อ่านกำลังต้องการอาหารรสเยี่ยมสักมื้อที่จะช่วยปลอบประโลมร่างกายที่เหนื่อยล้า และเป็นที่พักใจให้หายเหนื่อย อย่าลืมมาลองชิม My Melting Chef เล่มนี้กันดูนะคะ เชฟเจย์ จะได้เสิร์ฟเมนู พีช ขึ้นโต๊ะให้ทุกท่านรับประทานกันอย่างถูกปาก ถูกอกถูกใจกันถ้วนหน้าแน่นอน
 

219

 
โหราศาสตร์ (Astrology) เป็นศาสตร์หนึ่งที่ไม่ได้รับการยอมรับทางด้านวิทยาศาสตร์ มีส่วนเกี่ยวข้องกับวิธีการทำนายอนาคต หรือ ชะตากรรมของมนุษย์ ,ปรากฏการณ์ต่างๆ ของบ้านเมือง และก็ของโลก โดยอาศัย เวลา แล้วก็ ตำแหน่งของดวงดาวต่างๆ บนท้องฟ้า เป็นหลัก แล้วบันทึกไว้เป็นสถิติ โหราศาสตร์ เป็นวิชาที่ต่างกับวิทยาศาสตร์ ด้วยแม้จะสามารถพิสูจน์ทราบได้โดยใช้กฎเกณฑ์ และเหตุผลในทางโหราศาสตร์ นำมาทดลอง พิสูจน์ให้เห็นประจักษ์ สามารถสรุปออกมาเป็นแนวคิดได้ ไม่ว่าจะทดลองกี่ครั้ง ที่ใดๆ ในโลกเช่นเดียวกับวิทยาศาสตร์โหราศาสตร์ก็ยังคงเป็นวิชาที่ออกจะลึกลับ ด้วยเหตุผลดังกล่าวนักวิทยาศาสตร์จึงไม่รับรองโหราศาสตร์ ว่าเป็นศาสตร์อย่างหนึ่ง อย่างไรก็ดีทางรัฐบาลประเทศอินเดียได้มีการประกาศช่วงวันที่ 11 พค. 2544 ให้มีการสอนวิชาโหราศาสตร์ในมหาวิทยาลัยได้
 
วิชาโหราศาสตร์มีหลายระบบรวมทั้งมีความแตกต่างกัน แบ่งออกเป็น โหราศาสตร์ไทย โหราศาสตร์สากล โหราศาสตร์จีน โหราศาสตร์ยูเรเนียน การคาดเดาในโหราศาสตร์จำต้องอาศัยโหราจารย์ผู้มีความรู้ความชำนิชำนาญในการผูกดวงและเป็นผู้พยากรณ์เพื่อตีความเป็นโอกาสของการเกิดเรื่องต่างๆ ในอนาคต โหราศาสตร์ เป็นสาขาหนึ่งของการทำนายและด้วยเหตุว่าการใช้ตำแหน่งของดวงดาวก็เลยมีความเกี่ยวข้องกับวิชาดาราศาสตร์
 
การดูดวง คือ?
 
ดวง (Horoscope) ในภาษาไทย ดวง หมายถึง กฏเกณฑ์ที่กำหนดชีวิตของคน หรือสัตว์ ตลอดจนบ้านเมือง อาจจะบอกได้ว่า โชคชะตาราศี ของแต่ละบุคคล หรือแต่ละชีวิต หรือแต่ละสถานที่ย่อมมีความแตกต่างกันไป ตามระยะเวลา, ช่วงเวลาที่ชีวิต หรือสิ่งเหล่านั้นกำเนิดขึ้นรวมทั้งสภาพแวดล้อมต่างๆ ก็ส่งผลต่อ ดวงชะตา ด้วยเหมือนกัน จะเห็นว่าหลายคนนิยมดูดวง ของตัวเอง หรือสภาพแวดล้อมที่ตนเองอาศัยอยู่ ทั้งนี้ก็เพื่อให้ทราบพื้นฐานความเป็นมาของ ดวงชะตา ตลอดจนข้อมูลในอนาคต หรือที่เรียกกันว่า ชะตากำหนด ดังนี้ก็เพื่อนำข้อมูลพวกนั้น มาคำนวณหาทางปรับแก้ที่เหมาะสมที่สุด เพื่อการดำรงชีวิตในทางที่เหมาะที่ควรในอนาคต ซึ่งเราหลายท่านน่าจะเคยได้ฟังเรื่องของการเสริมดวง, การผูกดวง อื่นๆ อีกมากมาย ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับความเลื่อมใสของแต่ละบุคคล ถือว่าเป็นการสร้างความมั่นใจและความเชื่อมั่นสำหรับเพื่อการดำรงชีวิต
 
การดูดวงเป็นกิจกรรมเพื่อรับรู้ดวงของบุคคลหรือสถานที่ เช่นดวงเมืองเพื่อจะทราบข้อมูลในอนาคตตามแต่ความศรัทธาและก็ปรึกษาสำหรับการตัดสินใจ การดูดวงจะมีคำทำนายได้ผลลัพธ์ ผู้ทำนายเรียกว่า หมอดู และก็ผู้ที่ถูกดูเรียกว่า เจ้าชะตา การดูดวงมีมาแต่ครั้งโบราณ แม้กระทั่งยามออกรบ ก็จะดูดวงชะตาว่าควรจะรบหรือเปล่า การดูดวงนับว่าเป็นกิจกรรมเพื่อสร้างความมั่นใจและความเชื่อมั่นอย่างหนึ่ง
 
ปัจจุบันการดูดวงมีหลายวิธี ขึ้นกับความเชื่อของแต่ละบุคคล ซึ่งเรื่องส่วนใหญ่ที่นิยมเอามาดูดวง คือ เนื้อคู่ความรักหน้าที่การงานการเล่าเรียนการค้าขายและ การเงิน
 
ที่มาที่ไปของการดูดวงโหราศาสตร์ไทย
 
พอเพียงเอ่ยถึงเรื่องของการดูดวงเชื่ออย่างมากว่าเกือบทุกคนคงจะต้องเคยผ่านประสบการณ์ที่เกี่ยวกับการดูดวงมาบ้าง ถึงจะไม่ใช่การที่พวกเราเข้าไปดูแบบโดยตรง แต่ว่าก็น่าจะเคยมีลักษณะที่ว่าอ่านดวงผ่านหนังสือ ดูผ่านรายการทีวี หรือแม้กระทั้งมีคนเข้ามาทักเกี่ยวกับดวงของพวกเรา สิ่งต่างๆ เหล่านี้มันเป็นโหราศาสตร์ของไทยที่มีประวัติอันช้านานถือได้ว่าเป็นศาสตร์ที่ถูกสืบทอดต่อกันมาแบบรุ่นสู่รุ่น ว่าแล้วก็ลองมาทำความเข้าใจประวัติความเป็นมาของการดูดวงโหราศาสตร์แบบไทยว่าเป็นอย่างไรบ้าง ซึ่งจำต้องขอบอกก่อนเลยกล่าวถึงความที่เรื่องกลุ่มนี้เป็นเรื่องที่ถูกเล่าสืบต่อกันมาจึงทำให้เกิดเป็นประวัติศาสตร์ที่ค่อนข้างจะแตกออกไปได้หลายแขนง
 
ในความเป็นจริงแล้วจำต้องขอย้อนกลับไปถึงความเป็นมาเกี่ยวกับโหราศาสตร์กันสักนิดหน่อย เดิมทีมีความเชื่อกันว่าโหราศาสตร์มีจุดกำเนิดมาจากชาวอียิปต์ที่นับว่าเป็นคนกลุ่มแรกๆ ที่มีประวัติศาสตร์บนโลก รวมทั้งยังเป็นชนชาติแรกๆ ของโลกที่มีการทำบันทึกในเรื่องของการเคลื่อนตัวของกลุ่มดวงดาว สำหรับเมืองไทยเองการเล่าเรียนเกี่ยวกับเรื่องของโหราศาสตร์เริ่มต้นเข้ามาในยุคของสมเด็จพระนารายณ์มหาราช ในอดีตกาลผู้ที่จะมีความเข้าใจหรือใช้ความรู้เกี่ยวกับเรื่องของโหราศาสตร์ได้จะเป็นคนพวกเจ้าขุนมูลนายทั้งหลายที่ยอมลงทุนใช้ตลอดชาติของพวกเขาในการศึกษาวิจัยศาสตร์ทางด้านนี้ตั้งแต่ที่ตนเองยังอายุน้อยๆ โหราศาสตร์ในยุคอดีตจะเน้นในเรื่องของการคาดเดาเกี่ยวกับเหตุชาติบ้านเมืองเป็นหลัก ใช้กันภายในราชสำนักเพียงอย่างเดียวเพียงแค่นั้น
 
ช่วงเวลาเดียวกันบางตำราก็กล่าวว่าโหราศาสตร์ไทยมีมาตั้งแต่ในยุคก่อนพระพุทธกาล ผู้ที่ทำการศึกษาเรื่องราวเกี่ยวกับโหราศาสตร์ก่อนเป็นกลุ่มแรกๆ ก็คือเหล่าบรรดาดาบสฤาษีรวมทั้งฤาษีที่อยู่ในป่าหิมพานต์รอบๆเทือกเขาหิมาลัย พวกเขาเหล่านี้คือศึกษาเล่าเรียนในเรื่องของดวงดาวจนกระทั่งสามารถเข้าสมาธิเพื่อส่งกระแสจิตไปยังกลุ่มดวงดาวพวกนั้นเพื่อซักถามที่มาที่ไปเกี่ยวกับอำนาจแล้วก็อิทธิพลของดวงดาวแต่ด้วยความที่ในยุคก่อนๆ ยังมิได้มีเรื่องมีราวราวของการจดบันทึกเอาไว้ก็เลยไม่ได้มีหลักฐานที่แน่ชัดว่าเป็นจริงมากน้อยแค่ไหน
 
แม้กระนั้นในยุคหลังๆ เรื่องของโหราศาสตร์ไม่ใช่เรื่องของผู้ที่เป็นเจ้าขุนมูลนายหรือคนที่ปฏิบัติงานอยู่ในราชสำนักอีกต่อไป เนื่องจากว่าเราจะเห็นได้ว่าเมื่อเรื่องราวพวกนี้ได้มีการส่งต่อมาจากคนธรรมดามันก็เปลี่ยนเป็นเรื่องที่หลายๆคนค่อนข้างสนใจเป็นอย่างมาก กระทั่งมีการแตกกิ่งการเล่าเรียนในเรื่องราวของโหราศาสตร์เกิดขึ้นมามากมายอย่างที่เราได้เห็นในขณะนี้ นับว่าเป็นสิ่งที่ยังคงน่าค้นหา น่าดึงดูด รวมทั้งเชื่อว่าอย่างไรเสียก็เป็นไปไม่ได้ที่จะสูญหายไปจากคนไทยอย่างไม่ต้องสงสัย
 


10 หนังสือดูดวง โหราศาสตร์ไทย แนะนำโดยร้านหนังสือนายอินทร์
 
1. เปลี่ยนชื่อ เพิ่มพลัง รับโชค
"ชื่อ" เปรียบได้กับตัวแทนของคนคนนั้น บางครั้งคนอื่นอาจจะได้ยินชื่อของเรา หรือรู้จักชื่อของเราก่อนจะเห็นหน้าค่าตากันด้วยซ้ำ หากชื่อเป็นสิริมงคล ก็ย่อมเกื้อหนุนให้เจ้าของชื่อมีความเจริญรุ่งเรือง และในทางตรงกันข้าม หากชื่อไม่เป็นมงคลแก่ตัว ก็ย่อมจะฉุดรั้งให้ตกต่ำได้เช่นเดียวกัน การตั้งชื่อตามหลักโหราศาสตร์ไทยจะมีใช้อยู่ด้วยกันหลายตำรา แต่ที่นิยมกันมากคือ "ภูมิทักษา" เพราะเข้าใจง่ายและมีความซับซ้อนน้อยกว่าหลักโหราศาสตร์อื่นๆ เพียงแค่รู้ว่าอักษรกาลกิณีของแต่ละวันมีอะไรบ้างก็ให้เลี่ยงเสีย ท่านก็จะได้ชื่อมงคลตามหลักภูมิทักษาไม่ยาก แต่หากใช้เพียงแต่ภูมิทักษา ความเป็นมงคลของชื่อก็เพียงช่วยเสริมและแก้ไขในภูมิต่างๆ เพื่อให้ได้ชื่ออันมีความเป็นสิริมงคลอย่างสูงสุด
แก้ไขดวงชะตา เปิดรับพลังแห่งโชคลาภ ด้วยนามอันเป็นมงคล ชื่อเป็นดั่งพรวิเศษที่มอบแก่ชีวิต ชื่อที่เป็นเลิศทั้งความหมายและสิริมงคล จะช่วยนำพาโชคดีมาสู่ชีวิต ส่งเสริมให้ประสบความสุข ความสำเร็จในทุกๆ ด้าน หนังสือ "เปลี่ยนชื่อ เพิ่มพลัง รับโชค" เล่มนี้จึงคัดสรรชื่อที่ไพเราะ ความหมายดี มีความเป็นสิริมงคล ถูกหลักมหาทักษาและเลขศาสตร์ตามลักษณะดาวเกิด มาให้ท่านเลือก เพื่อให้ถูกโฉลกแก่ชะตาชีวิตของท่านทุกประการ
 
2. คู่มือตั้งชื่อลูก ตามวันเกิดและวันที่เกิด เปลี่ยนนามทักษามงคล
คู่มือสำหรับตั้งชื่อตามวันลูกเกิดและวันที่เกิด ตั้งชื่อ เปลี่ยนชื่อ ปรับความหมายมงคล เพื่อเสริม ดวงชีวิตให้ดีและปรากฏชัด พร้อมด้วยชื่ออักษรทักษามงคลตัวอย่างกว่า 4,000 ชื่อ คัดชื่อ แก้ไขชื่อ จนกระทั่งถึงการตั้งชื่อลูก ที่จะส่งผลต่อการดำเนินชีวิต ดวงดาวของวันที่เกิด ทักษาอักษร มีหลักสำคัญ คือ ต้องถูกวัน ถูกทักษาศาสตร์ ถูกมงคล และมีความหมายดี ในหนังสือ "คู่มือตั้งชื่อลูก ตามวันเกิดและวันที่เกิด เปลี่ยนนามทักษามงคล" เล่มนี้จะมีวิธีตั้งชื่อที่ถูกต้อง ตามมงคลที่ต้องการ ให้ศึกษาแบบง่ายๆ ด้วยตนเอง การตั้งชื่อจะส่งผลดีให้กับชีวิตอย่างแน่นอน
การตั้งชื่อลูก การเปลี่ยนชื่อ และการแก้ไขชื่อ จะมีผลให้เกิดมงคลดีต่อชีวิตได้ ชื่อที่เลือกจึงต้องมีตัวอักษรทักษามงคลตามวันเกิดของผู้เป็นเจ้าของชื่อนั้น นำหน้าชื่อที่ตั้งอย่างชัดเจน ควรเป็นชื่อคำเรียกที่ง่าย สะกดได้เร็ว มีสระและพยัญชนะที่เขียนได้ถูกต้องตามหลักของทักษา และที่สำคัญจะต้องมีความหมายที่ดี เรียก หรือฟังได้ไพเราะเสนาะหู
ชื่อ.. จึงจะเกิดประโยชน์ "มงคลดี" ต่อผู้ที่เป็นเจ้าของชื่อมากที่สุด ดังนั้น การเลือกตั้งชื่อที่มีอยู่ในเล่มนี้ ผู้ตั้งควรมีวัตถุประสงค์หลักในการตั้งชื่อใหม่ แก้ไขชื่อเก่าเป็นสำคัญ ว่าต้องการตั้งชื่อตามวันเกิด หรือวันที่เกิด ตั้งชื่อใหม่ เปลี่ยนชื่อ หรือแก้ไขชื่อ หากการตั้งชื่อขัดแย้งกับหลักการง่ายๆ ดังกล่าวมา ชื่อที่ตั้งใหม่ก็จักไม่เกิดผลมงคลเท่าที่ควรจะเป็น
คู่มือเล่มนี้ มีจุดพิเศษ คือการตั้งชื่อตามวันเกิด ที่เป็นมงคลหลักของชื่อทุกชื่อ และตั้งชื่อตามความหมายของวันที่เกิดได้ โดยมีชื่อมงคลทักษาให้เลือกมากว่า 4,000 กว่าชื่อ และแยกชื่อชาย-หญิง เพื่อสะดวกต่อการคัดสรรชื่อต่างๆ ไว้อย่างครบถ้วนสมบูรณ์
 
3. ปฏิทินฤกษ์มงคล พ.ศ.๒๕๖๑
ดูวันและเวลาฤกษ์ดี ฤกษ์ร้าย แต่ละวัน สำหรับนักโหราศาสตร์ และผู้ที่จะใช้ฤกษ์แต่ละวัน
จากการที่ผู้เขียนเป็นคนหนึ่งที่ศึกษาหาความรู้และความสนใจส่วนตัวเกี่ยวกับโหราศาสตร์ฤกษ์ต่างๆ ทั้งได้รับความรู้จากครูบาอาจารย์ที่ได้รับการยอมรับเป็นอย่างสูงในวงการโหราศาสตร์ไทยกับท่านอาจารย์สิงห์โต สุริยาอารักษ์ และท่านอาจารย์สมพงษ์ ปิยะลาภา และนำความรู้ที่ได้มาประกอบกับการศึกษาจากตำราโหราศาสตร์ มาเป็นระยะเวลามากกว่า 30 ปี ประกอบกับได้รับเกียรติให้เป็น อาจารย์สมาคมโหราศาสตร์นานาชาติ ในวิชาโหราศาสตร์การให้ฤกษ์ อินทภาส-บาทจันทร์ และดวงพิชัยสงคราม เป็นระยะเวลามากกว่า 20 ปี ปัจจุบันดำรงตำแหน่ง อุปนายกกิตติมศักดิ์สมาคมโหราศาสตร์นานาชาติ อีกทั้งยังได้ให้ฤกษ์ประกอบการมงคลแก่ลูกศัษย์และบุคคลที่ให้การยอมรับในตัวผู้เขียน
 
4. ตำราทำนายฝัน (ฉบับประกาศิต)
ทำนายฝัน ฝันร้าย และวิธีแก้ไขฝันร้ายให้กลายเป็นดี จากตำราดั้งเดิม แม่นยำศักดิ์สิทธิ์ ดังประกาศิตพระร่วง
นักวิทยาศาสตร์ได้อธิบายปรากฏการณ์ ความฝัน ว่าเกิดจากการที่ธรรมชาติสมองของคนเรามีความสัมพันธ์กับการเปลี่ยนแปลงของคลื่นไฟฟ้าสมอง ที่ทำงานสานต่อกับประสาทสัมผัสทั้ง 5 คือ การมองเห็น การได้กลิ่น การรับรส การฟังเสียง และการสัมผัส เชื่อมโยงกับจิตไร้สำนึก ทำให้ความฝันมีตั้งแต่เรื่องปกติสามัญไปจนถึงเรื่องเหนือจริงหรือแปลกประหลาด ส่วนนักจิตวิทยาได้อธิบายถึง ความฝัน ว่าเป็นสิ่งสะท้อนจิตใต้สำนึกในส่วนลึก ทั้งความสุข ความสมหวัง ความทุกข์ และความผิดหวัง ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน ความฝันจึงเป็นช่องทางให้ความอัดอั้นตันใจได้ระบายออกในขณะหลับ บางครั้งความฝันอาจแสดงถึงความจริงบาง อย่างที่เปิดเผยไม่ได้ในขณะตื่น
 
5. พรหมชาติ (ฉบับสมบูรณ์)
หนังสือพรหมชาติ ฉบับสมบูรณ์ เล่มนี้ได้รวบรวมจากตำนานเก่าชื่อหนังสือ "พรหมชาติ เล่ม ๑,๒,๓" ฉบับเมื่อ ร.ศ.๑๒๐ เป็นหนังสือหายากด้วยเป็นตำราเก่า ที่สืบทอดมาจากศาสตร์โบราณมีอายุกว่า ๑๐๐ ปี เป็นตำราเก่าที่มีบทบาทในสังคมไทยมาช้านาน นอกจากนี้ยังได้รวมเอาสาระน่ารู้ทางโหราศาสตร์ไว้ อย่างครบถ้วน เช่น การตั้งชื่อ,ดูลัคนา,ฤกษ์มงคล, หลักเกณฑ์ การสร้างที่อยู่อาศัย, ตำราตรวจดวงชะตาตลอดปีทุกปีเกิดที่ได้รับการเล่าขานว่าแม่นยำที่สุดเหมาะสำหรับไว้เป็นคู่มือตรวจ ดวงชะตาประจำบ้าน ศาสตร์ของการพยากรณ์นี้เป็นเครื่องช่วยตัดสินใจในการดำเนินชีวิตได้อย่างไม่ประมาท ช่วยสร้างความเป็นสิริมงคล และนำมาซึ่งโชคลาภ วาสนา ความร่ำรวยมาสู่ตนเอง
 
6. 500 เคล็ดลับปรับฮวงจุ้ย บ้านร่มเย็น คนร่ำรวย
ฮวงจุ้ย เป็นศาสตร์การพยากรณ์ที่มีอายุนับ 4,000 ปี มีต้นกำเนิดมาจากจีนแผ่นดินใหญ่ รากฐานของฮวงจุ้ยมาจากคัมภีร์อี้จง อันเป็นคัมภีร์เก่าแก่ของจีนที่ว่าด้วยเรื่องศาสตร์ต่างๆ หนังสือ 500 เคล็ดลับปรับฮวงจุ้ย บ้านร่มเย็น คนร่ำรวย มีจุดประสงค์ที่ต้องการให้ทุกคน ที่อยากจะมีคุณภาพชีวิตที่ดี มีโอกาสได้รู้กลยุทธ์เคล็ดลับที่จะนำความโชคดี ความสุขสมหวังทุกประการดังที่คุณปรารถนา เพียงแค่ปรับเปลี่ยนบ้านพักที่อยู่อาศัยให้เป็นไปตามหลักฮวงจุ้ย ที่ไม่ใช่เพียงแค่ความเชื่อเท่านั้น แต่ฮวงจุ้ยยังเป็นศาสตร์ที่ให้รู้จักคิดและใช้สติปัญญาไตร่ตรอง ฮวงจุ้ยจะมีประโยชน์ต่อคุณอย่างมหาศาล ถ้าคุณรู้จักเชื่ออย่างมีเหตุมีผล และการคิดดี ทำดี ฮวงจุ้ยก็จะช่วยให้ชีวิตพบแต่สิ่งดีๆ ประสบความสำเร็จในสิ่งที่คุณต้องการทุกประการ ส่วนคนที่คิดชั่ว ทำชั่วถึงแม้จะทำตามหลักฮวงจุ้ยให้ตาย ย่อมไม่เกิดผลดีต่อชีวิต
 
7. The Magician ไพ่ยิปซีเปลี่ยนชีวิต
"ไพ่ยิปซี" นับเป็นศาสตร์ในการทำนายดวงชะตาที่แพร่หลายและเป็นที่นิยม ด้วยความแม่นยำ ลึกลับ และความสะดวกในการทำนายที่ไม่จำเป็นต้องเปิดเผยข้อมูลส่วนตัวใดๆ ให้กับนักพยากรณ์ทำให้ผู้รับคำพยากรณ์ส่วนมากชื่นชอบ จนคนจำนวนไม่น้อยหันมาสนใจศึกษาศาสตร์การพยากรณ์ด้วยไพ่ยิปซีกันเพิ่มขึัน "The Magician ไพ่ยิปซีเปลี่ยนชีวิต" เล่มนี้ นับเป็นตำราพยากรณ์ที่เปิดเผยทุกมุมของการทำนายดวงชะตาด้วยไพ่ยิปซีเหมาะอย่างยิ่งสำหรับมือใหม่ที่ต้องการจะเรียนรู้ศาสตร์แห่งการพยากรณ์นี้ด้วยตนเอง ในเล่มบรรจุคำทำนายของไพ่ทุกใบ ทั้งไพ่ชุดหลัก (Major Acana) และไพ่ชุดรอง (Minor Acana) พร้อมด้วยวิธีการเรียงไพ่เพื่อการพยากรณ์แบบต่างๆ โดยอาจารย์กิติคุณ พลวัน และทีมงานนักพยากรณ์ที่เป็นผู้เรียบเรียงตำราเล่มนี้ ให้ความรู้ต่างๆ ไว้อย่างไม่มีกั๊ก เพื่อให้ผู้สนใจสามารถศึกษาได้ด้วยตนเองอย่างแท้จริง
 
8. ตำราพรหมชาติ ฉบับสามัญประจำครอบครัว
ตำราพรหมชาติ ถือเป็นตำราที่รวบรวมศาสตร์แห่งการทำนายเก่าแก่ที่ได้รับความนิยมและเชื่อถือมายาวนาน จุดเด่นของตำราพรหมชาตินี้ก็คือ เป็นหนังสือที่รวบรวมศาสตร์แห่งการทำนายหลากหลายแขนงมาไว้ในเล่มเดียว ทำให้ง่ายต่อการค้นคว้า และศึกษาของผู้ที่สนใจทางด้านนี้ แต่อุปสรรคอันหนึ่งของการศึกษาตำราพรหมชาติ ซึ่งเป็นต้นฉบับเดิมนั้นก็คือ สำนวนอ่านยาก เข้าใจยาก ประกอบกับปัจจุบันมีศาสตร์การทำนายใหม่เกิดขึ้น หนังสือ ตำราพรหมชาติ ฉบับสามัญประจำครอบครัว เล่มนี้ มีจุดเด่นอยู่ที่การปรับถ้อยคำคำนวนให้เป็นภาษาทันสมัยอ่านง่าย เข้าใจง่าย เหมาะสำหรับยุคปัจจุบัน นอกจากนี้ ภายในเล่มยังได้รวบรวมศาสตร์การทำนายแขนงใหม่ที่กำลังเป็นที่นิยมกันในปัจจุบันเอาไว้ด้วย ไม่เชื่อไม่ลบหลู่ รู้เชื่อ ไม่งมงาย พึงสติปัญญาพิจารณา
 
9. ไขรหัสลับ สลับตัวเลขเปลี่ยนชีวิต
ต้องยอมรับว่า ยุคนี้การเปลี่ยนเบอร์โทรศัพท์มือถือกำลังเป็นกระแสฮิตแบบฉุดไม่อยู่ หนึ่งคนดังของกระแสฮิตนี้ หากพูดไปทุกคนต้องเคยได้ยินชื่อหรือเคยรู้จักเป็นอย่างดี นั่นคือ "แมน-การิน ศตายุส์" นักแสดงหนุ่มมากความสามารถ ที่วันนี้โด่งดังจากบทบาทใหม่ ในฐานะ "นักออกแบบตัวเลข" ผู้ขับเคลื่อนพลังชีวิตด้านบวกให้กับคนดังมากมาย ทั้งดารา เซเลป นักธุรกิจต่างๆ เรียกว่ามีชื่อเสียงกระฉ่อนจนเป็นที่ยอมรับของทุกวงการ ด้วย "ศาสตร์แมธเธโลจี" ศาสตร์ใหม่ที่กำลังได้รับความนิยม ซึ่งแมน การิน ได้ริเริ่มจากความเป็นคนช่างสังเกตในวัยเด็ก บวกกับความชอบเรียนคณิตศาสตร์ และเก็บรวบรวมเป็นข้อมูลเชิงสถิติต่างๆ จากผู้คนหลายพันคน โดยใช้เวลาศึกษาเรื่องนี้มาไม่ต่ำกว่า 6 ปี จนกลายเป็นผู้ชำนาญในการออกแบบและร้อยเรียงเลขเบอร์โทรศัพท์ เพื่อเปลี่ยนชีวิตของคนมากมาย หนังสือเล่มนี้จึงเป็นเสมือน "คู่มือเสริมพลังชีวิต" ให้คุณได้เข้าถึงความน่าอัศจรรย์ของการสลับ "ตัวเลข" เบอร์โทรศัพท์ ที่จะเพิ่มพลังงานด้านบวก และหลีกเลี่ยงพลังงานด้านลบให้กับคุณ
 
10. ฮวงจุ้ยบ้านดี เสริมบารมี-โชคลาภ
คงต้องยอมรับว่าสมัยนี้ผู้คนส่วนใหญ่ให้ความสำคัญและสนใจในศาสตร์ที่เรียกว่าฮวงจุ้ยกันมากขึ้น แตกต่างจากสมัยก่อนที่มองเห็นว่าฮวงจุ้ยเป็นเรื่องของคนที่งมงาย เชื่อถือโชคลาภไร้สาระ หรือเป็นเรื่องของคนร่ำรวยที่ปรารถนาความร่ำรวยรุ่งเรืองยิ่งๆ ขึ้นไป ด้วยการใช้หลักฮวงจุ้ยเข้าช่วย ที่เป็นเช่นนี้เพราะว่าความจริงแล้วฮวงจุ้ยเป็นศาสตร์ที่ไม่มีวันตาย แม้บางยุคบางช่วงอาจจะแผ่วลงไปบ้าง แต่ก็ยังอยู่มาได้จนทุกวันนี้ ที่สำคัญคือเหมาะกับทุกคนที่ปรารถนาความเจริญรุ่งเรืองในทุกๆ ทางไม่ว่าจะเป็นคนเพศใด วัยใด อาชีพใด หรือแม้แต่ฐานะเช่นใดก็ตาม เพราะสามารถตอบโจทย์ความต้องการของทุกคนได้หมด ไม่เว้นแม้แต่ความปรารถนาบารมีซึ่งเป็นเรื่องที่ใครหลายคนคิดว่าสร้างเองไม่ได้ อีกประการที่สำคัญกว่านั่นก็คือ ฮวงจุ้ยไม่ใช่เรื่องยากในการทำความเข้าใจ ไม่ยากที่จะนำไปใช้ และไม่สิ้นเปลืองในการปรับเปลี่ยนด้วย ดังนั้นคุณคงต้องเปลี่ยนความคิดในเรื่องของฮวงจุ้ยเสียใหม่ แล้วเปิดใจรับคำแนะนำในเรื่องฮวงจุ้ยเข้ามาเป็นตัวช่วยในการนำทางชีวิตของคุณด้วย

220

 
การดูแลบ้านเป็นหนึ่งในสิ่งที่สมาชิกภายในครอบครัวต้องช่วยเหลือกันและกัน เป็นเปรียบเสมือนหน้าที่ๆไม่ควรละเลย ด้วยเหตุว่าหากจะให้บ้านของตนเองดูน่าอยู่ศัย มองไปทางไหนก็ดูสะอาด โปร่งโล่งเตียนสบายตา
 
เคล็ดลับดูแลบ้าน
 
ดูแลหลอดไฟถูกวิธีเพิ่มอายุการใช้งาน
หลอดไฟฟ้าทุกชนิดล้วนมีระยะเวลาในการใช้งานอยู่ในตัวมัน แม้กระนั้นสำหรับอายุของหลอดไฟก็สามารถเพิ่มให้มันใช้งานได้ยาวนานและก็คุ้มค่า เพียงแต่รู้จักการหยิบจับเอามาทำความสะอาดบ้างเป็นครั้งเป็นคราว เริ่มจากปิดสวิตซ์ไฟให้เรียบร้อย คอยให้หลอดไฟเย็นตัวลง จากนั้นถอดหลอดไฟออกเช็ดทำความสะอาดข้างใน โดยการใช้สำลีชุบกับแอลกอฮอล์ทำความสะอาดกระทั่งหมดจรด ทิ้งไว้ให้แห้งสักพัก แล้วต่อจากนั้นให้ไขกลับไปแบบเดิม จัดให้วงจรภายในมีความแน่นหนามากขึ้น เพียงเท่านี้อายุการใช้งานก็จะเพิ่มขึ้นได้จากปกติ
อย่ามองข้ามความผิดปกติของประตูบ้าน
ประตูบ้านเป็นหัวใจสำคัญจุดหนึ่งของบ้าน เป็นส่วนที่พวกเราชอบเปิดแล้วก็ปิดมันอยู่ในทุกวี่ทุกวัน ดังนั้นการใช้งานและก็การเสียดสีก็เลยเกิดขึ้นเป็นประจำ ปัญหาประตูบ้านเกิดความเสียหายโดยเฉพาะอย่างยิ่งอาการฝืดขณะเปิดปิด เป็นสิ่งที่เราไม่ควรมองข้ามแล้วก็พบได้ทั่วไปได้บ่อยครั้ง แม้อาการฝืดรุนแรงอาจจะส่งผลให้ได้รับอันตรายก็คนในบ้าน ไม่ว่าจะเป็นเด็กหรือคนวัยแก่ที่มีแรงไม่มาก จะมีผลให้ติดอยู่ในพื้นที่นั้นๆด้วยเหตุดังกล่าว เราควรสังเกตให้ดีถ้าหากเจออาการฝืดเกิดขึ้นบางทีก็อาจจะจำเป็นที่จะต้องเลื่อยเอาส่วนของประตูที่ทำให้ฝืดออกไปบ้าง โดยเฉพาะประตูไม้ หยอดน้ำมันรอบๆจุดหมุนเพื่อให้มันสามารถเปิดปิดได้ดีขึ้น
เลี่ยงบ้านจากความชื้น
ความชุ่มชื้นเป็นตัวการทำให้บ้านหมดสวย ทางที่ดีเลี่ยงให้บ้านอย่าพบเจอกับความชื้นอยู่บ่อยๆโดยเฉพาะอย่างยิ่งผนังบ้าน เนื่องจากจะก่อให้เกิดรอยแตกร้าวรวมทั้งการหลุดลอกของสีก่อนถึงเวลาอันควร ด้วยเหตุผลดังกล่าวแม้พบปัญหารอยรั่ว ผนังมีร่องรอยไม่แนบสนิท ก็ควรจะรีบหาทางปรับปรุง ส่วนของหลังคาบ้านก็เป็นอีกจุดหนึ่งที่ต้องระมัดระวังเนื่องจากว่าความชื้นที่เกิดจากน้ำฝนจะทำให้ฝ้าเพดานเป็นด่างดวงแล้วก็เกิดการสึกหรอเป็นรูได้ง่าย
 
แนวทางการจัดสวนให้ดูดี
 
สวนหน้าบ้านนั้นนับว่าเป็นหน้าตาของเจ้าของบ้านอย่างหนึ่ง เวลามีแขกไป ใครมา สิ่งที่จะมองเห็นนอกจากรั้วบ้านแล้ว ก็จะเป็นสวนหน้าบ้าน หากสวนหน้าบ้านเล็กของเราจัดแต่งออกมาสวยดูดี ก็จะช่วยให้คนในบ้านรู้สึกมีชีวิตชีวา ชื่นบาน เพื่อนพ้องที่มาเยี่ยม|ยลบ้านของเราก็จะรู้สึกชื่นชม
 
1. ก่อนจะเริ่มจัดสวนควรตรวจรอบๆหน้าบ้านว่ามีแนวท่อน้ำประปาอยู่ตรงไหน ท่อน้ำทิ้งอยู่ตรงไหน เพื่อเวลาจัดสวนและบางทีอาจต้องลงต้นไม้จะได้ไม่ไปลงตามแนวท่อเหล่านั้น ถ้าเกิดท่อแตกขึ้นมาคงไม่โสภาแน่ๆขอรับ
2. แบ่งโซนหน้าบ้านให้เหมาะสม โซนนั่งเล่นไม่ควรโดดแดดมาก โซนปลูกต้นไม้อาจจำต้องอาศัยแดดสำหรับพันธุ์ไม้แต่ละจำพวก เราควรจะดูแนวทางลม ทิศทางแดดไว้ล่วงหน้า รวมทั้งวางแผนแบ่งโซนให้เหมาะสม
3. มองหาแบบสวนที่คุณถูกใจ ก่อนจะลงมือจัดสวนควรมีแผนแบบสวนในใจเอาไว้ให้ชัดเจน เพราะเหตุว่าถ้าเกิดพวกเราไม่วางแผนไว้ก่อน แล้วไปซื้อเครื่องมือจัดสวนแบบสะเปะสะปะ นอกจากสวนบางทีอาจจะออกมาไม่สวยงามแล้ว การจะเปลี่ยนแปลงสวนใหม่ก็ทำไม่ได้ง่ายนัก หากพวกเรามีแผนเอาไว้ภายในหัวจะดีมากกว่ามากเลยล่ะ
4. อย่าจัดสวนแบบรวมเอาทุกอย่างที่อยากได้ไว้ เพราะว่าพื้นที่มันมีจำกัด รวมทั้งการจัดสวนน่าจะเน้นในเรื่องแนวโปร่งเอาไว้ก่อน เนื่องจากว่าสัตว์ที่ไม่พึงปรารถนาบางทีอาจอาศัยความรกรุงรังของสวนที่ไม่ได้วางแผนไว้ก่อนเป็นที่อยู่อาศัย ได้แก่ งู กบ หรือแมลงต่างๆควรเน้นในเรื่องโปร่งมองสะอาดตาจะดีที่สุด
5. เลือกพืชพันธุ์ไม้ให้เหมาะสมกับสภาพอากาศ ด้วยเหตุว่าพื้นที่ของบ้านแต่ละหลังอาจต่างกัน แล้วก็นำมาซึ่งความชื้นได้ต่างกัน ถ้าเกิดเลือกพันธุ์พืชไม่ถูกกับสภาพแวดล้อมอาจส่งผลให้ต้นไม้ตาย เป็นโรคที่ไม่พึงปรารถนาได้
 
เคล็ดลับดูแลบ้านและสวนช่วงฤดูฝน
 
การดูและรักษาบ้านให้ผ่านช่วงฤดูฝนเป็นสิ่งสำคัญ วันนี้มีแนวทางกล้วยๆสำหรับในการดูแลบ้านและสวนช่วงฤดูฝนฝากกัน
 
เริ่มต้น หมั่นตรวจสอบตามฝาผนังรวมทั้งฝ้าเพดานทดลองวิเคราะห์มองให้ดีว่ามีรอยรั่วซึมหรือไม่ โดยเฉพาะในช่วงหลังฝนตก ถ้าเกิดเจอรอยรั่วซึมจะได้รีบปรับปรุงได้ทันเวลาแล้ว หมั่นทำความสะอาดพื้นรอบบ้านช่วงหลังฝนตก เพื่อไม่ให้เศษขยะไปทับถมในท่อที่มีไว้ระบายน้ำและไม่ให้มีตะไคร่จับหรือเป็นรอยเปื้อนดินโคลนเนื่องจากอาจจะก่อให้สมาชิกในบ้านลื่นหกล้มได้
 
ต่อมาเริ่มตรวจรอบบ้าน หมั่นกวาดเศษใบไม้ รอบๆรอบบ้านที่ร่วงหล่น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงฝนตก เพื่อไม่ให้ตันในท่อสำหรับเพื่อระบายน้ำรวมถึง ทำความสะอาดท่อที่มีไว้เพื่อระบายน้ำทิ้ง เพื่อป้องกัน}ท่อตันรวมทั้งน้ำนองรอบๆพื้นบ้าน ซึ่งอาจกลายเป็นปัญหาใหญ่คราวหลัง
 
ที่สำคัญเพื่อสุขภาพของคนในครอบครัว ต้อง ทำลายแหล่งน้ำขัง เพื่อป้องกันยุงร้าย ปิดภาชนะที่มีน้ำขังให้มิดชิด ทำลายภาชนะที่มีน้ำขังที่ไม่ใช้แล้วและควรเปลี่ยนน้ำในกระถางปลูกดอกไม้และแจกันเสมอๆเพื่อป้องกันยุงวางไข่ในที่สุดตระเตรียมไฟฉายและก็เทียนเพราะเมื่อฝนตกฟ้าหนัก มักจะตามมาด้วยปัญหาไฟฟ้าติดขัดอยู่บ่อยครั้ง
 


10 หนังสือบ้านและสวนที่แนะนำ โดยร้านหนังสือนายอินทร์
 
1. ตรวจสุขภาพบ้านก่อนรับโอน
หลายคนเลือกซื้อบ้านสร้างเสร็จแล้วมากกว่าลงมือสร้างบ้านเอง เพราะมีขั้นตอนน้อยกว่า ได้บ้านเร็ว และได้เห็นบ้านก่อนจ่ายเงิน แต่บ้านหลังหนึ่งๆ มีรายละเอียดที่ต้องตรวจสอบก่อนซื้อมากกว่าสิ่งของทั่วไป กว่าจะรู้ตัวว่าน่าจะตรวจสอบเรื่องนั้นหรือลืมดูเรื่องนี้ก็อาจสายเกินแก้ไข ผู้ซื้อที่รู้และเข้าใจแนวทางในการตรวจบ้านก่อนรับโอนก็จะมีโอกาสได้บ้านที่ตรงใจมากที่สุด
นอกจากนี้การที่ผู้ซื้อสามารถตรวจสอบความเรียบร้อยในการก่อนสร้างบ้านของผู้รับเหมาในโครงการจัดสรร ยังเป็นหนทางหนึ่งที่จะช่วยปลุกจิตสำนึกแห่งมาตรฐานการทำงานช่างที่ดี ป้องกันการทำงานแบบส่งๆ แล้วไปสร้างปัญหาและความเดือดร้อนอย่างใหญ่หลวงแก่ผู้ซื้อบ้านในภายหลัง และยังทำให้โครงการบ้านจัดสรรทั้งหลายตระหนักถึงการเลือกจ้างผู้รับเหมา ช่างก่อสร้างและผู้คุมงานที่ตั้งใจปฏิบัติวิชาชีพเป็นอย่างดี สิ่งเหล่านี้จะช่วยพัฒนาวงการก่อสร้างบ้านของไทยให้อยู่ในระดับที่น่าไว้วางใจมากขึ้นในอนาคต
เนื้อหาในเล่มครอบคลุมทุกเรื่องที่ต้องรู้เกี่ยวกับการตรวจรับบ้าน ทั้งคำศัพท์เกี่ยวกับการก่อสร้างที่ควรรู้ อุปกรณ์ที่ต้องใช้ในวันตรวจสอบ ส่วนที่ต้องตรวจสอบและยังมีตารางเช็กลิสต์ที่สามารถนำไปใช้ในวันตรวจรับบ้านเพื่อไม่ให้พลาดจุดสำคัญที่ต้องตรวจสอบ จึงเป็นประโยชน์แก่ผู้อ่านที่กำลังจะซื้อบ้านหรือกำลังจะตรวจรับบ้านจากผู้รับเหมาก่อนจ่ายเงินเงินงวดสุดท้าย
บ้านสวยถูกใจ มีพื้นที่ใช้งานตรงกับวิถีชีวิตประจำวัน มีระบบโครงสร้าง ระบบไฟฟ้า และระบบสุขาภิบาลที่ดี คือรูปแบบที่อยู่อาศัยที่สำนักพิมพ์บ้านและสวนอยากให้ทุกคนได้รับ และเราภูมิใจเป็นอย่างยิ่งที่ได้ผลิตหนังสือที่จะก่อให้เกิดการผลิตบ้านที่ได้มาตรฐานยิ่งๆ ขึ้นไป
 
2. บ้านเล็กจัดให้ใหญ่
คนส่วนมากอาศัยอยู่ในเมืองที่มีพื้นที่แคบ คนส่วนใหญ่เพิ่งจะมีบ้านเป็นครั้งแรก พวกเขายังขาดประสบการณ์ พวกเขาจึงไม่รู้ว่าควรที่จะให้ความสำคัญที่จุดไหน ควรจะเน้นเรื่องการตกแต่งหรือเน้นอยู่อาศัยสะดวก พวกเขามักจะมีปัญหาเหมือนๆ กันคือ ราคาแพง พื้นที่น้อย ของเยอะ และจะต้องอยู่บ้านหลังนี้ระยะยาว ทำอย่างไรให้เรามี "บ้าน" ที่ใหญ่ขึ้นถึงแม้ว่า "ที่อยู่อาศัย" ของเราจะมีขนาดเล็กและจำกัด
นี่คงเป็นสิ่งที่ทุกคนกังวล และแน่นอนมันเป็นสิ่งที่ฉันก็กังวลเช่นกัน หนังสือ "บ้านเล็กจัดให้ใหญ่" เล่มนี้ ฉันได้เขียนวิธีการแก้ปัญหาต่างๆ เอาไว้ให้กับพวกคุณทุกคน ตอนแรกฉันก็คิดว่าจะเขียนเล่นๆ สนุกๆ แต่พอฉันโพสต์ลงไปใน WeChat กลับได้รับความสนใจอยากมาก และมีคนมากมายที่เห็นด้วยกับวิธีการที่แนะนำ
จากหนังสือ 300 หน้าเล่มนี้ สิ่งที่ฉันต้องการที่จะบอกคุณมากที่สุด คือ ที่อยู่อาศัยนั้นไม่สำคัญ สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ คนที่อาศัยอยู่ในบ้าน เมื่อคุณรู้ว่าคุณควรจะดูแลรักษาบ้านอย่างไร บ้านก็จะดูแลคุณให้มีความสุขเช่นกัน
 
3. สวนธรรมชาติ "สร้างธรรมชาติในสวนและจัดอย่างกลมกลืนกับสภาพแวดล้อม"
การจัดสร้างธรรมชาติในสวน ซึ่งเลียนแบบมาจากธรรมชาติของป่าเขาลำเนาไพร รวมไปถึงพื้นที่เชิงนิเวศน์ และพื้นที่อิงธรรมชาติ อย่างภูเขา และทะเล โดยใช้เส้นสายฟรีฟอร์มและการจัดวางองค์ประกอบต่างๆ ให้ใกล้เคียงธรรมชาติรวมถึงกลมกลืนกับสภาพแวดล้อมโดยรอบ ทั้งในเรื่องของวัสดุและพืชพรรณโดยจัดอย่างกลมกลืนกับสภาพแวดล้อม โดยคำนึงถึงเรื่องทิศทางของแสงแดด ความชื้นและลมเพราะสิ่งเหล่านี้เป็นปัจจัยสำคัญต่อการเติบโตของพืช โดยมีตัวอย่างสวนธรรมชาติรูปแบบต่างๆให้ชมถึง 12 สวน
เรื่องราวการจัดสร้างธรรมชาติในสวน ซึ่งเลียนแบบจากธรรมชาติของป่าเขา ลำเนาไพร รวมไปถึงพื้นที่เชิงนิเวศ และพื้นที่อิงธรรมชาติอย่างภูเขาและทะเล โดยใช้เส้นสายฟรีฟอร์มและการจัดวางองค์ประกอบต่างๆ ให้ใกล้เคียงธรรมชาติ รวมถึงกลมกลืนกับสภาพแวดล้อมโดยรอบ ทั้งในเรื่องของวัสดุและพืชพรรณ สำหรับผู้สนใจต้องการนำธรรมชาติมาไว้ใกล้ตัว ลองพลิกชมตัวอย่างสวนเหล่านี้ได้จากหนังสือ "สวนธรรมชาติ" เล่มนี้สำหรับผู้ที่มีใจรักธรรมชาติและปรารถนาจะอยู่ร่วมกับธรรมชาติอย่างสร้างสรรค์
 
4. บ้านและสวน ฉบับพิเศษ GARDEN VIBES
บ้านและสวนฉบับพิเศษเล่มนี้ ตั้งใจนำเสนอ 10 สวนสวยที่มีบรรยากาศแบบ "Garden Vibes" ซึ่งเจ้าของบ้านหรือเจ้าของสถานที่ให้ความสำคัญกันต้นไม้ใบหญ้า โดยหล่อหลอมจากความรักและความเข้าใจในธรรมชาติผ่านงานออกแบบที่ผสมผสานสไตล์อันหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นวินเทจ อิงลิชคันทรี่ โมเดิร์น มินิมัล หรือเม็กซิกัน แต่ทุกสวนยังดูเชื่อมโยงกันด้วยการสอดแทรกกลิ่นอายของสวนทรอปิคัล ซึ่งถือเป็นเอกลักษณ์ของสวนในสภาพภูมิอากาศแบบร้อนชื้นอย่างเมืองไทย นอกจากนี้ยังมีบทความที่แนะนำวิธีการสร้างบรรยากาศภายในบ้านให้เต็มไปด้วยความสดชื่นจากพื้นที่สีเขียวเล็กๆ รวมถึงแนะนำพรรณไม้ที่น่าปลูกในบ้านของเรา สวนสวยๆ ในเล่มนี้ยังทำให้คุณเห็นจุดยืนร่วมกันของเจ้าของสวนทุกท่าน นั่นคือ "ความสุข" ของผู้ที่ให้ความสำคัญกับ "สวน" และ "ธรรมชาติ" หวังเป็นอย่างยิ่งว่าทุกภาพและทุกตัวหนังสือที่ได้รับชมในหนังสือเล่มนี้จะเป็นแรงบันดาลใจให้คุณสร้างพื้นที่สีเขียวให้แก่โลกใบนี้ต่อไป
 
5. บัว Waterlilies & Lotuses
รวมเรื่องบัวทั้ง ประวัติและลักษณะทางพฤกษศาสตร์ วิธีปลูกเลี้ยงและเทคนิคต่างๆ ที่ได้จากประสบการณ์ และรวบรวมพันธุ์ทั้งที่มีถิ่นกำเนิดในเมืองไทย และพันธุ์ลูกผสมที่คนไทยปรับปรุงพันธุ์ขึ้น พันธุ์ต่างประเทศที่นำมาปลูกเลี้ยงในเมืองไทยจนเป็นที่รู้จัก รวมมากกว่า 400 ชนิดและพันธุ์ ราวสิบกว่าปีที่ผ่านมา วงการบัวของประเทศไทยคึกคักขึ้นมาก นับตั้งแต่บัวฝรั่งลูกผสมฝีมือคนไทยที่ชื่อ "มังคลอุบล" (Nymphaea 'Mangkala Ubol') ของ ผศ.ดร.ณ.นพชัย ชาญศิลป์ แห่งมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลตะวันออก วิทยาเขตบางพระ จังหวัดชลบุรี สามารถคว้ารางวัล Best New Hardy Waterlily ในปี 2004 จากสมาคม IWGS (International Waterlily and Water Gandening Society) ประเทศสหรัฐอเมริกา หลังจากนั้นจึงเริ่มมีผู้สนใจปลูกเลี้ยงบัวเพิ่มขึ้นหลายท่านนำไปสู่การนำเข้าบัวสายพันธุ์ต่างๆ ที่สวยงามแปลกตามากมาย เพื่อนำมาทดลองปลูกเลี้ยง ผสมเกสรเพาะพันธุ์ และคัดเลือกจนได้ลูกไม้ใหม่ที่น่าสนใจหลายต่อหลายต้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งช่วง 7-8 ปีที่ผ่านมา บัวลูกผสมสัญชาติไทยเหล่านี้ได้คว้ารางวัลระดับโลกกลับมาติดต่อกันทุกปี เช่น รัตนอุบล วันวิสาข์ สยามเพอร์เพิ้ล 1 มณีเรด มายาราณี มิลกี้เวย์ ศรีชล กาแล็กซี จักรพงษ์ และอื่นๆ อีกมากมาย หนังสือบัว : Waterlilies & Lotuses เล่มนี้ ผู้เขียนรวบรวมรูปภาพของบัวพันธุ์ต่างๆ ที่มีปลูกเลี้ยงกันในเมืองไทย ทั้งชนิดแท้ ลูกผสมทั้งของไทย และเทศ พร้อมเกร็ดความรู้แต่ละพันธุ์ไว้มากกว่า 400 ชนิดและพันธุ์ โดยพยายามสืบค้นเรื่องราวจากผู้ผลิตโดยตรงให้ได้มากที่สุด บันทึกข้อมูลที่น่าสนใจต่างๆ ที่ได้รับไว้เป็นเอกสารอ้างอิง รวมถึงเทคนิคการปลูเลี้ยงสำหรับผู้ที่สนใจและต้องการหาข้อมูลไว้ใช้ค้นคว้าต่อไป
 
6. บ้านและสวน MODERN TROPICAL HOMES
การออกแบบบ้านให้เหมาะสมกับภูมิอากาศและภูมิประเทศนั้น จริงๆ แล้วอยู่ในหลักการออกแบบเบื้องต้นมาช้านาน ถือได้ว่าเป็นเรื่องแรกๆ ที่สถาปนิกหรือผู้ออกแบบต้องคำนึงถึงเลยก็ว่าได้แต่ด้วยข้อจำกัดในหลายๆ ด้าน พร้อมกับการเปลี่ยนแปลงของเมืองและสังคมที่มิอาจหลีกเลี่ยงได้ ความเป็นบ้านในแบบทรอปิคัลของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้จึงถูกลดทอนความสำคัญลงไปในช่วงเวลาหนึ่ง ทุกวันนี้การคำนึงถึงเรื่องความร้อน ช่องเปิดที่นำแสงและลมเข้าสู่ตัวบ้าน และพื้นที่สีเขียวอันเป็นส่วนหนึ่งของการอยู่อาศัย กลายเป็นสิ่งที่ทุกคนไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้อีกต่อไป จากเหตุผลทั้งทางด้านพลังงาน ความเป็นอยู่อย่างสบายที่เน้นความใกล้ชิดกับธรรมชาติมากขึ้น การตระหนักถึงสิ่งแวดล้อมในเชิงคุณค่าและมูลค่า ความผูกพันกับรากฐานดั้งเดิม รวมไปถึงการแก้ไขปัญหาบางประการที่ได้พบเจอมาจากการออกแบบอาคารและบ้าน ในช่วงที่เราใส่ใจเรื่องแดดแรง ฝนแรง ความชื้นสูง และภัยธรรมชาติของภูมิภาคนี้น้อยกว่าที่เป็น บ้านในเขตร้อนชื้นยุคใหม่จึงเป็นเสมือนการผสมผสานของทั้งภูมิปัญญาการอยู่อาศัยในแต่ละท้องถิ่นแนวคิดการออกแบบมสมัยใหม่และเทคโนโลยีด้านวัสดุสร้างในปัจจุบันกลายมาเป็นคำตอบอันน่าสนใจจากมันสมองของผู้ออกแบบ ซึ่งเลือกสิ่งที่เหมาะสมที่สุดให้บ้าน ด้วยคำถามธรรมดาๆ ที่ว่า "การออกแบบบ้านที่ดีควรเป็นอย่างไร" รวมการออกแบบบ้านในรูปแบบ Modern Tropical House ที่มีความเหมาะสมกับภูมิอากาศแถบร้อนชื่นในเขตอาเซียน ซึ่งได้มรการประยุกต์เอาความรู้ดั้งเดิืตามแต่ละพื้นถิ่นมาประกอบกับแนวทางสมัยใหม่ อาทิ เช่น วัสดุ เทคนิคการก่อสร้าง รูปแบบงานดีไซน์ รวมไปถึงแนวทางการแก้ไขปัญหาใหม่ๆ ที่มาช่วยให้การสร้างบ้านแบบ Tropical มีแนวทางที่หลากหลายมากขึ้น สอดคล้องกับการใช้ชีวิตในยุคปัจจุบัน รวมบ้าน Modern Tropical ที่ตอบสนองกับการใช้ชีวิตและภูมิอากาศของภูมิภาค
 
7. แบบบ้านสำเร็จรูป หลักแสน
หนังสือ "แบบบบ้านสำเร็จรูปหลักแสน" เล่มนี้เป็นหนังสือแบบบ้านสร้างประกอบ ที่เราได้จัดทำขึ้นเพื่อตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้า ผู้อ่าน และผู้ที่สนใจ ที่อยากจะสร้างบ้านทางเลือกใหม่ๆ โดยหนังสือ "แบบบ้านสำเร็จรูปหลักแสน" เล่มนี้มีความพิเศษตรงที่มีการรวบรวมแบบบ้านไว้ถึง 50 แบบ หนังสือ "แบบบ้านสำเร็จรูปหลักแสน" ได้รับการออกแบบโดยสถาปนิกมืออาชีพทำให้ดีไซน์ที่ออกมาดูทันสมัย หลากหลายสไตล์ไม่ว่าจะเป็นสไตล์โมเดิร์น สไตล์รีสอร์ท สไตล์ร่วมสมัย พร้อมกับแบบแปลนที่จัดพื้นที่ใช้สอยไว้อย่างลงตัว ซึ่งแต่ละแบบจะเน้นพื้นที่ใช้สอยไม่มาก ขนาดกะทัดรัดเหมาะกับผู้ที่มีขนาดที่ดินปลูกสร้างจำกัด ต้องการอยู่อาศัยในเวลาอันรวดเร็ว และงบประมาณไม่สูงมาก จะทำให้ผู้อ่านทุกท่านได้รับประโยชน์ ความรู้ ความพึงพอใจ และแนวทางในการสร้างบ้านจากรายละเอียดเนื้อหาของหนังสือเล่มนี้เพิ่มมากขึ้น
 
8. 99 เรื่องต้องรู้ก่อนมีบ้าน
หนังสือเล่มนี้จะให้เกร็ดความรู้เกี่ยวกับการออกแบบ การก่อสร้าง และการบำรุงรักษา โดยนำเสนอเฉพาะเรื่องที่เกี่ยวกับอาคารประเภทบ้านเป็นหลักกลุ่มเป้าหมายคือ คนทั่วไปที่สนใจเรื่องการออกแบบและก่อสร้างอาคารกำลังจะสร้างบ้าน สร้างบ้านอยู่ หรือแม้แต่คนที่มีบ้านอยู่แล้ว ก็สามารถนำความรู้จากหนังสือเล่มนี้ัไปใช้ในการดูแลปรับปรุงบ้านได้เช่นกัน เนื้อหาหลายข้อนั้น ผู้อ่านอาจคิดว่าหาอ่านได้อยู่แล้วในอินเทอร์เน็ตหรือเฟซบุ๊ก แต่แนวทางการนำเสนอในหนังสือเล่มนี้ ผู้เขียนจะให้แนวคิดในเชิงลึกและฟันธงแบบไม่แทงกั๊ก โดยเขียนให้อ่านง่าย ที่สำคัญคือข้อมูลส่วนใหญ่เป็นการแชร์ประสบการณ์ที่ผู้เขียนเจอโดยตรง ได้ทำจริงและสัมผัสจริงมาแล้วอย่างเช่น เรื่องของกุญแจที่นำเสนอในหัวข้อแรกๆ นั้น มาจากข้อมูลที่ผู้เขียนต้องเลือกซื้อและเปลี่ยนลูกบิดกุญแจบ้านของตัวเองมาแล้วไม่ต่ำกว่าสามสิบครั้ง เป็นต้น การแบ่งหัวข้อออกเป็น 99 หัวข้อนั้น ผู้เขียนได้จัดหมวดหมู่เป็นกลุ่มแบบหลวมๆ เพื่อให้เรื่องเดียวกัน หรือใกล้เคียงกันอยู่ด้วยกัน แนะนำว่าให้อ่านหัวข้อที่สารบัญแล้วพลิกไปอ่านเรื่องที่สนใจที่สุดก่อน แล้วค่อยหาเวลามาอ่านหัวข้ออื่นๆ จะช่วยให้ได้อรรถรสและไม่เบื่อ จนทำให้สามารถอ่านเนื้อหาได้จนจบทั้งเล่ม
 
9. A Beginner's Guide to Gardening คู่มือทำสวนฉบับเริ่มต้น
การจะมีสวนสักหนึ่งสวน หลายคนมองว่าเป็นเรื่องยุ่งยาก ไม่รู้จะเริ่มต้นอย่างไร วางแปลนให้อะไรอยู่ตรงไหน รวมถึงคาดหวังไปต่างๆนานา หนังสือเล่มนี้จึงตั้งใจบอกว่า ให้เริ่มจากดูตัวอย่างสวนสวยหลายๆแห่งที่เราชอบทั้งจากในหนังสือ หรือสถานที่จริง จากนั้นเลือกกิจกรรมต่างๆ ที่สรุปออกมาตามความต้องการของสมาชิกในครอบครัว โดยดูตัวอย่างจาก project ในเล่มแล้วลองจัดวางแปลนตามร่มเงา พอแปลนเริ่มเข้าที่ มาเลือกพรรณไม้และวัสดุที่สื่อบรรยากาศตามต้องการ เมื่อวัสดุและพรรณไม้พร้อมจึงจัดวางและปลูกสร้างในพื้นที่ตามขั้นตอนต่างๆที่เรานำเสนอไว้ได้เลย จากนั้นก็อย่าลืมเลือกของตกแต่ง เฟอร์นิเจอร์ และองค์ประกอบต่างๆมาจัดวางร่วมด้วย เท่านี้สวนของเราก็สำเร็จไปเกินกว่าครึ่งแล้ว ที่เหลือคือการดูแลใส่ใจที่จะต้องทำอย่างต่อเนื่องเพื่อให้สวนสวยอยู่กับเราต่อไปอีกนานๆ มือใหม่และผู้อยากจัดสวน ชอบสะสมหนังสือที่มีรูปวาดน่ารักสวยงาม ภาพวาดที่สวยงาม เห็นวิธีการทำอย่างชัดเจน ทำตามได้
 
10. ครัวคู่บ้าน Kitchen Design&Ideas ปกแข็ง
รวมการตกแต่งห้องครัวหลายแบบ พร้อมคำอธิบายเรื่องการออกแบบการจัดพื้นที่ใช้สอย สไตล์ วัสดุต่างๆ ฯลฯ เป็นแนวทางให้ผู้อ่านได้ค้นหาแบบของครัวที่เหมาะกับตัวเอง "ครัวคือหัวใจของบ้าน" เป็นความจริงที่ใช้ได้เสมอ แม้การดำเนินชีวิตในปัจจุบันของคนไทยจะเปลี่ยนแปรไป การใช้ชีวิตเป็นอิสระมากขึ้น ทำให้แต่ละคนดำเนินชีวิตต่างกัน หลายคนชอบทำอาหาร หลายคนชอบการสังสรรค์นอกบ้าน หลายคนมีชีวิตเร่งรีบ ฯลฯ สิ่งเหล่านี้ล้วนส่งผลกับห้องครัว จากครัวไทยๆ ที่เคยอึกทึกครึมโครมด้วยเสียงโขลกน้ำพริก อบอวลด้วยกลิ่นควันจากฟืนที่จุดขึ้นเพื่อปรุงอาหาร ก็ปรับเปลี่ยนมาสู่ยุคที่ในครัวพรั่งพร้อม ด้วยอุปกรณ์ไฟฟ้ามากหน้าหลายตาที่ช่วยให้การทำอาหารสะดวกมากขึ้น จนกระทั่งมาถึงจุดที่ครัวเป็นแค่มุมเล็กจิ๋วที่ซ่อนตัวอยู่สักที่ในบ้าน เพราะมีอาหารสำเร็จรูปแช่แข็งให้เราได้อุ่นกิน
 

221

 
รอมแพง เป็นนามแฝงของ จันทร์ยวีร์ สมปรีดา ชื่อเล่น: อุ้ย เกิด พ.ศ. 2520 อำเภอสิชล จังหวัดนครศรีธรรมราช เป็นผู้ประพันธ์ชาวไทย เธอมีผลงานมาแล้วมากยิ่งกว่า 20 งานด้านการเขียนด้วยกันอย่าง ดาวเกี้ยวเดือน, บุพเพสันนิวาส, มิติรักข้ามดวงดาว, คีตโลกา, เรือนพะยอม และส่วนมากก็จะเป็นนวนิยายแนวรักตลก งานของคุณอุ้ยมีเอกลักษณ์ทั้งสำนวนภาษา และก็บทพรรณาโวหารที่บรรยายสถาปัตยกรรมและก็ศิลปกรรมในสมัยนั้น บุคลิกลักษณะผู้แสดง โดยเฉพาะนางเอกให้มีบุคลิกที่สดใสร่าเริง มีความเป็นตัวของตัวเองสูงชื่อนามสมมุติ ใช้ตามชื่อตัวละคร รอมแพง ในเรื่อง เวียงกุมกาม ของทมยันตี มีความหมายว่า "ผู้เป็นที่รัก" หรือ "หญิงผู้เป็นที่รัก"
 
เธอสำเร็จการศึกษาจากโรงเรียนวัดประทุมทายการาม ในระดับประถมศึกษา แล้วก็มัธยมจากโรงเรียนกัลยาณีศรีธรรมราช ระดับปริญญาตรีจากคณะโบราณคดี มหาวิทยาลัยศิลปากร เอกประวัติศาสตร์ศิลปะ โทภาษาไทย ทำงานประจำหลายงาน ตั้งแต่ขายเครื่องสำอาง เซลล์ขายบ้าน ผู้ช่วยทนาย ธุรการ พนักงานประมาณราคาของบริษัทตกแต่งภายใน พนักงานพิสูจน์อักษร ภัณฑารักษ์ (ผู้ดูแลพิพิธภัณฑ์) จนคุณอุ้ยเริ่มเขียนหนังสือประมาณปี พุทธศักราช 2549 และได้รวมเล่มในปีต่อมา ตอนนั้นคุณอุ้ยประกอบอาชีพอื่นอยู่ จึงลาออกมาทำงานเขียนเป็นงานประจำ คุณอุ้ยได้ลองเขียนนวนิยายลงเว็บ Pantip แล้วก็มีคนเริ่มติดตาม ประกอบกับมีแมวมองจากสำนักพิมพ์เข้ามาทาบทามให้ลงพิมพ์เป็นรูปเล่ม เธอก็เลยทำงานประจำไปด้วยและก็มีงานเขียนบนโลกออนไลน์เป็นงานอดิเรก ซึ่งเป็นงานที่คุณอุ้ยรัก
 
แม้จะไม่เคยต้องการเป็นนักเขียนมาก่อน แต่ว่าเธอเริ่มต้นอ่านหนังสือมาตั้งแต่เด็กๆ โดยเริ่มอ่านหนังสือทุกจำพวกตั้งแต่นิทานอีสป ตำรับตำราเรียน เรื่องสั้น นวนิยาย ประวัติศาสตร์ ฯลฯ ชนิดที่ว่าความกว้างของห้องสมุดสำหรับประชาชนก็ยังไม่พอต่อความรักในการอ่านของเธอ
 
จุดกำเนิดที่ทำให้เกิดนิสัยรักการอ่าน เริ่มมาจากที่คุณพ่อกับคุณแม่ไม่ค่อยมีเวลาเพราะว่าจำต้องทำงานหนัก รวมทั้งพ่อเป็นคุณครูที่ดุมาก จะไม่ค่อยได้สอนอะไรเรามากแค่ไหน ถ้าสอนทีไรต้องมีน้ำตาแน่นอน เราไม่ได้อยากต้องการร้องไห้ก็เลยไม่ค่อยให้คุณพ่อสอน เลยเริ่มไปศึกษาสิ่งต่างๆ จากหนังสือตั้งแต่ในตอนนั้น
 
เริ่มจากนิทานอีสปที่อ่านแล้วรู้สึกเหมือนเด็กๆทั่วไป แล้วเราอาจจะมีนิสัยแปลกๆอย่างหนึ่ง คืออ่านหนังสือแล้วจะเห็นภาพตามตัวอักษรที่อ่าน มันจึงกลายเป็นว่าเราไม่ได้อ่านอย่างเดียว แต่ว่าเราได้จินตนาการแล้วก็เห็นภาพนั้นๆตามความนึกคิดของเราไปด้วย ไม่ใช่แค่นิทานอย่างเดียว กับตำรับตำราเรียนก็เห็นภาพด้วยนะ เลยชอบอ่านหนังสือเรียนไปด้วย ก่อนเปิดเทอมเวลาได้หนังสือมาใหม่ เราจะรีบอ่านทันทีเลย ทุกเล่ม ทุกวิชาเลยนะ แต่ว่าจะสนุกแค่รอบแรก และจากนั้นก็ทิ้งเอาไว้และหลังจากนั้นก็ค่อยเอามาอ่านอีกครั้งตอนสอบ พออ่านไปก็ชอบอ่านหนังสือมากยิ่งขึ้น
 
ไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิต คุณอุ้ยเล่าให้ฟังอย่างอารมณ์เบิกบานว่า ชอบท่องเที่ยวแบบแบคแพค แบกเป้เดินทางไปท่องเที่ยวผู้เดียวทั้งในไทยแล้วก็เมืองนอก อย่างในไทย เวลาไปครั้งนึงจะไปเที่ยวทั้งภาคเลย ไปทีละหลายจังหวัด ส่วนเมืองนอก ที่ไปมามีประเทศเยอรมัน 25 วัน อื่นๆอีกมากมาย โดยจะชอบเดินชมพิพิธภัณฑสถานรวมทั้งโบราณสถานของประเทศนั้นๆ เวลาไปท่องเที่ยวแต่ละครั้งจะไปนานนับเดือน ส่วนในตอนนี้อยากไปประเทศฝรั่งเศสแล้วก็อิตาลี เพียงแค่ยังไม่มีเวลา
 
นอกเหนือจากนี้ เธอยังชอบอ่านนวนิยาย คนเขียนในดวงใจก็เลยมีหลายๆคน ได้แก่ ทมยันตี แก้วเก้า ว.วินิจฉัยกุล กิ่งฉัตร ตรี อภิรุม อื่นๆอีกมากมาย แถมเธอยังชอบเล่นเกมอีกด้วย
 
ที่มาของ "รอมแพง"
 
คุณอุ้ยเล่าว่า นามแฝง "รอมแพง" นี้เป็นชื่อตัวละครหนึ่งในนวนิยายเรื่อง เวียงกุมกาม ของทมยันตี ซึ่งเป็นชื่อที่คุณอุ้ยประทับใจเนื่องจากเป็นภาษาล้านนาโบราณ สื่อความหมายลึกซึ้งมีความหมายว่า หญิงผู้เป็นที่รัก จึงเลือกนำออกมาใช้เป็นนามสมมุติ
 
บุพเพสันนิวาส
 
กว่าจะมาเป็น "บุพเพสันนิวาส" แม้ว่าจะใช้เวลาเขียนนิยายเรื่องบุพเพสันนิวาสเพียง 1 เดือน แต่ว่าต้องใช้เวลาในการศึกษาวิจัยหาข้อมูลเพื่อนำมาเขียนถึง 3 ปีเศษ โดยเมื่อมีโครงเรื่องแล้ว ก็เริ่มหาข้อมูลจากการอ่านหนังสือ และพงศาวดารต่างๆแล้วนำมาผูกโยงกับจินตนาการ
 
เมื่อถามเหตุผลว่า เพราะเหตุใดถึงเจาะจงเลือกเขียนในยุคสมัยของสมเด็จพระนารายณ์มหาราช คุณอุ้ยอธิบายว่า ก่อนหาข้อมูล คุณอุ้ยจำเป็นต้องตัดสินใจเลือกว่าจะเอาช่วงใดมาเขียนดี เลยอยากเลือกยุคสมัยที่ยังไม่ค่อยมีคนเขียนถึงมากเท่าไรนัก เพื่อให้งานด้านการเขียนออกมามีความต่างและก็น่าสนใจ
 
ปัจจุบันนี้บทประพันธ์เรื่อง "บุพเพสันนิวาส" ได้รับการพิมพ์ซ้ำไปเเล้วมากกว่า 27 ครั้ง เเละภายหลังจากละครออกอากาศไปขณะนี้มียอดการพิมพ์เพิ่มเติมอีกไม่ต่ำกว่า 10 ครั้ง ยิ่งไปกว่านั้นคุณอุ้ยยังมีผลงานอื่นๆ กว่า 20 ผลงาน ตัวอย่างเช่น ดาวเกี้ยวเดือน, มิติรักข้ามดวงดาว,คีตโลกา, เรือนพะยอม ,พรายพยากรณ์,พรายเนตรทิพย์ อื่นๆอีกมากมาย โดยส่วนใหญมักเป็นนิยายแนวโรแมนติกคอมเมดี้
 
บุพเพสันนิวาส เคยถูกไม่ยอมรับจากทางสำนักพิมพ์ กระทั่งท้ายที่สุดก็ได้รับการตีพิมพ์จากสำนักพิมพ์เดิมที่เธอเคยร่วมงานกันมาก่อน ชวนให้คิดถึงเรื่องราวของ เจ.เค.โรว์ลิง ผู้เขียนมือทองนักเขียนแฮร์รี่ พอตเตอร์ ที่เคยถูกไม่ยอมรับการพิมพ์ต้นฉบับแฮร์รี่ พอตเตอร์หลายครั้งก่อนจะมีชื่อเสียงในภายหลัง ช่วยให้เกิดแรงบันดาลใจว่า มนุษย์เราย่อมจะต้องผ่านโมเมนต์อย่างนี้บ้าง ก่อนที่จะบรรลุเป้าหมาย
 


10 นิยายแนะนำของรอมแพง โดยร้านหนังสือนายอินทร์
 
1. บุพเพสันนิวาส โดย รอมแพง (ละครช่อง 3)
หนังสือนิยายเรื่องเยี่ยมของรอมแพง ที่นำมาทำเป็นละครทางช่อง 3 การย้อนกลับมาสู่สมัยอยุธยา ของเกศุรางค์ นักโบราณคดีสาวหุ่นท้วม กับพ่อเดช บุพเพสันนิวาส เป็นเรื่องราวความรักอิงประวัติศาสตร์ ที่รอมแพง เรียบเรียงมาได้อย่างสนุก อ่านแล้วจะวางไม่ลงเลยทีเดียว
อำนาจเหนือดวงจิตเป็นดังบุพเพสันนิวาส ที่นำพาดวงใจสองดวงให้มาบรรจบกัน ดุจดั่งความรักของ "เกศสุรางค์" นักโบราณคดีสาวร่างอ้วนวัย 25 ปี ที่มีหน้าตาสุดแสนธรรมดา ทว่าเธอเป็นคนมีนิสัยร่าเริงแจ่มใส มองโลกในแง่ดี และมีความรู้ด้านโบราณคดี และภาษาฝรั่งเศสเป็นอย่างดี เธอจึงเป็นที่รักของคนใกล้ชิด แต่ผู้ที่เกศสุรางค์อยากได้รับความรักจากเขามากที่สุดก็คือ เรืองฤทธิ์ เพื่อนสนิทที่คบกันมานานหลายปี แต่เพราะคิดว่าเรืองฤทธิ์คงไม่สนใจคนหน้าตาธรรมดา ๆ แถมยังอ้วนจนหน้าเกลียด เกศสุรางค์จึงต้องเก็บงำความรักที่มีต่อเขาเรื่อยมา เพื่อรอคอยวันที่เธอจะกล้าเผยความในใจกับเขาโดยที่ไม่รู้เลยว่าวันนั้นจะมาไม่ถึง เพราะวันหนึ่งขณะที่เกศสุรางค์และเรืองฤทธิ์เดินทางกลับจากไปทำงานที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา รถตู้เกิดอุบัติเหตุพลิกคว่ำ ยังผลให้เกศสุรางค์เสียชีวิตคาที่! แล้วบุพเพสันนิวาส ก็นำพาให้ดวงวิญญาณของเกศสุรางค์ ย้อนเวลามาสองร้อยกว่าปี มาอยู่ในยุคของสมเด็จพระนารายณ์มหาราช ในร่างของแม่หญิงการะเกิด ผู้มีความงามเป็นเลิศ แต่ก็มีความร้ายกาจ ที่ทำให้เป็นที่เกลียดชังของผู้คนทั้งเรือน โดยเฉพาะลูกชายเจ้าของเรือนหมื่นสุนทรเทวา
 
2. ป่วนรักสลับร่าง รอมแพง
เมื่อหญิงชายที่นิสัยต่างกันสุดขั้วต้องมาพบกับเหตุการณ์ไม่คาดฝันที่ทำให้ทั้งสองต้องสลับร่างกัน ความโกลาหลก็บังเกิดในบัดดล เมื่อ "นิลกานต์" สาวเซอร์สุดแสบ ติดดิน ขี้งก สกปรก (ในบางครั้ง) อีกทั้งขี้โม้และปากดีเป็นที่หนึ่ง ต้องมาเปลี่ยนร่างกันกับชายหนุ่มรูปงาม นั่นก็คือ... "ภาสกร" ผู้เนี้ยบตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้า ทั้งถือตัว สะอาดเอี่ยม เงียบขรึม วางท่าเป็นยอดชายไร้เทียมทาน ด้วยความต่างกันสุดกู่ จะสร้างความหายนะใดให้เกิดขึ้น แค่คิด..ก็มันส์แล้ว!
 
3. พรายพรหม
"พิมพ์ลดา" ต้องทนทุกข์ทรมานจากการแต่งงานกับ "ปรเมศวร์" และต้องเข้าโรงพยาบาลด้วยอาการร่อแร่ใกล้สิ้นใจด้วยการทำร้ายของสามี และเมื่อรู้สึกตัวอีกครั้ง เธอก็พบว่าตัวเธอได้กลับไปยังชาติก่อน ที่เธอได้ก่อกงเกวียนกำเกวียนเป็นบ่วงผูกพันความแค้นและความพยาบาทให้ใครหลายคน พิมพ์ลดา...จะแก้ไขความผิดทั้งหมดให้ถูกต้อง แต่เมื่อเธอต้องเผชิญกับความรักหลายเส้า แล้วจะมีหนทางใดตัดบ่วงแห่งรักที่จะก่อให้เกิดเรื่องร้ายๆ นั่นได้นะ? เอาใจช่วยเธอพร้อมกันได้แล้วใน "พรายพรหม" เล่มนี้
 
4. ปักษานาคา
เพราะความขัดแย้งของพี่น้องสองสาวที่มีสวามีองค์เดียวกัน ต่างคอยจะแก่งแย่งชิงดีเพื่อให้เป็นที่รักของสวามี จนแต่ผลร้ายกลับมาตกอยู่กับลูก ~ลูกของนาง ความขัดแย้งแปรเป็นความเคียดแค้น อาฆาตระหว่างเทพสุบรรณ พญาครุฑผู้ยิ่งยง และ เทพนาคา ผู้เป็นใหญ่เหนือมวลนาค แต่ละครั้งที่ทั้งสองฝ่ายเปิดฉากปะทะกัน สรรพชีวิตในป่าหิมพานต์ต่างล้วนแต่ได้รับความทุกข์โทมนัส จนพระอินทร์และเทพพระจันทร์ซึ่งเปรียบไปก็เหมือนเป็นต้นเหตุแห่งความบาดหมางนี้ ต้องยื่นมือเข้ามายุ่งเกี่ยว หวังจะจัดการเรื่องราวให้จบลงด้วยดี ....
เทพพระจันทร์เชื่อว่า ทุกสิ่งจะลุล่วงได้ด้วย ..ความรัก... จึงบันดาลให้เทพสุบรรณพบรักกับนางนาคน้อย กุณฑลา จนเกิดสัมพันธ์ลึกซึ้งชั่วข้ามคืน แต่กลับกลายเป็นความวุ่นวายทั่วทั้งป่าหิมพานต์และสวรรค์ชั้นฟ้าเป็นเวลาหลายร้อยปีทีเดียว หากความเชื่อของเทพพระจันทร์ก็ยังคงถูกต้องเสมอ เพราะไม่มีสิ่งใดที่จะคลี่คลายแก้ไขเรื่องราวต่าง~ต่าง แปรเปลี่ยนเรื่องร้ายให้กลายเป็นดีไปได้ นอกเสียจาก "ความรัก" ....
 
5. ดาวเกี้ยวเดือน
"ประกายดาว" ช่างภาพเป็นสาวโสดที่มีอายุ 32 ปี ที่มีความเป็นตัวของตัวเองสูงมาก และเคยมีคนรักมาหลายคนแต่ไม่เคยประสบความสำเร็จในด้านความรักเลย เมื่อถึงวันเกิดได้ไปทำบุญบ้านเด็กกำพร้าและได้เจอ "ศิวะ" แฟนเก่าที่พยายามมาก้อร่อก้อติก จนกลายเป็นข่าวดัง ประกายดาวจึงย้ายไปอยู่กับพี่ชาย ด้วยความเซ็ง เมื่อได้เล่นกับหลานและเริ่มคิดถึงชีวิตที่มีลูกมาเป็นเพื่อนจึงมีความคิดที่อยากจะมีลูกก่อนอายุ 35 ปี เพราะถ้ามีหลังนั้นอาจจะทำให้ลูกผิดปกติได้ เธอจึงวางแผนที่จะหาพ่อพันธุ์และได้ล็อกเป้าหมายไว้สองคนคือ "หม่อมราชวงศ์จันทรภานุ" กับ "พงศ์จันทร" ซึ่งเป็นนักธุรกิจหนุ่มหล่อรวยทั้งคู่ ประกายดาวไปเจอกับหม่อมราชวงศ์จันทรภานุในงานแฟชั่น และหมายมั่นที่จะเป็นเพื่อนกับคุณชายจันทร์ให้ได้เพื่อจะได้ขอในสิ่งที่ต้องการ โดยไม่ต้องการสัมพันธ์ทางกาย เพราะหม่อมราชวงศ์จันทรภานุเป็นคนดัง รวยและมีอิทธพลมากเหมือนซูเปอร์สตาร์คนหนึ่ง
เธอต้องวางแผนสร้างความประทับใจเพื่อให้สนิทสนม และประกายดาวก็ได้ดังใจนึกรวมทั้งเกินจะนึกฝันด้วย นอกจากนี้ประกายดาวได้มีโอกาสรู้จักเป้าหมายที่สองคือ พงศ์จันทรด้วยความบังเอิญ และได้สานต่อความสัมพันธ์พอสมควรก่อนที่จะขึ้นเชียงใหม่ไปเพื่อทำตามแผนตีสนิทคุณชายจันทร์ หม่อมราชวงศ์จันทรภานุเป็นยิ่งกว่าที่ประกายดาวหวังไว้ เมื่อได้ไปเจอกันที่เชียงใหม่ได้คุยได้ไปเที่ยว ด้วยกันหลายที่ หม่อมราชวงศ์จันทรภานุชอบประกายดาวมากและมอบสร้อยเพชรรูปดาวให้เข้าชุดกับสร้อยที่ประกายดาวมี แต่แผนการกลับไม่ราบรื่นเมื่อประกายดาวบังเอิญมาเจอแฟนเก่าสามคนพร้อมๆ กันกับเป้าหมายที่ 2 ที่มาประชุมงานที่เชียงใหม่ เรื่องราวต่างๆ ดูผิดแผนและวุ่นวายไปหมด แล้วอย่างนี้เธอจะมีลูกก่อนอายุ 35 ปีได้ไหมนี่...
 
6. พรายพยากรณ์
"พิณชนิดา" หมอดูสาวผู้มีความแม่นยำประดุจตาเห็นและ "ภิชาสินี" น้องสาวผู้มีสัมผัสที่หกพร้อมด้วยสัตว์เลี้ยงแสนรัก "ปิ่นมณี" ราชินีตุ๊กแก ใช้ชีวิตอยู่ในคอนโดมิเนียมหรูเพียงสามสาว แต่ต่อมาพิณชนิดากลับดูดวงพบว่าเนื้อคู่ของตนซึ่งไม่เคยพบหน้ากำลังมีภัย มิหนำซ้ำยังรู้ถึงทิศทางในการไปหาเนื้อคู่จนพบว่าเนื้อคู่ตนคือ "ภูมินทร์" นักธุรกิจหนุ่มกำพร้า ในที่สุดก็ต้องดิ้นรนไปช่วยเหลือพร้อมทั้งต้องยกโขยงกันไปช่วยคุ้มครองถึงที่ ทั้งที่รับรู้ว่าภูมินทร์มีคู่หมั้นอยู่แล้วนั่นคือ "เปรมสุดา" แต่พิณชนิดาก็ไม่หวั่นเพราะมั่นใจในฝีมือการดูดวงของตนมากว่าไม่มีวันพลาด...ภูมินทร์จะเอาตัวรอดจากเคราะห์ร้ายและพิณชนิดาได้หรือไม่ ติดตามพร้อมกันในเล่ม
 
7. คีตโลกา
เมื่อคนเรามีความสมบูรณ์พร้อมไปเสียทุกสิ่ง ต้องมาพบเจอกับความผิดหวังที่แสนสาหัสเป็นครั้งแรกในชีวิต คงมีสักวูบหนึ่งที่คิดจะจบชีวิตลงอย่างคนหนีปัญหา โดยไม่ได้รับรู้เลยว่า บางทีความทุกข์ของตนนั้นแค่เล็กน้อยเท่านั้น ยังมีผู้คนอีกมากที่ต้องพบเจอกับความทุกข์และผิดหวังมากกว่า ดังเช่น 'อัญมา' คุณหนูแสนสวยที่เพียบพร้อมไปทุกด้าน พอได้เจอกับความผิดหวังจึงได้คิดสั้นไปวูบหนึ่ง เมื่อคิดล้มเลิกกลับเกิดอุบัติเหตุที่นำพาเธอไปยังอีกโลก โลกที่ตรงกันข้ามกับโลกที่เธอเคยอยู่โดยสิ้นเชิง คุณหนูอัญมาแสนไฮโซต้องกลายเป็น 'ไอ้อัญ' เด็กติดยาที่อาศัยอยู่ในสลัม แล้วเธอจะตัดสินใจอย่างไรต่อไปกับชีวิตใหม่เอี่ยมอ่องที่บุบบู้บี้นี้ดีล่ะ? ติดตามหาคำตอบได้ในเล่มเลย
 
8. โภคีธรา
โภคีธรา...ดินแดนแห่งนาคา มีต้นน้ำสายหนึ่งซึ่งได้ชื่อว่าเป็นต้นกำเนิดแห่งนาคาทั้งปวง แต่มิว่าผู้ใดก็มิเคยพบพาน
พบกับเรื่องราวของ 'มุกมณี' สาวในยุคปัจจุบันที่ได้ไปเกิดใหม่เป็นถึง 'เทพตานีทอง' แห่งแดนหิมพานต์ กับภารกิจตามหาต้นน้ำโภคีธราเพื่อช่วยเหลือน้องสาวในโลกมนุษย์ ทำให้เทพสาวมือใหม่ที่ยังไม่คุ้นกับการมีอิทธิฤทธิ์ต้องออกผจญภัยในดินแดนที่มากไปด้วยภยันตรายต่างๆ แต่โชคดีที่มี 'เจ้าแม่ตะเคียนทอง' และ 'วิญญาณทหารเลวแห่งอโยธยา' เป็นพี่เลี้ยงร่วมเดินทางไปด้วยกัน แต่อุบัติเหตุระหว่างทางทำให้มุกมณีเผลอฉุดชายหนุ่มรูปงามติดมือมาร่วมขบวนเดินทางด้วย พร้อมกับตั้งฉายาให้ว่า "คนหน้าหิน" แต่ชายหนุ่มที่ดูเย็นชาผู้นี้กลับมีประวัติความเป็นมาที่ไม่ธรรมดา เรื่องราวต่อจากนี้จะสนุกสนาน เฮฮา และยุ่งเหยิงขนาดไหน ติดตามอ่านกันได้ในเล่มเลย
 
9. มณีรัตนะ
หลังจาก "พีรกานต์" รอดชีวิตจากการจมน้ำ ทุกสิ่งในชีวิตของเธอก็แปลกไป ทุกครั้งที่เธอหลับก็จะรับรู้เรื่องราวความเป็นไปของเด็กหญิงที่ชื่อ "นวล" ลูกสาวคนเล็กของ "พระยาศรีภูริยะปรีชา" ซึ่งดำเนินชีวิตอยู่ในสมัยรัชกาลที่ 5 ในขณะที่นวลเอง ก็สามารถรับรู้เรื่องราวและความทรงจำต่างๆ ของพีรกานต์ได้เช่นกันหลังจากที่เธอรอดชีวิตจากการจมน้ำ ทว่า...ความที่เป็นเด็กน้อยแสนซุกซนมาก่อน นวลจึงถูกส่งตัวเข้าวังเพื่อเรียนรู้การเป็นหญิงสาวที่เพียบพร้อมด้วยกิริยา มารยาท และวิชาความรู้ในด้านการเรือน แล้วนวลที่มีความทรงจำของหญิงสาวในยุคปัจจุบันจะสามารถเอาตัวรอดกฎระเบียบที่เข้มงวดและเรียนรู้การเป็นสาวชาววังได้หรือไม่ เหตุใดพีรกานต์และนวลจึงสามารถรับรู้และมีความทรงจำร่วมกันได้ ติดตามพร้อมกันได้แล้วใน "มณีรัตนะ" เล่มนี้
 
10. เรือนพะยอม
"รสิกา" สาวงามเมืองกรุงเจอมรสุมชีวิตคือพ่อเลี้ยงที่คิดลามก จึงจำใจต้องไปทำงานต่างจังหวัด ด้วยการไปดูแลหลานสาวของ "วฤกษ์"
... "หนูมิว" เป็นเด็กกำพร้าเพราะพ่อแม่ซึ่งเป็นน้องของ "วฤกษ์" ได้เสียชีวิตไปเพราะอุบัติเหตุ รสิกาจำต้องเดินทางก่อนกำหนดเพื่อหลีกเลี่ยงการพบเจอพ่อเลี้ยง เมื่อมาถึงเรือนพะยอม ซึ่งมีบ้านเรือนไทยโบราณกับบ้านที่เป็นตึกใหญ่ รสิกาก็รู้สึกแปลกๆ ราวกับว่าเคยเห็นภาพของบ้านเรือนไทยหลังนี้มาก่อน คืนแรกที่รสิกามาอยู่ในเรือนพะยอมก็ฝันเห็นผู้หญิงคนหนึ่งในชุดโบราณที่หน้าซีดน่ากลัว ทำให้ตกใจตื่นกลางดึก ยืนที่ระเบียงจนวฤกษ์มาพบ และคืนต่อมาก็เจอวิญญาณจนต้องวิ่งหนีออกมาและได้เกิดเรื่องราวต่างๆ ขึ้นมากมาย
เกือบทุกคืนรสิกาจะฝันถึงเรื่องราวเก่าๆ และจบท้ายที่ผู้หญิงชุดโบราณที่หน้าซีดยื่นมือมาด้วยทุกครั้ง หลายครั้งเข้าคืนหนึ่งเมื่อตื่นก็ได้ยินเสียงลากของซ้ำ ๆ จนเกิดความกล้าเดินออกไปสำรวจก็ไม่พบอะไร ตลอดเวลาที่เรื่องราวผ่านไป รสิกาฝันเรื่องเก่าโบราณต่อเนื่องตามลำดับ จนต้องเอามาปรึกษากับวฤกษ์ และ "ป้าปาริชาติ" ป้าปาริชาติเอะใจว่าเรื่องราวที่รสิกาฝันคล้ายเรื่องราวยุคคุณปู่ของเธอ คือแม่พะยอมคู่รักซึ่งเป็นญาติห่าง ๆ ของ "คุณพฤกษ์" พี่ชายของคุณปู่ของเธอ "คุณย่ามะลิ" กับป้าปาริชาติเล่าให้ฟังว่าแม่พะยอมกระโดดน้ำตายในบ่อน้ำหลังเรือนพะยอม เมื่อรสิกาได้ทราบเรื่องก็คิดว่าผู้หญิงในฝันคงต้องการจะบอกอะไรบางอย่างกับเธอ...
 
...อดีตชาตินำพาให้เธอมาเจอเขาหรือความตายจะเป็นจุดเริ่มต้นของความรักที่กลับคืนมา...

222

 
การท่องเที่ยว ซึ่งก็คือการเดินทางเพื่อพักผ่อนหย่อนใจหรือเพื่อความสนุกสนานตื่นเต้นหรือเพื่อหาความรู้ องค์กรการท่องเที่ยวขององค์การสหประชาชาติ (World Tourism Organization) กำหนดไว้ว่า การท่องเที่ยวหมายความว่าการเดินทาง โดยระยะทางมากกว่า 40 กม.จากบ้าน เพื่อจุดหมายในการพักผ่อนหย่อนใจ
 
คู่มือท่องเที่ยว เป็นยังไง
 
คู่มือท่องเที่ยวจะช่วยทำให้คุณสามารถค้นพบทำการค้นพบกิจกรรมที่ดีที่สุดในการเดินทางไปยังเป้าหมายต่างๆ รอบโลกได้ คู่มือท่องเที่ยวจะให้คำปรึกษา แนวคิด ข้อมูลภูมิหลังรวมถึงความเห็นของเขตแดนที่จะช่วยทำให้คุณสามารถคิดแผนทริปที่เยี่ยมที่สุดของคุณได้
 

 
แนะนำ 10 หนังสือท่องเที่ยว โดยร้านหนังสือนายอินทร์
 
1. เที่ยว - เฮ - เปย์ - กิน สิงคโปร์ SINGAPORE
รวมสถานที่เที่ยวทั่ว "สิงคโปร์" คัดเฉพาะที่น่าสนใจ ไม่ว่าจะเป็น Merlion, Gardens by the Bay, Marina Bay Sands, Fountain of Wealth, Esplanade, Helix Bridge, Universal Studios Singapore, Clarke Quay, Bugis, Little India,Orchard, Chinatown, Geylang, Novena, Tiong Bahru,Harbour Front, Sentosa, Jurong, Queenstown, Pulau Ubin รวมไปถึงร้านอาหารที่คัดสรรมาเสิร์ฟชนิดที่ทานแล้วต้องบอกต่อกันเลย มีเกร็ดน้อยที่ทำให้การเดินทางราบรื่นขึ้น และจุดน่าถ่ายภาพลงโซเซียลมุมมองใหม่ๆ ที่ซ่อนอยู่ในหนังสือเล่มนี้ด้วย
หลายๆ คนที่ชอบท่องเที่ยวมักเริ่มเดินทางจากประเทศใกล้ๆ บ้านเราก่อน และสิงคโปร์เป็นตัวเลือกแรกๆ ที่ได้รับความนิยม ด้วยความสะดวกในการเดินทางเพียงสองชั่วโมงนิดๆ ไม่ต้องใช้วีซ่า มีที่เที่ยวมากมาย ถ่ายรูปก็สวย อากาศก็ดี การเดินทางในประเทศก็สะดวก เหมาะกับการจัดทริปสั้นๆ จะลุยดื่ม มากับคู่หู เที่ยวกันเป็นแก๊งค์ หรือมากับครอบครัวก็เป็นอีกทางเลือกที่แนะนำค่ะ หนังสือ "เที่ยว-เฮ-เปย์-กิน สิงคโปร์" เล่มนี้รวมสถานที่เที่ยวทั่วสิงคโปร์ คัดเฉพาะที่น่าสนใจ รวมไปถึงร้านอาหารที่คัดสรรมาเสิร์ฟชนิดที่ทานแล้วต้องบอกต่อกัน มีเกร็ดเล็กเกร็ดน้อยที่ทำให้การเดินทางราบรื่นขึ้น และเดินทางอย่างปลอดภัย
บางครั้งจุดหมายปลายทางอาจไม่สำคัญเท่าระหว่างทาง จะไกลหรือใกล้ถ้าได้เก็บเกี่ยวเรื่องราวดีๆ ระหว่างการเดินทางมันก็คุ้มค่าแล้ว คราวนี้เราจะพาไปเที่ยวที่ประเทศสิงคโปร์ เมืองที่เดินทางเพียงสองชั่วโมงกว่าๆ ที่นี่เป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เป็นเมืองที่ขึ้นชื่อว่าเดินทางง่ายที่สุด เหมาะสำหรับคนที่เริ่มออกเดินทางนอกประเทศเป็นครั้งแรก
เมืองนี้ออกจะวาไรตี้หน่อยๆ เพราะเป็นการรวมคนเชื้อชาติต่างๆ ทั้งอินเดีย, คนจีน ชาวเปอรานากัน มาอยู่รวมกันได้อย่างสันติ จะเห็นวัดจีน มัสยิด เทวสถาน โบสถ์คริสต์ และซิกข์อยู่ตลอดทริป มีการแบ่งย่านที่อยู่อาศัยตามกลุ่มเชื้อชาติ อย่างไชน่าทาวน์ก็เป็นย่านคนจีน ลิตเติลอินเดียก็เป็นย่านคนอินเดีย ผลพลอยได้ก็คืออาหารอร่อยๆ รสต้นตำรับจากแต่ละชาติที่หาทานได้ง่ายด้วย
แลนด์มาร์กเด่นๆ ของสิงคโปร์ที่พลาดไม่ได้ กระจุกอยู่ในตัวเมือง ก็คือ สิงโตพ่นน้ำ Merlion, สวน Gardens by the Bay และน้ำพุ Fountain of Wealth ที่ตึก Suntec City ถ้ามีเวลาเหลือก็เก็บเกี่ยวที่เที่ยวอื่นๆ ได้ ถ้าใครมาหลายครั้งแล้วแนะนำที่เที่ยวใหม่ๆ ไกลออกไปหน่อย จะปั่นจักรยานที่ Pulau Ubin ก็วิวสวยไม่น้อย เข้าสวนสัตว์ที่จัดแสดงอย่างมีมาตรฐานก็ดี หรือไปสวนสนุก Universal Studios Singapore ก็เป็นอีกที่ที่ไม่น่าพลาด!! หนังสือ "เที่ยว-เฮ-เปย์-กิน สิงคโปร์" เล่มนี้รวมสถานที่เที่ยวทั่วสิงคโปร์ สุขใจทั้งขาไปและขากลับกับ DPlus
 
2. RUSSIA มอสโก เซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก และทรานส์ไซบีเรีย
คู่มือท่องเที่ยวมอสโก เซนต์ปีเตอร์สเบิร์กและทางรถไฟสายทรานส์ไซบีเรีย ไฮไลต์คือที่เที่ยวในมอสโกและเซนต์ปีเตอร์สเบิร์กแบบครอบคลุม เข้าใจเมืองประวัติศาสตร์และชีพจรของเมือง เป็นสองเมืองสองมหานครที่ใครไปรัสเซียก็ต้องปักหมุดแวะที่นี้ จะมากน้อยกี่วันก็ต้องแวะไป รถไฟสายทรานส์ไซบีเรียเส้นทางดั้งเดิมคือมอสโก - วลาดิวอสตอก ที่นักเดินทางสายโรแมนติกใฝ่ฝันว่าจะได้ไปสักครั้งหนึ่ง เปิดเมืองน่าแวะบนเส้นทางรถไฟสายนี้อันได้แก่ คาซาน เยคาเตอริงเบิร์ก อีรคุสต์ และทะเวลสาบไบคาล
เราอยู่ในยุคที่การเดินทางกลายเป็นส่วนสำคัญในชีวิตมากขึ้นเรื่อยๆ ผู้คนจำนวนมากออกเดินทางด้วยเป้าหมายที่แตกต่าง และกลับมาพร้อมกับเรื่องราวหลากหลายที่ได้พบเจอ คู่มือท่องเที่ยวชุด KTC guidezine x wongklom journey เกิดขึ้นบนความเชื่อที่ว่า ทุกคนควรมีอิสระที่จะเลือกวางแผนการเดินทางท่องเที่ยวในแบบที่ตอบโจทย์ของตนเอง ทางกองบรรณาธิการจึงได้ออกเดินทางไปเก็บข้อมูลแบบ on site เพื่อคัดสรรแง่มุมแปลกใหม่หลากหลายของน่าชิม และร้านน่าชอปไว้อย่างครบถ้วน เพียงพอที่จะทำให้นักเดินทางในแบบฉบับของตัวเอง นอกจากคำแนะนำและแผนที่ เรายังแทรกเกร็ดน่ารู้และเรื่องอ่านเล่นสไตล์แมกกาซีนเกี่ยวกับแนวคิดเบื้องหลังต่างๆ เพื่อให้คุณได้ดื่มด่ำกับการเดินทางอย่างเต็มที่อีกด้วย เราหวังว่าหนังสือชุด KTC guidezine x wongklom journey จะกระตุ้นต่อมอยากเดินทาง และช่วยให้คุณเก็บเกี่ยวความทรงจำทรงคุณค่าจากการออกเดินทางแต่ละครั้งได้อย่างคุ้มค่าที่สุด
 
3. BUSAN อยู่นานๆ ได้ไหม
ปูซาน เป็นเมืองที่อายธรรมเก่าแก่ยังฝากร่องรอยเอาไว้บนก้อนอิฐ ขณะเดียวกันก็กำลังเติบโตในฐานะเมืองเศรษฐกิจสำคัญ โดยเฉพาะในอุตสหกรรมหนังที่ทำให้ปูซานเต็มไปด้วยย่านกินดื่มที่อวดคาแรกเตอร์กันผ่านหน้าตาของร้านและเมนูอาหาร ทั้งยังอุดมไปด้วยวิธีการกินอยู่แบบเก่าที่ดำเนินคู่กันไปในวัฒนธรรมใหม่ไม่รวมถึงพิกัดที่ตั้ง ที่พาให้เราได้เอาตัวไปสัมผัสกับธรรมชาติอย่างง่ายดาย ด้วยระบบขนส่งมวลชนที่สะดวกต่อการเดินทาง ไกด์บุ๊กของสองพี่น้องเจริญชัยชนะ ที่อยู่ในมือคุณเล่มนี้ไม่เพียงแต่จะทำให้การเดินทางสู่ปูซานในครั้งแรกของคุณเป็นเรื่องแสนง่าย แต่ยังมีอะไรที่แอบ "หยอด" ให้เห็นความน่าค้นหาของสถานที่นั้นๆ ผ่านสายตาของคนที่หลงรักเมืองนี้เข้าอย่างจังแล้วยังกลับไปซ้ำแล้วซ้ำอีก แต่ก็อย่างที่เธอบอกเอาไว้ ว่าที่สุดแล้วทุกการเดินทางของแต่ละคนย่อมมีเรื่องราวและมุมมองให้ประสบพบเจอต่างกันอยู่ที่ว่าเราจะค้นพบปูซานในเวอร์ชั่นของตัวเองแบบไหน กางไกด์บุ๊ก " BUSAN อยู่นานๆ ได้ไหม" เล่มนี้ไว้เป็นเพื่อนเที่ยวปูซาน ที่เหลือก็ให้ "destiny" นำทางไป
สัมผัสปูซานอย่างละเอียดทุกซอกมุม กับสองสาวพี่น้องที่หลงรักเมืองนี้จนถอนตัวไม่ขึ้น สีสันและความสดของอาหารทะเลในตลาดจากัลชิ ตลาดอาหารทะเลที่ใหญ่ที่สุดในเกาหลีใต้ ช็อป ชิม กิน ดื่ม เก๋ๆ ในย่านซอมยอน ขอพรที่ "วัดแฮดงยงกุงซา บนหน้าผาริมทะเลที่ดอกซากุระบานสะพรั่งทั่วทั้งวัด "พอมอซา" วัดกลางหุบเขาอายุกว่าพันปี ที่สวยที่สุดในฤดูใบไม้เปลี่ยนสี เดินเล่นใน "กัมซอน คัลเจอร์ วิลเลจ" หมู่บ้านศิลปินและเจ้าชายน้อยบนมาชูปิกซูแห่งปูซาน กินข้างทางแบบเกาหลีสไตล์ ในมอกจาโกลมก เดินทั่วปูซานที่เกาหลีใต้ เมืองที่งดงามไปด้วยธรรมชาติและวัฒนธรรม ทะเล ภูเขา วัดเก่า ร้านอาหาร ภาพยนตร์ ดนตรี ในเมืองหลายมิติแห่งนี้เวลาเท่าไรก็ยังไม่พอ จนต้องขออยู่ปู ซานนานๆ กว่านี้ได้ไหม ใน "BUSAN อยู่นานๆ ได้ไหม"
 
4. โตเกียวใครๆก็เที่ยวได้ Edition 3 : Tokyo & Around
คู่มือนักเดินทางฉบับพกพา ที่ให้ข้อมูลทันสมัยล่าสุดเท่าที่จะเป็นไปได้ในการท่องเที่ยว "กรุงโตเกียว" โดยได้รวบรวมทั้งสถานที่สำคัญที่เป็นแลนด์มาร์กหลักๆ และเพิ่มสถานที่ท่องเที่ยวใหม่ๆ เข้าไปอีกมาก ทั้งที่กิน ที่เที่ยว ที่ช้อป ที่พัก ฯลฯ ภายในเล่มประกอบด้วยรูปภาพสวยงาม และข้อมูลควรรู้สำหรับการวางแผนเที่ยว เป็นคู่มือการเดินทางที่เจาะลึกให้ทุกคนได้เห็นโตเกียวในมุมมองของผู้อาศัย ในแบบของคนที่สนุกกับชีวิตที่นี่ ไม่ใช่แค่ในแบบของนักท่องเที่ยวที่ผ่านมาแล้วก็ผ่านไป
"โตเกียว ใครๆ ก็เที่ยวได้ Edition 3" มีการปรับปรุงมาจากเล่ม Edition 2 นอกจากจะแก้ไขและอัพเดทข้อมูลสถานที่ท่องเที่ยวและร้านอาหารแล้ว ยังเพิ่มเติมที่เที่ยวและร้านใหม่ๆ สำหรับขาช้อปก็ยังมีแผนที่ในย่านช้อปปิ้งแยกให้ด้วย เท่านี้ยังไม่พอ ยังเพิ่มเนื้อหาใหม่ๆ ให้ไปถึงนอกเมือง เช่น Gunma, Ibaraki เรียกว่าครบกว่านี้ไม่มีอีกแล้ว เล่มเดียวเที่ยวได้ทั้งโตเกียวและรอบๆ กันเลยทีเดียว!
เนื้อหาทั้งหมดในหนังสือเล่มนี้ เขียนขึ้นจากประสบการณ์ตรงของผู้เขียนที่อาศัยอยู่ประเทศญี่ปุ่นมาเป็นเวลา 15 ปี และจากการเดินทางทั่วประเทศญี่ปุ่นครบทุกภูมิภาคและทุกจังหวัดจึงมั่นใจได้ว่าเป็นข้อมูลจริง
 
5. เที่ยวนิวยอร์ก New York และเมืองรอบๆ
ตะลุยมหานครที่เป็นศูนย์รวมของทุกสิ่งจนได้ฉายาว่า "Big Apple" (แอปเปิ้ลใหญ่) ทั้งในเกาะแมนแฮตตัน และรอบๆ โดยคนไทยที่ไปใช้ชีวิตอยู่ที่นั่นจริงๆ นานนับปี ไม่ว่าจะเป็น กลางกรุงที่ Central Park, ชมพิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์ธรรมชาติชื่อดังเดินเล่นเพลินๆ ย่านธุรกิจที่ Wall Street, เที่ยวชมสีสันยามคํ่าคืนที่ย่าน Times Square ล่องเรือไปชมอนุสาวรีย์เทพีเสรีภาพ Statue of Liberty และอื่น ๆ อีกมากมาย พร้อมแนะนําร้านอาหารน่าลองหลากหลายสัญชาติทานได้แบบไม่เบื่อ โดยมีแผนที่ และข้อมูลต่าง ๆ ของแต่ละสถานที่อย่างละเอียด ให้คุณสามารถใช้เป็นคู่มือเดินทางท่องเที่ยวได้อย่างมั่นใจ
 
6. เที่ยวลอนดอน London และเมืองรอบๆ
"ลอนดอน" เป็นเมืองที่ "ต้องสัมผัส" ด้วยตัวเอง แล้วจะ "ต้องมนต์" ไปกับมหานคร ซึ่งได้รับการกล่าวขานว่าเป็นเมืองที่เต็มไปด้วยจินตนาการอันแสนงดงาม มีแลนด์มาร์คที่โด่งดังให้จดจำมากมาย ดื่มด่ำความโรแมนติกของวิวสวยริมสองฝั่งแม่น้ำเทมส์ เติมอาหารสมองด้วยการเรียนรู้ไปในพิพิธภัณฑ์ที่เปิดให้เข้าชมฟรีทั่วกรุง และลิ้มลองการใช้ชีวิตแบบ "ลอนดอนเนอร์" ที่จะทำให้คุณได้รับประสบการณ์ใหม่ๆ หนังสือเล่มนี้จะพาคุณสำรวจลอนดอน ตามเส้นทางที่ครอบคลุม 20 เขต พร้อมแผนที่การเดินชมเมืองแบบง่ายๆ โดยมีคำอธิบายสถานที่แบบพาไปชมถึงด้านใน นอกจากนี้ยังมีเส้นทางพิเศษสำหรับแฟนคลับทุกสาขา และทริปวันเดียวเที่ยวนอกกรุงที่จะพาไปเปลี่ยนบรรยากาศชมสิ่งน่าสนใจรอบลอนดอนกันด้วย
หนังสือเล่มนี้จะจุดประกายความฝันให้ใครสักคนได้กล้าพอที่จะออกเดินทางท่องโลกกันสักครั้ง
 
7. เที่ยวนิวซีแลนด์ New Zealand ดินแดนธรรมชาติมหัศจรรย์ สวรรค์ซีกโลกใต้
ถ้าคุณมองหาประเทศที่มีแลนด์สเคปสวยๆ มีธรรมชาติอันงดงาม และยังคงความบริสุทธิ์ดั้งเดิมไว้ได้ ท่ามกลางความทันสมัยในชีวิตความเป็นอยู่ของผู้คน พร้อมความสะดวกสบายและความปลอดภัยในการเดินทางท่องเที่ยวแล้วล่ะก็ นิวซีแลนด์จะเป็นหนึ่งในประเทศที่คุณไม่ควรพลาด หนังสือเล่มนี้จะพาคุณไปเที่ยว "นิวซีแลนด์" อย่างจุใจ จากเกาะเหนือ จรดเกาะใต้ ไม่ว่าจะเป็น เกาะเหนือ อาทิ Auckland, Northland, Hamilton, Taupo, Rotorua, Tongariro และ Wellington หรือ เกาะใต้ อาทิ Cristchirch, Marlborough, Tasman, Westcoast, Queenstown, Dunedin, Southland และ Steward island อันแน่นด้วยข้อมูลน่ารู้เกี่ยวกับสถานที่เที่ยวต่างๆ มากมาย ให้คุณใช้เป็นคู่มือเดินทางท่องเที่ยวได้อย่างมั่นใจ
ลุยเที่ยวนิวซีแลนนด์ทั้งประเทศ จากเกาะเหนือ จรดเกาะใต้
 
8. Netherlands เที่ยวเนเธอร์แลนด์ แดนกังหันลม ชมทุ่งทิวลิป
ประเทศเนเธอร์แลนด์ตั้งอยู่ในทวีปยุโรป ทิศตะวันออปและทิศเหนือเป็นทะเลเหนือ ส่วนทิศใต้ติดกับเบลเยี่ยมและตะวันตกติดกับเยอรมนี มีพื้นที่ราว 41,543 ตร.กม (ใหญ่กว่าภาคตะวันออกของไทยไม่มาก) โดยมีเมืองใหญ่ที่เป็นศูนย์กลางของประเทศอยู่ทางภาคตะวันตกคือ Amsterdam หรือกรุงอัมสเตอร์ดัมซึ่งเป็นเมืองหลวงของประเทศ และ The Hague หรือกรุงเฮก เป็นเมืองศูนย์รวมที่ทำการของรัฐ และมีสถานเอกอัครราชทูตหลายประเทศ รวมถึงไทยเราตั้งอยู่ที่กรุงเฮกนี้เช่นกัน ไทยกับเนเธอร์แลนด์มีความสัมพันธ์ระหว่างกันอย่างแน่นแฟ้นตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยา ได้มีการส่งคณะทูตและติดต่อค้าขายทางเรือระหว่างกัน รวมถึงการเสด็จเยือนระหว่างประเทศของพระมหากษัตริย์และราชวงศ์เรื่อยมา
 
9. EBC48 เอเวอเรสต์เสี่ยงทาย
Everest Base Camp เป็นจุดเริ่มต้นของผู้ที่จะไปพิชิตยอดเขาที่สูงที่สุดในโลกในขณะเดียวกันก็เป็นจุดหมายปลายทางของหลาย ๆ คนที่ขอเพียงพาตัวเองเข้าใกล้ความยิ่งใหญ่สักครั้ง แม้ไม่ได้แตะจุดที่สูงที่สุด แต่ความอิ่มใจที่ได้พิชิตเป้าหมายนั้นไม่ต่างกัน บันทึกการเดินทางเล่มนี้ไม่เท่ ไม่โปร และเต็มไปด้วยความทุลักทุเลแต่อ่านและจะวางไม่ลง เพราะมีเรื่องให้เสี่ยงทาย และเซอร์ไพรส์ตลอดทุกย่างก้าว มาเอาใจช่วยนักเดินทาง ทั้ง 4 คน 8 ขา ให้ไปถึง EBC อย่างปลอดภัยด้วยเถิด
การผจญภัยบนเส้นทาง Trekking ในฝันของ 4 คน 8 ขา ประกอบด้วยสามหนุ่มฉกรรจ์และสาวตั้งครรภ์หนึ่งคน!
 
10. Spain เยือนถิ่นบอลดัง เมืองกระทิงดุ
"สเปน" เป็นประเทศที่ร่ำรวยไปด้วยวัฒนธรรมและสถานที่ท่องเที่ยวที่มีเอกลักษณ์ไม่เหมือนประเทศใดในยุโรป ด้วยความที่เคยตกอยู่ภายใต้การปกครองของชาวอารับยาวนานกว่า 600 ปี "Spain เยือนถิ่นบอลดัง เมืองกระทิงดุ" เล่มนี้ เป็นคู่มือนำเที่ยวสเปนที่จัดทำขึ้นมาในรูปแบบบันทึกการเดินทางผสมกับการเล่าเรื่อง โดยตั้งใจแทรกประวัติศาสตร์และความรู้ที่เกี่ยวข้องกับสถานที่นั้นๆ เอาไว้ การันตีว่าจะพาผู้อ่านทุกท่านเดินทางเที่ยวได้โดยไม่หลง แล้วยังจะได้รับความรู้และเกร็ดประวัติศาสตร์ที่เกี่ยวข้อง ช่วยเติมเต็มประสบการณ์การเดินทางให้สมบูรณ์แบบราวกับมีไกด์ส่วนตัวติดตามไปด้วย กับ 9 เมือง จากเหนือจรดใต้ บนดินแดนแห่งสองอารยธรรมเก่าแก่
 

223

 
วันนี้ เราได้รวบรวม 10 หนังสือน่าอ่าน มาเสนอสำหรับคนรักการอ่าน จะมีหนังสืออะไรบ้างนั้นไปดูกัน
 

 
10 หนังสือใหม่น่าอ่าน ในปี 2018 แนะนำโดยร้านหนังสือนายอินทร์
 
1. จิตวิทยาความฝัน DREAM PSYCHOLOGY
หนังสือ จิตวิทยาความฝัน หรือ Dream Psychology เล่มนี้ เขียนขึ้น ในปี ค.ศ. 1920 โดย ซิกมุนด์ ฟรอยด์ นักจิตวิทยาชาวออสเตรีย โดยเนื้อหา เป็นเรื่องของการวิเคราะห์ความฝัน อธิบายถึงกลไกการทำงาน และสาเหตุที่ทำให้เกิดฝัน ในยุคที่ผู้คนได้เริ่มรู้จักกับคำว่า "จิตใต้สำนึก" ยุคที่ยังไม่มีการรับรองว่าจิตใต้สำนึกนั้นมีจริงหรือไม่ เป็นวิทยาศาสตร์หรือไม่ ดังเช่นในยุคปัจจุบันนี้ Dream Psychology จึงถือได้ว่าเป็นตำราขั้นพื้นฐานของทฤษฎีจิตวิเคราะห์เล่มแรกๆ
ฟรอยด์เขียนหนังสือเล่มนี้ขึ้นมาเมื่อร้อยกว่าปีก่อน ในยุคที่ผู้คนเพิ่งจะรู้จักกับจิตใต้สำนึกใหม่ๆ และยังไม่มีการรับรองจิตใต้สำนึกว่ามีจริงหรือไม่และเป็นวิทยาศาสตร์ไหม เหมือนในสมัยนี้ ขณะที่เขียนนั้นฟรอยด์เองก็เพิ่งจะเริ่มมีชื่อเสียงแบบที่ยังไม่มีใครจะล่วงรู้ได้ว่าอีกร้อยปีต่อมาเขาจะได้รับการยกย่องให้เป็นหนึ่งในบุคคลสำคัญของโลกจากการคิดค้นหเรื่องจิตใต้สำนึกนี่เอง คำศัพท์จิตวิทยาบางคำที่เราใช้กันในปัจจุบันก็เพิ่งจะบัญญัติขึ้นมารในหนังสือเล่มนี้เป็นครั้งแรก ทฤษฎีของเขาก็ยังเป็นประเด็นถกเถึยงกันอยู่ ไม่ได้มีการรับรองนำมาใช้จริงอย่างในปัจจุบัน ทำให้ฟรอยด์ต้องพยายาม รวบรวมหลักฐานมาโต้แย้งและสนับสนุนอย่างเผ็ดร้อน ซึ่งจะทำให้นอกจากจะอ่านหนังสือที่ได้รับความรู้ด้านจิตวิเคราะห์และจิตวิทยาแล้ว ยังรู้สึกสดใหม่ เสมือนได้เข้าไปอยู่ร่วมยุคสมัยที่ยังมีประเด็นวิพากษ์นี้อย่างสนุกสนานด้วย แม้ว่าพวกเราซึ่งอยู่ในยุคปัจจุบันจะรู้ผลลัพธ์ของทฤษฎีและประเด็นอภิปรายดังกล่าวแล้วก็ตาม
ฟรอยด์ได้ชื่อว่าเป็นบิดาของ ทฤษฎีจิตวิเคราะห์ (Psycho-analysis) และได้รับการยกย่องให้เป็นหนึ่งในบุคคลสำคัญของโลกจากการคิดค้นเรื่องจิตใต้สำนึก ซึ่งถือว่าเป็นผู้บุกเบิกวิชาการแขนงใหม่ให้กับมนุษยชาติ และยังเป็นผู้ริเริ่มและจุดประกายให้ผู้คนสนใจเรื่องของจิตใต้สำนึกอย่างแพร่หลายอีกด้วย นอกจากนี้คำศัพท์ต่างๆ ที่เราใช้เกี่ยวกับจิตวิทยาในปัจจุบันนี้ เช่นคำว่า การเก็บกด จิตไร้สำนึก จิตสำนึก อีโก้ ซุปเปอร์อีโก้ แม้แต่ ลิบิโด ซึ่งใช้แทนคำว่า แรงขับทางเพศ ในภาษาอังกฤษที่มีการใช้กันอย่างแพร่หลายในปัจจุบันนี้ ล้วนแต่เป็นคำศัพท์ที่ซิกมุนด์ ฟรอยด์เป็นผู้บัญญัติขึ้นเป็นคนแรกทั้งสิ้น อีกทั้งชื่อของเขาเองยังถูกนำมาบัญญัติขึ้นเป็นศัพท์ใหม่อีกหลายคำ เช่น Freudian slip หรือการพลั้งปากพูด เป็นต้น
 
2. ลงทุนแมน 4.0
ประวัติศาสตร์ ปัจจุบัน และโลกอนาคต เป็นสิ่งที่เชื่อมโยงกัน ตั้งแต่มนุษย์เกิดขึ้นมาบนโลกนี้เมื่อ 200,000 ปีที่แล้วมนุษย์ก็ได้สร้าง และสะสมองค์ความรู้เรื่อยมา สิ่งนี้เรียกว่า "เทคโนโลยี" มนุษย์ที่เกิดขึ้นตอนนี้ มีความเป็นอยู่ที่สะดวงสบายกว่ามนุษย์ใน 100 ปีที่แล้ว และมนุษย์ 100 ปีข้างหน้า ก็น่าจะสบายกว่ามนุษย์ในตอนนี้อีกหลายร้อยเท่าเช่นกัน สิ่งที่มนุษย์สร้างขึ้นมาทั้งหมดในโลกตอนนี้ ก็คงจะเทียบไม่ได้เลยกับสิ่งที่จะเกิดขึ้นในอนาคต การที่มนุษย์ได้เรียนรู้ประวัติศาสตร์ และเรื่องที่เกิดขึ้นในปัจจุบันจะทำให้เราสามารถเชื่อมโยงความสัมพันธ์และเข้าใจโลกนี้ได้ดีขึ้น ในการเชื่อมโยงทุกคนอาจมีมุมมองเป็นของตนเองที่แตกต่างกันตามแต่จินตนาการ และนี่แหละคือเสน่ห์ของ "ลงทุนแมน"
"ลงทุนแมน" ไม่ได้เป็นผู้ฉลาดที่สุดในทุกเรื่องราว แต่ "ลงทุนแมน" จะนำเสนอประเด็นในแต่ละเรื่องให้เราฉุกคิดได้บ้าง และผู้อ่านสามารถนำความคิดของตนเองไปต่อยอดในเรื่องราวนั้นได้ สิ่งที่ "ลงทุนแมน" เขียน 1 ประโยค อาจจะมีคนนำเรื่องนี้ไปคิดต่อยอดเป็น 1,000 รูปแบบ เพียงแค่นี้ ก็น่าจะทำให้เกิดกระบวนการที่เป็นแรงผลักดันสังคมให้ก้าวไปข้างหน้าได้
 
3. เล่าเรื่องสามก๊ก ฉบับคนรุ่นใหม่
เรื่องราวสามก๊กเกิดขึ้นเมื่อ 1,800 ปีก่อน ปราชญ์จีนหลอกจว้านจง นำประวัติศาสตร์สามก๊กมาเรียบเรียงเป็นพงศาวดารสามก๊ก เมื่อ 600 กว่าปีที่แล้ว จากนั้นเรื่องราวของสามก๊กเป็นที่รู้จักแพร่หลายไปทั่วโลก คนไทยก็ได้อ่านสามก๊กจากฉบับเจ้าพระยาพระคลัง (หน) จวบจนบัดนี้นับได้กว่า 200 ปีแล้ว
ปัจจุบันมีสามก๊กเกิดขึ้นมากมายหลายสำนวนในเมืองไทยนอกเหนือจากฉบับเจ้าพระยาพระคลัง ซึ่งแต่ละสำนวนก็จะมีลักษณะพิเศษ เอกลักษณ์เฉพาะตัวของผู้เรียบเรียง และแนวทางการนำเสนอของเรื่องที่แตกต่างกันไป
หนังสือ "เล่าเรื่องสามก๊ก ฉบับคนรุ่นใหม่" ที่เรียบเรียงขึ้นโดย "คุณเปี่ยมศักดิ์ คุณากรประทีป" คือความปรารถนาร่วมกันของผู้เขียนและสำนักพิมพ์ที่จะรังสรรค์วรรณกรรมสามก๊กให้เกิดสำนวนใหม่ ด้วยแนวทางการนำเสนอรูปแบบใหม่ขึ้นอีกสำนวนหนึ่ง เพื่อตอบสนองต่อผู้อ่านในโลกยุคปัจจุบัน
แต่หนังสือสามก๊กที่เล่าเรื่องสามก๊กตั้งแต่ต้นจนจบที่มีอยู่แต่ละเล่มนั้นก็ล้วนแต่ "เคี้ยว" ยากหรือ "ย่อย" ยากหรือ "แทะ" ยาก เสียเหลือเกิน คุณเปี่ยมศักดิ์ได้มีความเข้าใจถึงปัญหาของการเข้าถึงสามก๊กของคนรุ่นใหม่ที่ได้กล่าวมา จึงเกิดแรงบันดาลใจจะเขียนเรื่องราวสามก๊ก ด้วยสำนวนอย่างคนรุ่นใหม่ออกมา เพื่อให้หนังสืออ่านง่าย ไม่สับสน กระชับรัดกุมและเก็บเนื้อหาความตามท้องเรื่องของฉบับเจ้าพระยาพระคลังให้ได้มากที่สุด
 
4. ประวัติศาสตร์โลก WORLD OF KNOWLEDGE SERIES
เหตุการณ์ 10 เหตุการณ์ในประวัติศาสตร์ ซึ่งเกิดขึ้นตั้งแต่หลายพันปีมาแล้ว จนกระทั่งเพียงไม่กี่ร้อยปีที่เลือกนำมาเล่าสู่กันฟังในหนังสือ "ประวัติศาสตร์โลก" เล่มนี้เป็นประวัติศาสตร์หน้าสำคัญของโลกที่ได้รับความสนใจและกล่าวถึงอย่างมาก และเชื่อว่าหลายท่านน่าจะเคยได้ยินได้ฟังการกล่าวถึงเหตุการณ์เหล่านี้มาจากที่ใดที่หนึ่งกันบ้างแล้ว แต่อาจไม่ได้ทราบถึงรายละเอียดหรือความเป็นมาของเหตุการณ์ทั้ง 10 ที่จะหยิบเอามาเล่าให้ฟังนี้เท่าใดนัก เหตุการณ์ทั้ง 10 นี้มีทั้งที่มีความเกี่ยวพันกันและที่ไม่เกี่ยวพันกัน และเกิดขึ้นในยุโรปเป็นส่วนใหญ่ การผสมผสานระหว่างประวัติศาสตร์จริงกับเรื่องที่แต่งขึ้นเพื่อให้ดูเร้าใจขึ้น เราจึงเห็นว่าควรจะนำเรื่องราวประวัติศาสตร์ที่มีการบันทึกกันไว้ในแง่มุมต่างๆ มานำเสนอเพื่อประดับความรู้ และเพื่อนำไปเปรียบเทียบกับสิ่งที่เห็นในภาพยนตร์ ละคร หรือซีรี่ส์เหล่านั้น ว่ามีความเหมือนหรือแตกต่างจากประวัติศาสตร์ที่มีการบันทึกกันไว้อย่างไร เพื่อให้ท่านได้ศึกษาอย่างรอบด้านและพิจารณาด้วยตัวเองว่าจะเชื่อหรือไม่เชื่อดี
ประวัติศาสตร์ไม่ใช่เพียงแค่เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในอดีตที่ผ่านมาแล้วก็ผ่านไปเท่านั้น เราสามารถนำเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมาแล้วเหล่านั้นมาใช้เป็นบทเรียนประกอบการดำเนินชีวิตของเราในปัจจุบันนี้ได้ทุกเมื่อ ไม่ว่าเราจะทำอะไรจะเดินไปในหนทางไหนก็ตาม ถ้าหากเราสามารถนำประวัติศาสตร์นำเหตุการณ์ต่างๆ ซึ่งเคยเกิดขึ้นมาในอดีต มาเป็นเข็มทิศชี้ทางที่ถูกต้องให้เดิน เราก็จะไม่เดินไปในทางที่ผิดหรือหลงทิศได้
เพราะประวัติศาสตร์ที่เกิดขึ้นมักเป็นเครื่องนำทางที่ดี คนในอดีตได้เป็นผู้เดินไปในหนทางที่ผิด และให้เราเลือกเดินแต่ทางที่ถูก ประวัติศาสตร์จึงทรงคุณค่าเป็นอย่างยิ่ง เพราะเป็นการลงทุนลงแรงของคนในอดีต จะโดยตั้งใจให้คนรุ่นหลังใช้เป็นเครื่องชี้นำในการดำเนินชีวิตหรือไม่ก็ตาม
แต่คนรุ่นเราจะต้องขอบคุณคนรุ่นก่อนที่เป็นผู้เสียสละเดินถูกเดินผิดเพื่อให้เราใช้เป็นสิ่งนำร่อง และเรียนรู้จากสิ่งเหล่านั้นให้เป็นประโยชน์ต่อไปในสังคมยุคปัจจุบัน เมื่อเข้าใจตามนี้แล้วเราก็ต้องคิดได้ว่าประวัติศาสตร์ไม่ได้เป็นเรื่องน่าเบื่อ หรือเรื่องล้าสมัยแต่อย่างใดเลย
 
5. FOREX WAR EPISODE 1 BASIC TRAINING
ปูพื้นฐานที่สำคัญและเตรียมพร้อมก่อนเข้าสู่ตลาด Forex เพื่อลดความเสี่ยงและสามารถทำกำไรด้วยตัวคุณเอง ทำไมผู้คนในยุคนี้จึงหันมาให้ความสนใจการทำเงินจากโลกออนไลน์กันอย่างแพร่หลายมากขึ้นทุกวัน เพราะโลกออนไลน์มันทำให้การใช้ชีวิตนั้นง่ายขึ้นสะดวกสบายมากขึ้น และแน่นอนว่ามีรูปแบบที่จะสามารถทำเงินในโลกออนไลน์มากมายหลากหลายรูปแบบ Forex จึงเป็นหนึ่งในคำตอบนั้น ขอแนะนำว่าคุณต้องไม่พลาดที่จะอ่านหนังสือ Forex War เล่มนี้เพื่อเพิ่มศักยภาพให้กับตัวคุณ
Forex คือ การลงทุนประเภทหนึ่ง ดังนั้น พื้นฐานในการลงทุนนั้นมีความสำคัญ เปรียบเสมือนอาวุธและเกราะป้องกันไม่ให้ตลาดมาทำร้ายคุณอย่างง่ายดาย ขอให้คุณที่สนใจการลงทุนในตลาด Forex ศึกษาพื้นฐานให้เข้าใจให้ดีก่อนที่จะลงทุน เพราะตลาด Forex สามารถเปลี่ยนอนาคตของคุณได้และทุกอย่างมันขึ้นอยู่กับคุณ หนังสือ Forex War เล่มนี้จะนำคุณเข้าสู่โลก Forex โดยเรียงลำดับความสำคัญให้กับผู้เริ่มต้นที่จะลงทุนในตลาด Forex อย่างเหมาะสม และรวบรวมเกร็ดความรู้ให้กับคุณมากมาย สำหรับทท่านที่ไม่เคยมีประสบการณ์การลงทุนในตลาดแห่งนี้ ขอแนะนำให้ศึกษาให้ละเอียด ฝึกปฏิบัติตามด้วยบัญชีทดลองเพื่อฝึกฝนทักษะ วินัย และจิตใจให้ดีก่อนที่จะทำการลงสนามจริง เพราะเนื้อหาทำเพื่อให้อ่านง่าย เข้าใจง่ายสามารถปฏิบัติตามได้ สำหรับผู้ที่เคยเทรดมาแล้วแต่ยังขาดทุนมากกว่ากำไร
 
6. วิธีสร้างพลังใจสู้ชีวิต และมีวินัยในตนเอง เพื่อก้าวสู่เป้าหมายที่ตั้งใจ
หนังสือเล่มนี้สอนในเรื่องขั้นตอนและวิธีการที่เข้าใจง่าย ไม่ว่าจะเป็นการสร้างความอดทน การวางแผน การสร้างความเข้าใจในความปรารถนาของตน การแบ่งปัญหาออกเป็นส่วนย่อยๆ การฝึกตนให้คิดบวกขจัดความคิดลบ และค้นหาความแข็งแกร่งที่มีอยู่ในตัวตนของเรา ซึ่งผลลัพธ์ได้คือการมีชีวิตที่ดี และประสบความสำเร็จตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ หนังสือ "วิธีสร้างพลังใจสู้ชีวิต และมีวินัยในตนเอง เพื่อก้าวสู่เป้าหมายที่ตั้งใจ" เล่มนี้เป็นหนังสือดี มีเนื้อหากระชับ จับแต่ประเด็นสำคัญๆ มานำเสนอผ่านการ์ตูนก้างปลา ซึ่งจะช่วยให้ท่านสามารถก้าวสู่เป้าหมายที่ตั้งไว้ และมีชีวิตที่ดีได้ตลอดไป
พลังใจ คือปัจจัยสำคัญสู่ความสำเร็จ พูดอีกนัยหนึ่งคือการมีพละกำลังที่จะลงมือทำ หรือละเว้นการกระทำ เพื่อให้บรรลุเป้าหมายไม่ว่าเป้าหมายจะเป็นอะไรก็ตาม พอถึงเวลาคุณจะรู้ตัวและลุกขึ้นมาทำอะไรสักอย่าง และมีบางเวลาที่เราต้องหลีกเลี่ยงที่จะทำอะไรสักอย่าง ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับว่าคุณมีพลังใจมากพอที่จะขับเคลื่อนให้คุณลงมือทำตามความคิดนั้นได้หรือไม่
เป้าหมายของเราคือ สอนคุณในสิ่งที่เราได้เรียนรู้มา เราหวังใจว่าเราจะนำเสอนไอเดียที่ช่วยให้คุณนำไปปรับใช้ในการพัฒนาพลังใจของคุณเพื่อให้คุณสามารถทำเป้าหมายได้สำเร็จ "คุณสมบัติหนึ่งอย่างที่แยกคนคนหนึ่งให้โดดเด่นออกจากกลุ่ม ไม่ใช่ความสามารถพิเศษ การศึกษา หรือความฉลาดระดับอัจฉริยะ หากคือ เรื่องวินัยในตนเอง ซึ่งเป็นกุญแจสำคัญที่ส่งผลให้คนคนหนึ่งทำตามสิ่งที่ปรารถนาได้ ในขณะที่อีกหลายคนยังจมปลักอยู่กับความขาดแคลน เมื่อเรามีวินัยในตนเองแล้ว ทุกอย่างก็เป็นไปได้ หากปราศจากวินัยในตนเองแล้ว ทุกอย่างก็เป็นไปได้ หากปราศจากวินัยในตนเอง แม้กระทั่งเป้าหมายง่ายๆ ก็ดูแทบเป็นไปไม่ได้เลย"
 
7. พระคัมภีร์จินดามณี พระโหราธิบดี
วรรรกรรมที่มีคุณค่าต่อสังคมไทยหลายประการ ทั้งในด้านของสังคม ถือได้ว่าเป็นต้นแบบในการเขียนแบบเรียนภาษาไทยในเวลาต่อมา และถือเป็นการบันทึกประวัติศาสตร์ในสมัยพระนารายณ์มหาราช ทั้งเรื่องศาสนาและการค้าขาย
ทำไมจึงต้องอ่าน จินดามณี ฉบับ ฉันทิชย์ กระแสสินธุ์? เมื่อในสมัยก่อน หนังสือจินดามณี ถูกยกย่องเรียกว่า พระคัมภีร์จินดามณี โดยจินดามณีฉบับแรกนั้น "พระโหราธิบดี ได้แต่งไว้ในสมัยพระนารายณ์มหาราช โดยระยะเวลาที่ผ่านมายาวนานทำให้ต้นฉบับเดิมเสียหายไปมากทั้งจากเมื่อสมัยกรุงแตกในยุคกรุงศรีอยุธยา เลยทำให้มีหลายฉบับที่ตีพิมพ์ออกมา โดยเล่มที่กำลังกล่าวถึงอยู่นี้ คือฉบับที่อาจารย์ "ฉันทิชย์ กระแสสินธุ์"เป็นผู้เรียงเรียงไว้ โดยท่านอาจารย์ ได้เลือกใช้ฉบับตัวเขียนของ "ขุนนิมิตรอักษรเป็นหลัก" "พระคัมภีร์จินดามณี"คือวรรรกรรมที่มีคุณค่าต่อสังคมไทยหลายประการ ทั้งในด้านของสังคม ถือได้ว่าเป็นต้นแบบในการเขียนแบบเรียนภาษาไทยในเวลาต่อมา และถือเป็นการบันทึกประวัติศาสตร์ในสมัยพระนารายณ์มหาราช ทั้งเรื่องศาสนาและการค้าขายกับชาติตะวันตก ส่วนด้านเนื้อหา จินดามณียังเปรียบเสมือนการปูพื้นฐานในด้านภาษาศาสตร์และวรรณคดีให้กับคนไทย อีกทั้งยังเป็นหนังสืออ้างอิงที่ดีในเปรียบเทียบภาษาไทยโบราณกับยุคปัจจุบัน นอกจากนี้ ในด้านวรรณศิลป์ หนังสือเล่มนี้ยังมีคุณค่าทั้งการเล่นคำ สัมผัสอักษร สัมผัสสระ รวมถึงมีบรรยายโวหารและ พรรณนาโวหารที่ชัดเจน
 
8. รหัสลับสู่ความสำเร็จแบบ เชอร์ล็อก โฮล์มส์
หนังสือเล่มนี้จะทำให้คุณได้เห็นแง่มุมใหม่ๆ ในตัวเชอร์ล็อก โฮล์มส์ ซึ่งคุณไม่เคยได้เห็นที่ใดมาก่อน และแม้ผู้อ่านจะไม่เคยได้อ่านวรรณกรรมเรื่องเชอร์ล็อก โฮล์มส์มาก่อนเลยแม้แต่ตอนเดียว แต่ผู้อ่านก็สามารถเข้าใจความคิดจากหนังสือเล่มนี้ได้อย่างรวดเร็วและง่ายดาย เพราะแต่ละบทมีการอ้างอิงคำพูดจากหนังสือมากมาย รวมทั้งเรื่องย่อของโครงเรื่องจากตอนที่เกี่ยวข้องด้วย และทั้งนี้สิ่งสำคัญที่สุดอยู่ที่เคล็ดลับสู่ความสำเร็จตามแบบฉบับของเชอร์ล็อก โฮล์มส์ ซึ่งผู้เขียนพยายามนำเสนอโดยแยกให้เห็นเป็นประเด็นเด่นชัดเอาไว้ในแต่ละบท เรียนรู้เคล็ดลับความฉลาดหลักแหลม และวลีที่เฉียบคม ของเชอร์ล็อก โฮล์มส์ ที่นำไปสู่ความสำเร็จอย่างน่าถึง วิธีปล่อยอัจฉริยภาพของคุณออกมาเหมือนที่ "เชอร์ล็อก โฮล์มส์" ประสบความสำเร็จมาแล้วใน หนังสือ "รหัสลับสู่ความสำเร็จแบบ เชอร์ล็อก โฮล์มส์"
หนังสือแนวลึกลับสืบสวนสอบสวนที่โด่งดังที่สุดของโลกเรื่องหนึ่งก็คือ "เชอร์ล็อก โฮล์มส์" ซึ่งเป็นบทประพันธ์ของนักเขียนนามอุโฆษที่รู้จักกันเป็นอย่างดี เซอร์อาร์เธอร์ โคนัน ดอยล์ ไม่ได้เป็นเพียงนักเขียนหนังสือแนวรหัสคดีที่มีชื่อเสียงเป็นที่เลื่องลือ แต่เขายังมีความสามารถฉลาดหลักแหลมในการสร้างตัวละครที่ประทับใจคนทั่วโลกอย่าง เชอร์ล็อก โฮล์มส์ ตัวละครที่มีบุคลิกโดดเด่นคือ เป็นคนช่างสังเกต เฉลียวฉลาด คิดแล้วลงมือปฏิบัติในทันที และยังมีคุณสมบัติอีกหลากหลายข้อที่น่าเอาเป็นแบบอย่าง ทั้งประโยคคำพูดที่สร้างสรรค์เฉียบคมและติดหูให้แก่ตัวละครที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของเขา คำพูดของเชอร์ล็อก โฮล์มส์หลายประโยคยังคงเป็นส่วนหนึ่งของวัฒนธรรมสมัยนิยมนานกว่าหนึ่งศตวรรษหลังจากที่ดอยล์ได้ประพันธ์เรื่องนี้ขึ้น ส่วนหนึ่งในการนำเสนอเคล็ดลับต่างๆ ที่น่าสนใจซึ่งจะเป็นแง่คิดนำทางให้ท่่านประสบความสำเร็จและแก้ปัญหาชีวิตได้จากตัวอย่างความเฉลียวฉลาด และวลีที่ทรงคุณค่าต่างๆ ได้จากหนังสือ Success Secrets of Sherlook Holmes หรือ "รหัสลับสู่ความสำเร็จแบบเชอร์ล็อก โฮล์มส์" เล่มนี้
 
9. Blockchain Technology ถนนสายใหม่เชื่อมโลกดิจิทัลไร้พรมแดน
หนังสือเล่มนี้ได้อธิบายถึงเทคโนโลยีบล็อกเชน ประโยชน์ของบล็อกเชนที่มีต่อกิจการและธุรกรรมต่างๆ เช่น ในด้านการทำธุรกรรมทางธุรกิจ การศึกษา การกีฬา ภาคการสื่อสาร ภาคอุตสาหกรรม ภาคการเกษตรกรรม การคมนาคม การสาธารณสุข การซ่อมบำรุง การรักษาความปลอดภัยต่อทรัพย์สินและชีวิต การอุปโภคในชีวิตประจำวัน การเงิน การธนาคาร รวมถึงภาคการเมือง! มีขึ้นในอนาคต "ที่มาของ Bitcoin ไม่ใช่เป็นเงินสกุล ตัว Cryptocurrency ไม่ใช่เป็นแค่สินค้าโภคภัณฑ์ ไม่ใช่ตัวอสังหาริมทรัพย์ แต่เป็นตัว Protocol มันเป็นภาษาที่คอมพิวเตอร์คุยกัน หรือเป็นตัว Protocol ที่ทำการสื่อสารโดยยึดตามกฎเกณฑ์ที่มาจากตัว Application" การกำเนิดของบล็อกเชน, คุณสมบัติของเทคโนโลยีบล็อกเชน, ทำไมเทคโนโยยีบล็อกเชนจึงมีความโปร่งใสมาก, บล็อกเชนคือที่กำเนิดของเงินสกุล Crypto, ทำไมเงินสกุล Crypto ต้องเกิดขึ้นมา, คำนวณมูลค่าเงินบิทคอยน์ ใช้สมมติฐานอะไร และทำอย่างไร หาคำตอบได้ใน "Blockchain Technology ถนนสายใหม่เชื่อมโลกดิจิทัลไร้พรมแดน" เล่มนี้
หัวใจหลักของเทคโนโลยีบล็อกเชน คือความโปร่งใส (Transparency) อย่างเป็นรูปธรรม ไม่ใช่แค่เป็นเพียงคำพูด แต่บล็อกเชนสามารถถูกนำไปใช้ในทางปฏิบัติได้ต่อกิจการต่างๆ รวมถึงการสร้างการกระจายอำนาจระหว่างมนุษย์ด้วยกันอย่างเสมอภาค (Distribution) และเป็นเครื่องมือต่อการสร้างความไว้วางใจกันได้อย่างแท้จริง (Trust) เพราะ Trust เป็นสินทรัพย์ที่สำคัญมากสำหรับมนุษย์ ต่อการดำเนินกิจการต่างๆ แต่การจะมีความโปร่งใส มีการกระจายอำนาจระหว่างกันด้วยความเสมอภาค และมีการสร้างความไว้วางใจกันได้อย่างแท้จริงนั้น ก็จำต้องอาศัยเครื่องมือ หรือตัวกลไกที่นำพาให้องค์ประกอบหลักสามองค์ประกอบการที่ว่านี้ สามารถเกิดขึ้นได้นั้น ก็ด้วยจากเทคโนโลยีบล็อกเชน (Blockchain Technology) เพราะเทคโนโลยีบล็อกเชน คือ ตัวดีเอนเอ ที่เปิดพื้นที่ทางดิจิทัล ที่สร้างความไว้ใจ ความโปร่งใส การกระจายอำนาจ อย่างเช่น ธุรกิจการเงินทางด้าน Cryptocurrency หรือเงินสกุลบิทคอยน์ และอื่นๆ ที่เราเริ่มรู้จักกันดีมากยิ่งขึ้นเรื่อยๆ บนโลกก็ถือว่าเป็นดีเอเอนของเทคโนโลยีบล็อกเชน ถนนสายใหม่จากเทคโนโลยีบล็อกเชน ได้เริ่มเปิดใช้บริการอย่างเต็มที่แล้ว
 
10. จะเล่าให้คุณฟัง
หนังสือที่เปลี่ยนแปลงชีวิตผู้คน มักดูขึงขัง จริงจัง ด้วยเนื้อหาและท่วงทำนองการเสนอเรื่องราวของผู้เขียน แต่หนังสือ "จะเล่าให้คุณฟัง" เล่มนี้ซึ่งนัยว่าได้เปลี่ยนแปลงชีวิตผู้คนและช่วยเหลือจิตใจอันตกอยู่ในสภาวะไม่ปกติให้กลับฟื้นคืนสภาพดังเดิมมามากต่อมากแล้ว กลับเป็นหนังสืออ่านสนุก ไม่เครียด จนบางทีดูเหมือนผู้เขียนพยายามละทิ้งกฎเกณฑ์ต่างๆ ที่เคร่งครัดและเคยยึดถือไปเสียสิ้น
ความยุ่งยากในการอธิบายเรื่องเกี่ยวกับปัญหาทางจิตที่ดูเหมือนว่าต้องใช้เวลาสนทนากันนาน และต้องเหน็ดเหนื่อยทั้งกายและใจ กลายเป็นเรื่องง่ายสำหรับใครก็ตามที่ได้อ่านหนังสือของนักเขียนผู้นี้ "ฆอร์เฆ่ บูกาย" เป็นนักจิตวิทยา นักจิตบำบัดผู้มีชื่อเสียงและมีความสามารถเป็นที่ยอมรับในวงการจิตเวชหลายประเทศทั่วยุโรป แต่เหนือกว่านั้นก็คือเป็นนักเขียนที่มีอารมณ์ขันอย่างลึก จึงไม่น่าแปลกใจที่ผลงานทุกเรื่องทุกเล่มของจิตแพทย์นักเขียนผู้นี้จะขายดีในยุโรป โดยเฉพาะกลุ่มประเทศลาตินอเมริกาอีกทั้งมีผู้แปลเป็นภาษาต่างๆ หลายภาษา

224

 
กระแสวายกำลังมาแรงมากมาย สูงถึงขนาดที่ว่าได้รับความสนใจจากสื่อตลอด อีกทั้งนิยายวายที่มีให้เลือกอ่านกันเยอะมากนับไม่ถ้วนเลย และการ์ตูนวายที่มีกระแสให้ได้ยินกันตลอด นิยายวายได้รับความนิยมมากแค่ไหน? ก็ไม่มากมายไม่น้อย แค่มีการนำมาทำเป็นซีรี่ส์ออกอากาศเป็นจำนวนหลายเรื่อง ตัวอย่างเช่น Sotus the Series พี่ว้ากตัวร้ายกับนายปีหนึ่ง หรือจะเป็นเดือนเกี้ยวเดือน ฯลฯ
 
นิยายวาย คือ?
 
คำว่า "วาย" หรือ "Yaoi" มีที่มาจากการใช้ชื่อย่อเป็นตัวอักษรญี่ปุ่น แล้วก็ต้นแบบของแต่ละคำคือ "Yama nashi, Ochi nashi, Imi nashi" คือ no climax (ไม่มีจุดสำคัญ), no point (ไม่มีประเด็น), no meaning (ไม่มีความหมาย) โดยเหตุนั้นจึงมีการประดิษฐ์คำว่า Yaoi ขึ้นมาใช้เรียกงานชนิดนี้
 
แม้กระนั้นในประเทศไทยนั้น ความหมายของคำว่า Yaoi มีการใช้เปลี่ยนแปลงไปจากเดิม ด้วยเหตุว่าเราใช้คำว่า "วาย" เรียกชายรักชายทั้งผอง ไม่ว่าจะเป็นนิยาย การ์ตูน หรือละคร และก็ยังครอบคลุมจินตนาการหรือการจิ้นความเกี่ยวข้องระหว่างตัวละครชายที่สร้างขึ้นมาหรือระหว่างบุคคลผู้ชายที่พวกเราชื่นชอบ บางทีอาจเป็นศิลปิน/ศิลปิน/คนมีชื่อเสียงก็ได้ ทำให้คำว่าวายเดี๋ยวนี้เปรียบเสมือนเป็นสิ่งที่แทนความรักแบบฟินๆ ไปแล้ว
 
สิ่งที่ทำให้เกิด Yaoi
 
คำว่า yaoi กำเนิดครั้งแรงช่วงปลายสมัย 70 โดยซาคาตะ ยาซุโกะและฮัตสุ รินโกะ ที่ต้องการล้อเลียนโครงสร้างของงานเขียนโคลงจีนยุคเก่าซึ่งต้องมี ki (introduction บทนำ), syo (development เดินเรื่อง), ten (transition จุดผกผัน), และก็ ketsu (conclusion ข้อสรุป) โดยสร้างงานที่
 
- Yamanashi (no climax-ไม่มีจุดไคลแมกซ์)
- Ochinashi (no point-ไม่มีข้อความสำคัญ)
- Iminashi (no meaning-ไม่มีความหมาย)
- กลายมาเป็นงานโดจินชิที่ชื่อ Loveri
 
ต่อมาในสมัย 80 คำว่า yaoi ได้หมายความถึงงานการ์ตูนล้อเลียนที่มีเพศชายสองคนเป็นตัวเอกและเน้นในเรื่องความสัมพันธ์ทางเพศเป็นประเด็นหลัก ส่วน shonenai คือการ์ตูนที่มีเพศชายสองคนเช่นเดียวกัน แต่เน้นในเรื่องความรักโรแมนติกและก็น่ารักอ่อนโยนกว่า ทั้ง yaoi และ shonenai ไม่ใช่การ์ตูนที่เอ่ยถึงความรักของ เกย์ เลย แต่ว่าเป็นแบบหนึ่งของความรักที่ "เหนือ" กว่าความรักระหว่างคนต่างเพศทั่วๆไป
 
แต่ถึงอย่างไรก็ตาม ต้นกำเนิดของความเกี่ยวพันแบบชายกับชายในการ์ตูนมิได้เกิดในดงโดจินชิเป็นที่แรก แต่กำเนิดในงานการ์ตูนที่มีพิมพ์ขายแบบเป็นล่ำเป็นสัน เรื่องนั้นคือ Kaza to Ki no Uta หรือ A Poem of Wind and Trees งานด้านการเขียนของทาเคมิ|ยะ เคย์โกะ ซึ่งพิมพ์ในแมกกาซีนการ์ตูนผู้หญิง}ในปี 1976 เรื่องนี้เป็นเรื่องของกิลเบิร์ต คอคโต หนุ่มน้อยรูปงามในโรงเรียนประจำแห่งหนึ่งที่มีอันจำต้องร่วมหอลงเตียงกับเพื่อนชายหนุ่มรูมเมท
 
บอยเลิฟ
 
บอยเลิฟ เป็นคำที่เอาไว้ใช้เรียกแทนคำนิยามรัก ระหว่าง ชาย กับ ชาย หรือ จะใช้คำว่า บอยส์เลิฟ และก็ ยาโอย (Yaoi) กัน โดยรายละเอียดของบอยส์เลิฟนั้น จะเป็นเรื่องราวเกี่ยวกับความเกี่ยวข้องทางเพศ ของชายหนุ่มสองคน (หรืออาจจะมากยิ่งกว่านั้น) มีลักษณะการเดินเรื่อง คล้ายๆกับการ์ตูนผู้หญิง ที่มีพระเอก นางเอก (ที่เป็นผู้ชาย) มามีความรักหรือความสัมพันธ์ทางเพศต่อกัน โดยในหมู่สาวกยาโอย จะมีการใช้คำศัพท์แทน ฝ่ายรับ หรือ นางเอกที่เป็นเพศชาย นั้นว่า Uke และก็เรียกฝ่ายรุก ก็คือดารานำชายว่า Seme
 

 
10 นิยายวายที่แนะนำ โดยร้านหนังสือนายอินทร์
 
1. OUT OF LOVE แสดงความรัก
'ผมรักพี่พอร์ช เบื้องหน้าเส้นทางชีวิตของผม มีเขาเดินนำอยู่เสมอ แผ่นหลังของเขาคือสิ่งที่หัวใจผมเฝ้าติดตามมานานหลายปี และรู้ดีว่าเขามองใครอีกคนมาตลอดไม่เปลี่ยนแปลง แต่แล้วผมก็มีโอกาสได้อยู่ใกล้เขาอีกครั้งจนเมื่อมีเหตุการณ์ไม่คาดฝันเกิดขึ้นระหว่างเรา เกิดเป็นแรงผลักดันให้ผมมีความกล้าที่จะทำบางสิ่งบางอย่าง เพื่อให้พี่พอร์ชหันมามองผมแม้สายตานั้นจะเต็มไปด้วยความเกลียดชังก็ตาม... ทางที่ผมเดินต้องกลายเป็นวงกตแห่งความเจ็บปวด และผมได้แต่หวังว่าความรักในแบบที่ผมเลือกจะเป็นทางออกที่ถูกต้องสักที
'พอร์ช' เป็นผู้ชายที่รักใครแล้วรักมาก เขาคิดว่าต่อให้เทียบกับคนทั้งโลก ก็ไม่มีใครรักอีกฝ่ายได้เท่าตัวเอง ในขณะที่ 'ณะ' นั้นจริงๆ ไม่ได้อยากยึดคนที่รักไว้กับตัว แต่แค่อยากทุ่มเททำทุกอย่างให้คนที่ตัวเองรักมีความสุข แม้ว่าความสุขนั้นจะต้องแลกมาด้วยความทุกข์ของตัวเองก็ตาม ซึ่งทั้งสองคนเป็นคนที่ชัดเจนกับความรู้สึกของตัวเอง และทั้งคู่ก็มีวิธีแสดงความรักในรูปแบบที่แตกต่างกัน แต่เพราะการแสดงออกของความรักที่สวนทาง สุดท้ายเลยลงเอยที่ทำร้ายทั้งตัวเองและฝ่ายตรงข้ามอยู่เรื่อย
หลังจากที่เราเคยนำเสนอเรื่องราวความรักสองเรื่องสองแบบจาก "Deep Sound แสดงความรู้สึก" และ "Take Care แสดงความดูแล" กันไปแล้วคราวนี้เราจึงมา "แสดงความ กันเป็นเล่มสุดท้าย "Out of Love แสดงความรัก" ในเล่มนี้เราจะได้สัมผัสความรักในหลายรูปแบบซึ่งแต่ละคนก็มีหนทางของตนเองที่แตกต่างกันออกไป แต่ไม่ว่าจะสุข เศร้า เหงา หรือเจ็บปวด เราก็สามารถเลือกที่จะแสดงความรักในแบบของเราได้เสมอ และการแสดงความรักของผู้ชายทุกคนในเล่มนี้ จะสั่นสะเทือนหัวใจรักของคุณผู้อ่านแน่นอน
 
2. Ailurophile น้องดินทาสแมว
เล่มนี้เป็นเรื่องความรักที่เรียบง่าย ทุกตัวละครเรียบง่าย แต่เราก็ตกหลุมรักในความเรียบง่ายไปโดยไม่รู้ตัวเหมือนกัน ก็แหงล่ะ ชีวิตเรามันซับซ้อนพออยู่ละ บางครั้งเราก็ไม่ได้ต้องการอะไรที่มันหวือหวามากมายขนาดนั้นหรอก แค่มีคนที่ดีต่อใจ และทำให้เราตกอยู่ในสภาวะทิ้งตัวได้ในวันยากๆ ก็พอแล้วใช่มั้ยล่ะ ดินกับอัยย์ ก็เป็นความสัมพันธ์ "นุ่มๆ" ให้เราหนุนสบายจริงๆ แต่บางครั้งก็ออกจะหมั่นไส้หน่อยๆ
ใครๆ ก็รู้กันทั้งบางว่าน้อง "แดนดิน" ศิลปศาสตร์เอกอิ๊งค์ปีสองอะโคตรน่ารัก น้องชอบสีชมพูพีช ชอบตุ๊กตา ยิ้หวาน หน้าเหมือนหมาที่ ท่าทางนุ่มนิ่ม แล้วบุญก็หล่นทับดังโครมเมื่อพี่ "อัยย์" ได้น้องมาแชร์บ้านอยู่ใต้หลังคาเดียวกัน บอกเลยว่าน้องน่ารักเบอร์นี้ พี่อัยย์ก็ไม่หวังอะไรนอกจากหวังจะได้น้องเป็นเมีย แม่! พี่อัยย์ว่าพี่อัยย์หาลูกสะใภ้ให้แม่ได้แล้ว!! แต่แล้ว.. เช้าวันหนึ่งหลังปาร์ตี้ เขาก็ตื่นขึ้นมาพร้อมกับเรื่องช็อคโลก ตั้งใจจะจับน้องทำเมีย.. ไหงดันได้เป็นเมียน้องซะเองวะ! "น่ารักแล้วไง เป็นผัวพี่ได้ก็แล้วกัน" น้องดิน.. ทำไมน้องใจร้าย!! ทำไมไม่อ่อนโยน!!!
 
3. คุณหมอครับช่วยถอดหน้ากากที! Behind the Mask
เรื่องราวความรักของแฟนเก่ากับแฟนใหม่ ปฏิบัติการถอดหน้ากากเผยความจริงในหัวใจ บนเส้นทางที่ไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบของหมอศัลย์และตำรวจหนุ่มจะลงเอยอย่างไรกันหนอ 'อกหัก รักคุด สุดระทมมากแค่ไหน 'หมอภีม' ก็ต้องซ่อมอารมณ์ความรู้สึกตั่งต่างไว้ภายใต้หน้ากากที่คนอื่นมองเห็นเป็นใบหน้าเรียบเฉย ด้วยว่าสถานะอาจารย์แพทย์และหมอศัลย์มือดีมันค้ำคออยู่ จนกระทั่งต้องผ่าตัดช่วยชีวิตตำรวจหนุ่มลูกครึ่งนาม 'เซธ' หน้ากากที่เขาสวมใส่ประจำก็มีคนพยายามจะถอดมันออกแม้คู่ปรับคนนี้จะเป็นถึงตำรวจที่สือทอดธุรกิจอาวุธสงคราม แต่จะมาถอดหน้ากากเขาออกง่ายๆ ใครจะยอม! อีกฝ่ายจึงต้องเริ่มจากขึ้นเบสิกคือ 'ถอด' อะไรที่ง่ายกว่านั้นก่อน
 
4. ทฤษฎีโลกกลมเขาว่าคือพรหมลิขิต
"เขาบอกว่าถ้าคนเราบังเอิญเจอกันถึงสามครั้งทั้งที่ไม่น่าเจอ เขาเรียกว่าพรหมลิขิตหรือเนื้อคู่" ตะวันเชื่อเรื่องของโชคชะตา แต่ไม่เชื่อคำพูดของเพื่อนรักอย่างคนโปรด จนได้เจอเข้ากับตัวเอง ชายหนุ่มร่างสูงกับหนูน้อยขี้อายในร้านหนังสือ คนที่ตะวันไม่คิดว่าจะเดินเข้ามาในชีวิตของเขา รู้ตัวอีกทีความบังเอิญสามครั้งก็เกิดขึ้น ชีวิตของพวกเขาค่อยๆ บรรจบเข้าหากันด้วยโชคชะตา จากคนแปลกหน้ากลายเป็นคนรู้จักที่คุ้นเคย นี่คือ "ตะวัน" เด็กหนุ่มที่อ่อนโยนที่สุดเท่าที่เมธเคยเจอ ความอบอุ่นแสนดีของตะวัน จะเอาชนะใจพ่อหม้ายลูกติดได้หรือไม่ ต้องไปติดตามนิยายเรื่อง "ทฤษฎีโลกกลมเขาว่าคือพรหมลิขิต"
"ทฤษฎีโลกกลม เขาว่าคือพรหมลิขิต" เล่มนี้เป็นเรื่องราวของ "ตะวัน" ที่บังเอิญไปเจอกับคุณพ่อเลี้ยงเดี่ยวในร้านหนังสือที่ตัวเองชอบไปทุกวันศุกร์ และโชคชะตาก็ส่งคิวปิดตัวน้อยมาให้เขาหลงใหลในความน่ารัก จนได้รู้จักและเริ่มสนิทกับ "เมธ" ผู้เป็นพ่อของคิวปิดตัวน้อยมากขึ้นเรื่อยๆ โดยผลงานของคุณ Darin เล่มนี้ ยังคงเป็นนวนิยายแนว Feel Good ที่อ่านสบายๆ ทั้งยังแฝงข้อคิดเรื่องความเป็นครอบครัว ความเอาใจใส่ดูแลเด็กในวัยที่กำลังเติบโต แล้วก็สัมผัสได้ถึงความอบอุ่นและความอ่อนโยนของตัวละครทุกตัวที่อยู่ในทุกตัวอักษร ทั้งยังได้เห็น "คนโปรดกับไทย" ในมุมรักเด็กอีกด้วย บอกเลยว่าแก๊งนี้น่ารักกันทุกคนจริงๆ
 
5. ทฤษฎีร้อยเล่มเกวียน
เชื่อว่าเพื่อนๆ คงเคยแอบรักใครสักคน ไม่ว่าจะเป็นเพื่อน พี่ชายข้างบ้าน หรือรุ่นพี่ในคณะ.. เหมือนกับ "คนโปรด" ในเรื่องนี้ที่แอบรักรุ่นพี่อย่าง "พี่รหัส" แต่คงมีน้อยคนนักที่จะกล้าเหมือนคนโปรด ในการทำทุกวิถีทางให้คนที่เราแอบรักหันมามองสักนิด โดยไม่กลัวความผิดหวัง.. น้องเท็ดดี้เลยรู้สึกชื่นชมคนโปรดมากๆ แอบนึกไปว่าถ้าตอนนั้นเราทำแบบคนโปรด รุ่นพี่ที่เราแอบรัก ตอนนี้อาจจะกลายเป็นแฟนเราก็ได้ นิยายแนวฟิลกู๊ดที่จะทำให้คุณยิ้มไปกับทุกตัวอักษรในเรื่อง หลงรักตัวละครทุกตัวในเล่ม และสุดท้ายเพื่อนๆ ก็จะตกหลุมรักซีรี่ส์นี้อย่างสุดหัวใจ
"อีกปีเดียวพี่รหัสก็จะจบแล้ว" น้องปีหนึ่งอย่างคนโปรดจึงคิดหนักแอบหลงรักรุ่นพี่ปีสี่ตั้งแต่เข้ามาเรียนวันแรกๆ ถ้าไม่ตัดสินใจทำอะไรลงไปตอนนี้ อาจต้องพลาดความรักครั้งนี้ไปตลอดกาล เมื่อคิดได้อย่างนั้น "คนโปรด" ผู้ที่เชื่อว่าความรักต้องใช้ความพยายามได้ผลบ้างก็ไม่เป็นไร ถึงโอกาสจะมีริบหรี่แค่ไหนเขาก็อยากลองสู้ดู ได้รักก็ยังดีกว่าไม่ได้รัก ได้ลองจีบก็ยังดีกว่าไม่ได้ทำอะไร ถ้าผิดหวังจะได้บอกตัวเองได้ว่าเขาทำดีที่สุดแล้ว นี่คือ "คนโปรด" หนุ่มน้อยที่มีแววตาสดใสราวกับโลกนี้ไม่เคยผ่านความทุกข์มาก่อน ความบ๊อง ความเอ๋อ และความบ้าของคนโปรด จะเอาชนะใจรุ่นพี่สุดโหดได้ไหม ต้องไปติดตาม ใน "ทฤษฎีร้อยเล่มเกวียน"
 
6. พี่ชายครับ ไปนั่งกินหมูกระทะเป็นเพื่อนผมหน่อย
เรื่องราวของ 'บอสตัน' เด็กหนุ่มผู้อยากกินหมูกระทะมากแต่ไม่มีใครยอมไปด้วยเขาตัดสินใจอ้อนขออาเฮียท่าทางใจดีที่รู้จักกันผ่านทางทวิตเตอร์ไปนั่งกินเป็นเพื่อน'เฮีย' คนนั้น ทำให้เขาค้นพบว่า บางทีการโดนเพื่อนเทอาจจะไม่ใช่เรื่องแย่ก็ได้
มีคำกล่าวไว้ว่า หากคุณสามารถนั่งกินเอ็มเคคนเดียวได้แล้ว คุณจะสามารถทำอะไรมากมายได้ด้วยตัวคนเดียวโดยไม่รู้สึกตะขิดตะขวงใจแต่อย่างใด อย่างไรก็ตาม อย่างอื่นที่ว่านั้นไม่รวมถึงการไปปั่นเรือเป็ดคนเดียว หรือการไปนั่งกินหมูกระทะคนเดียว เพราะเลเวลความเสี่ยงว่าหมูมันจะไหม้หากคีบได้ช้าเกินไปหรือเหลือทิ้งเยอะแยะจนเสี่ยงโดนปรับค่อนข้างสูงพอสมควร
 
7. ทุกห้องหัวใจมอบให้นาย
ความรักหวานปนขม ของชายหนุ่มไม่เอาไหนเคยผ่านการหย่าร้าง X เกย์ซึนเดเระสุดขั้ว ซึ่งเป็นเพื่อนสมัยเด็กกันพร้อมเสิร์ฟแล้ว
มารุยามะเป็นพวกไม่เอาไหนแบบที่นึกภาพตามได้เลย ทั้งไร้การงาน ทั้งเคยหย่าร้างมาแล้ว เขายอมเป็นคนรักของโอซาวะเพื่อนสมัยเด็กเพื่อแลกเปลี่ยนกับการที่อีกฝ่ายจะช่วยชดใช้หนี้สินที่แบกรับอยู่ได้ เงื่อนไขของโอซาวะก็คือให้อยู่บ้านตอนที่ชายหนุ่มกลับมา แต่นอกนั้นก็ไม่มีอะไร มารุยามะจึงเผลอไปเที่ยวกับผู้หญิง แต่กลับโดนโกรธหนัก ทำหน้าถมึงทึงใส่ ดูเหมือนว่าโอซาวะที่แสนจะเข้าใจยากคนนั้นจะชอบมารุยามะอยู่...?
 
8. ROOMMATE เพื่อนรัก ลักเพื่อน
เหตุการณ์ในคืนนั้น ทำเอาเจี่ยนหมิงถึงกับลืมไม่ลง ที่งานเลี้ยงรับรองของบริษัท เขาถูกส่งให้ไปดูแลลูกค้าคอทองแดงกลุ่มหนึ่งที่กำลังเมาปลิ้น เจี่ยนหมิงจำไม่ได้ว่าตัวเองขึ้นรถแท็กซี่กลับบ้านมาได้ยังไง รู้ตัวอีกทีเขาก็นอนแผ่หราอยู่บนโซฟาในหอพักแล้ว
ในตอนนั้น เฮ่อเสี่ยวซาน-เพื่อนร่วมห้องของเขากำลังนั่งดื่มเหล้าฉลองชัยชนะให้กับฟุตบอลทีมโปรดอยู่ รูมเมทคนนี้มีนิสัยรักสันโดษ ไม่ชอบออกไปไหนและมักจะนั่งเล่นเกมอยู่แต่ในห้อง จู่ๆ เฮ่อเสี่ยวซานที่เมาแอ๋ก็กระโดดขึ้นคร่อมร่างของเจี่ยนหมิงกลิ่นเหล้าคละคลุ้งไปทั่วทั้งห้อง ทั้งสองค่อยๆ เบียดร่างเข้าหากัน
สติของเฮ่อเสี่ยวซานพลันหลุดลอย เขาก้มลงประกบริมฝีปากบดขยี้เจี่ยนหมิงอย่างดูดดื่ม เจี่ยนหมิงไม่ขัดขืนแถมยังยันร่างขึ้นน้อมรับจูบนั้นด้วยความยินดี ปากของเจ้านี่นุ่มเหลือรับประทาน...
 
9. ชุด Troubled Heart กลร้อนซ่อนรัก BY I'M B2UTY
เพราะความหลังของคนในครอบครัวที่ส่งผลกับปัจจุบันทำให้ "อัคคี" ศิลปินเบอร์หนึ่งจากค่ายเดอะเวิร์ลและ "พระพาย" ศิลปิรเบอร์หนึ่งจากค่ายเดอะวันจ้องโคจรมาเจอกันอย่างที่ไม่ควรจะเป็น การทำงานร่วมกันกับคนที่สุดแสนจะเกลียดหรือเปรียบได้กับศัตรูคู่อาฆาตเพื่อช่วงชิงความเป็นที่หนึ่งในวงการบันเทิงจึงเริ่มต้นขึ้น
การทำงานร่วมกันที่มีแต่ความฟาดฝันและการเผชิญหน้าที่สุดแสนเจ้มข้นจากที่เคยออกตัวว่าเกลียดกันจนแม้แต่จะหายใจในพื้นที่เดียวกันแต่แล้ววันเวลาและความหลังต่างๆ ก็หวนกลับเข้ามาทำให้เรื่องราวระหว่าง "อัคคี" และ "พระพราย" เปลี่ยนไปความเกลียดค่อยๆ จางหายกลายเป็นความรู้สึกดีๆ เข้ามาแทนที่ 'พายอยากเกลียดพี่...อัคคี' เพราะหลอกตัวเองว่าเกลียดเขาต่อไปไม่ไหว ผมกับอัคคีจึงพากันเดินไปสู่เส้นทางความรู้สึกในรู้แบบใหม่เราทั้งคู่ปล่อยให้ตัวเองทำตามเสียงของหัวใจว่ากันว่าเวลาของความสุขมักอยู่กับเราไม่นาน ระหว่างผมกับอัคคีก็เป็นแบบนั้นหลังจากปล่อยตัวเองไปกับความสุข ความทุกข์ก็ถาโถมเข้ามาใส่ราวกับพายุซัดและทุกเรื่องเหล่านั้นมันก็มีผลพวงมาจากการกระทำในอดีตทั้งจากตัวของอัคคีและจากคนในครอบครัวของพวกเราทั้งสองฝ่าย พัง... ทุกอย่างมันพังลงจนไม่เหลือชิ้นดีไม่รู้ว่าจะยังพอมีทางที่จะประกอบให้กลับมาเป็นเหมือนเดิมได้ไหม?
 
10. The Shearingt Gun ลงเอยด้วยรัก
เอลเลียตเป็นหมอหนุ่มคนใหม่ที่เพิ่งย้ายมาอยู่ที่นี่ ตั้งแต่แฮงค์พาตัวเองมาให้หมอรักษา เขาก็รู้สึกว่าหมอมีความสนใจในตัวเขา สายตาของหมอมองสำรวจหุ่นเขาอย่างลืมตัว แน่ละ จากการทำงานหนักมานานปี เขามีรูปร่างที่บึกบึนชวนน้ำลายหก และในความคิดของเขาแล้ว หมอเองก็น่ารักไม่ใช่น้อย แต่เขาไม่อาจมีสัมพันธ์กับใครในละแวกบ้านได้ ความรักแบบนี้ยังไม่เป็นที่ยอมรับในเขตชนบทที่มีแต่พวกอนุรักษนิยม ถ้ามีใครรู้ความลับของเขา ชีวิตสังคมและการงานของเขาในแถบนี้เป็นอันจบกัน เขาจะไม่ยอมให้มันเกิดขึ้น! แต่เขาจะห้ามใจตัวเองได้หรือ...?
ในวัยยี่สิบห้า แฮงค์ได้เป็นเจ้าของที่ดินผืนเล็ก ๆ ผืนหนึ่งในเขตชนบทของออสเตรเลีย เขาหาเลี้ยงชีพด้วยการเลี้ยงแกะ ปลูกพืชไร่ และรับจ้างตัดขนแกะ มันเป็นงานที่หนัก แต่เขาก็ดูแลทุกอย่างมาได้ตลอดรอดฝั่งด้วยตัวเองและภาคภูมิใจกับมัน แต่เมื่อแฮงค์เกิดอุบัติเหตุกระดูกไหปลาร้าหักจากการเล่นฟุตบอล เขาก็เริ่มหวั่นวิตกถึงสิ่งที่จะตามมา ใครจะดูแลพวกแกะและพืชไร่ต่าง ๆ ไหนจะรายได้จากการตัดขนแกะที่ต้องสูญเสียไป ไหนจะเรื่องหมอเอลเลียตที่เป็นคนรักษาเขาอีก...
 

225

 
ภูมิหลังของการ์ตูนความรู้ในไทย
 
หากจะมองย้อนกลับไปถึงที่มาของการ์ตูนความรู้ไทย จะมองเห็นได้ว่ามิได้พึ่งจะเริ่มมาเพียงแค่ 4-5 ปี แต่สามารถนับย้อนกลับไปถึงตั้งแต่ "ชัยพฤกษ์การ์ตูน" ที่จัดตั้งขึ้นโดย รงค์ประภาสะโนบล แล้วก็เผยแพร่โดยสํานักพิมพ์ไทยวัฒนาพานิช ในปี พ.ศ. 2513 หรือแทบ 40 ปีที่แล้ว ต่อมาคือ "ขบวนการแก้จน" ของประยูรจรรยาวงศ์ที่ตีพิมพ์ในหนังสือพิมพ์ไทยรัฐตั้งแต่ปี พุทธศักราช 2515 ไล่เรียงมาจนถึง "คําแพง เด็กอีสาน" ของเตรียมชาชุมพร ที่เป็นการ์ตูนความรู้ในแบบเล่มครั้งแรกในปี พุทธศักราช 2524 รวมทั้งในช่วงโดยประมาณปี พุทธศักราช 2525 ถึง พุทธศักราช 2538 ยังมีการ์ตูนความรู้ที่จัดทําโดยกรมวิชาการและสํานักพิมพ์เอกชน โดยหลายเล่มวาดภาพโดย สุรพล พิทยาสกุล
 
ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2528 การ์ตูนความรู้จากญี่ปุ่นเริ่มเข้ามาตีตลาดในประเทศไทย พร้อมๆกับ อิทธิพลของการ์ตูนบันเทิงของประเทศญี่ปุ่น โดยเริ่มจากการ์ตูนชุด "วิทยาศาสตร์อ่านสนุก" ที่จัดพิมพ์โดยสํานักพิมพ์ซีเอ็ดยูเคชั่น ในปี พุทธศักราช 2528 ซึ่งได้รับความสําเร็จอย่างดีเยี่ยมทําให้สํานักพิมพ์ซีเอ็ดพิมพ์การ์ตูนความรู้ในรูปแบบเดียวกันออกมาอีกหลายชุด รวมทั้งสํานักพิมพ์อื่นๆก็เริ่มพิมพ์การ์ตูนความรู้จากญี่ปุ่นเช่นกัน อาทิเช่นสํานักพิมพ์อมรินทร์เริ่มพิมพ์ชุด "เจาะจักรวาลชีวิต" และชุด "พิภพมหัศจรรย์" ในปี พุทธศักราช 2536 และชุดอื่นๆตามมาอีกหลายชุด ส่วนสํานักพิมพ์นานมีบุ๊คส์ก็เริ่มพิมพ์การ์ตูนชุด "โดเรมอนสอนคณิตศาสตร์" และชุด "โดเรมอนค้นพบความมหัศจรรย์" ในปี พุทธศักราช 2536 ซึ่งการ์ตูนชุดโดเรมอนสอนความรู้นั้น ได้เผยแพร่ทั้งหมดมากกว่า 70 เล่ม
 
ความนิยมของการ์ตูนญี่ปุ่นในสมัยนั้น ทําให้การ์ตูนไทยซบเซาไปพักใหญ่อีกเกือบจะ 20 ปี กระทั่งในปี พุทธศักราช 2547 จึงได้เกิดเหตุการณ์สําคัญที่บางทีอาจกล่าวได้ว่าเป็นจุดเริ่มของยุคแห่ง{การกำเนิดใหม่ (renaissance) ของวงการการ์ตูนความรู้ไทย นั่นเป็นการเริ่มจัดพิมพ์การ์ตูนความรู้เล่มแรกของสํานักพิมพ์หนังสือการ์ตูนความรู้ของไทยที่เพิ่งเกิดใหม่ในช่วงเวลานั้น เป็น
 
- การ์ตูน เลิร์นนิ่ง บาย สกายบุ๊กส์
- สถาบันการ์ตูนไทย มูลนิธิเด็ก
- สํานักพิมพ์อีคิวพลัส
 
จากภาพรวมของความเป็นมาของการ์ตูนความรู้ในประเทศไทย จึงสามารถสรุปได้ว่า การ์ตูนความรู้ คือ "การติดต่อสื่อสารผ่านภาพการ์ตูน โดยที่ผู้วาดมีเจตนาสอดแทรกวิชาความรู้หรือข้อมูลลงไป ไม่ว่าจะมากหรือน้อยเพื่อคนอ่านเกิดการศึกษา แม้กระนั้น แม้หากว่าจิตรกรจะไม่ได้มีเจตนาดังที่กล่าวมาแล้ว แม้กระนั้นสามารถผลิตการ์ตูนออกมาให้คนอ่านทั่วไปได้รับวิชาความรู้ในด้านใดด้านหนึ่ง ก็ย่อมนับว่าผลงานนั้นเป็นการ์ตูนความรู้ด้วยเช่นเดียวกัน" และสามารถแบ่งการ์ตูนความรู้ออกเป็น 4 จำพวกกว้างๆ เป็น
 
1. การ์ตูนความรู้เชิงวิชาการแบบการ์ตูนช่อง (Academic-Oriented Comics)
2. การ์ตูนความรู้เชิงวิชาการแบบภาพประกอบเนื้อหา (Academic-Oriented Graphic Books)
3. การ์ตูนความรู้เชิงสร้างสรรค์สังคมแล้วก็จิตสํานึก (Moral-Oriented Cartoons)
4. วารสารการ์ตูนความรู้ (Knowledge Cartoon Magazines)
 
หลายคนที่เคยมีความคิดว่าการ์ตูนเป็นเรื่องไม่เป็นประโยชน์ ไม่น่าช่วยในเรื่องการเรียนการศึกษาได้ ในตอนนี้คงจะเปลี่ยนความคิดแล้ว เพราะเหตุว่าเมื่อเรานำการ์ตูนที่เด็กๆรู้สึกชื่นชอบมารวมเข้ากับความรู้ คำตอบที่ได้ ซึ่งพิสูจน์แล้วว่าทำให้เด็กสนใจการเรียนมากขึ้น และเป็นการปลูกฝังนิสัยรักการอ่าน รักการศึกษาทำการค้นคว้าและทำการวิจัย หาความรู้ เป็นการยกระดับประสิทธิภาพการเรียนของเด็กได้อย่างดีเยี่ยม เห็นได้ชัดเจนว่า ความรู้ไม่จำเป็นต้องอยู่แต่ในหนังสือเรียน การ์ตูนความรู้เปรียบเสมือนห้องสมุด เป็นหนังสือที่จะมาช่วยตอบทุกปัญหาที่เด็กสงสัย ทุกบ้านควรจะมีติดไว้ราวกับสารานุกรมประจำบ้าน
 
หนังสือการ์ตูน
 
หนังสือการ์ตูน เป็นหนังสือที่พิมพ์ภาพและคำพูดประกอบ บอกเล่าเรื่องราวต่างๆตามเรื่องราวที่เขียนขึ้น มีทั้งที่อ้างอิงจากความจริง และก็เกิดขึ้นจากความนึกคิดของนักวาดการ์ตูน หรือนักแต่งการ์ตูน เป็นผู้วางเอาไว้ สำหรับการ์ตูนญี่ปุ่นอาจเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า มังงะ (Manga)
 
โดยส่วนมาก หนังสือการ์ตูน จะเป็นการรวมเล่มของการ์ตูนที่ตีพิมพ์ในหนังสือการ์ตูนรายสัปดาห์ ตัวอย่างเช่น บูม, ซีคิดส์, KC Weekly เป็นต้น
ยังมีการ์ตูนที่แต่งเป็นพิเศษ หรือล้อเลียนการ์ตูนที่เขียนขึ้นแล้ว เพื่อความสนุกสนานส่วนตัว หรือแต่งเพื่อกลุ่มคนที่ถูกใจในแบบเดียวกัน เรียกว่า โดจิน (Doujin) หรือโดจินชิ
 
แนวภาพวาดในหนังสือการ์ตูน
 
ภาพเหมือนจริง
คือถ่ายทอดลักษณะทางกายภาพออกมาได้ส่วน เสมือนหรือคล้ายใกล้เคียงของจริงมาก มีต้นแบบจากสิ่งที่มีอยู่จริง ส่วนประกอบลักษณะสถาปัตยกรรมที่มีอยู่ในการ์ตูนแบบนี้ดูสมส่วนเป็นไปได้ สามารถก่อสร้างขึ้นได้จริง โดยเหตุนั้นลักษณะการ์ตูนจำพวกนี้ก็เลยดูน่าเชื่อถือ
 
ภาพเกินจริง
คือเป็นภาพที่ออกเกินเลยของจริง ไม่สมส่วน มีความสามารถเกินจริง อาทิเช่น บินได้ ล้มต้นไม้ใหญ่ด้วยมือเปล่า อวัยวะบางส่วนใหญ่หรือเล็กเกินจริง มีอวัยวะบางสิ่งบางอย่างน้อยหรือมากเกินจริง ยกตัวอย่างเช่น มีนิ้วมือ 8 นิ้ว มีตา 3 ตา เป็นต้น
 
เอกลักษณ์
ไม่เหมือนจริง เป็นเป็นลักษณะภาพวาดตามจินตนาการของคนแต่ง หรือนักเขียน โดยลักษณะภาพมีเอกลักษณ์เฉพาะคนเขียนแต่ล่ะท่าน ที่นิยมคือ มีลักษณะหัวใหญ่ ตัวผอมบาง ตาโต ดูน่ารักน่าเอ็นดู แสดงอารมณ์ชัดเจน
 
การสร้างแนวการ์ตูน
 
- สร้างหรือแต่งขึ้นตามจินตนาการ
- สร้างขึ้นจากข้อเท็จจริง แต่อาจมีการเสริมเติมแต่งเพิ่มเพื่อความสนุก แต่งจะยึดมั่นโครงเรื่องจริงเป็นหลัก
- นำเรื่องอื่นดัดแปลงแก้ไขมา เช่น ตำนานไซอิ๋ว ก็มีการเอามาดัดแปลงแก้ไขเติมแต่งเสริมต่อเป็นเรื่องต่างๆ ออกมามากมาย
 
การ์ตูนวิทยาศาสตร์
 
หนังสือการ์ตูนที่สอดแทรกรายละเอียดวิชาความรู้วิทยาศาสตร์ที่สร้างความสนุกสนาน แล้วก็ให้สาระ ทำให้คนทุกเพศทุกวัยพึงพอใจที่จะหยิบ การ์ตูนวิทยาศาสตร์มาอ่าน เพราะนอกจากจะสนุกสนานแล้ว ยังได้รับวิชาความรู้ที่ดีเกี่ยวกับวิทยาศาสตร์ที่อยู่ใกล้ตัวเรา ซึ่งบางเรื่องพวกเราก็บางทีก็อาจจะยังไม่รู้ก็ได้ หนังสือจำพวกนี้เสมือนหนังสือการ์ตูนความรู้
 

 
10 การ์ตูนความรู้ที่แนะนำ โดย ร้านหนังสือนายอินทร์
 
1. คณิตศาสตร์แฟนตาซี
"แอนแลนติส" โลกคณิตศาสตร์กำลังปั่นป่วน เมื่อ "อาซูร่า" แม่ทัพแห่งกองทัพรัตติกาลต้องการปลดปล่อย "พ่อมดอินฟินิตี้" ผู้ชั่วร้ายออกจากผนึกทั้งเจ็ด "มีนา" นักเวทตัวคูณจึงพา "ซีโร่" ผู้มีสัญลักษณ์ของอัศวินเอกซ์มายังแอตแลนติส เพื่อฝึกฝนพลังอันบริสุทธิ์แห่งคณิตศาสตร์...
 
2. เก่งคณิตด้วยตัวเองจนคุณครูตกใจ : จำนวนในชีวิตประจำวัน
หนังสืออ่านเสริมแนวแบบเรียนรูปแบบใหม่ที่จะทำให้ผู้อ่านสนุกกับคณิตศาสตร์จนวางไม่ลง มาเรียนรู้ความเป็นมาของเรื่องราวทางคณิตศาสตร์ เพื่อเสริมสร้างกระบวนการหาคำตอบที่ถูกต้อง เรียนรู้เรื่องราวของจำนวนในชีวิตประจำวัน แทรกเรื่องน่ารู้ การ์ตูน และเกม จำนวนเกี่ยวข้องกับชีวิตประจำวันของเราอย่างไร, เรียนรู้ระบบตัวเลขฐาน, รู้จักจำนวนนับ, จำนวนเชิงรูปและจำนวนกำลังสอง, จำนวนประเภทต่างๆ ที่น่าทึ่ง, ความมหัศรรย์ของตัวเลข
 
3. เก่งวิทย์ด้วยตัวเองจนคุณครูตกใจ : ระบบนิเวศและสิ้งแวดล้อม
ถ้าไม่มีใครสอนวิทยาศาสตร์ด้วยวิธีที่มีประสิทธิภาพ เด็กจะเรียนรู้วิทยศาสตร์ด้วยตัวเองได้ยากลำบาก และสิ่งสำคัญของหนังสือวิทยาศาสตร์สำหรับเด็กก็คือต้องทำให้เด็กรู้สึกสนุกไปกับวิทยาศาสตร์ แต่หากจะไล่ตามกระต่ายตัวใดตัวหนึ่งก็ต้องละทิ้งกระต่ายอีกตัวไป ถ้ามองดูด้านความสนุกสนาน บางครั้งต้องปรับมุมมองและสถานการณ์ให้คล้ายกับการ์ตูน จึงต้องทิ้ง "ทฤษฎีและหลักการ" สำคัญไปอย่างน่าเสียดาย ในทางตรงข้าม หากจะรักษา "ทฤษฎีและหลักการ" ดีๆ เอาไว้ก้จะจับกระต่ายที่เรียกว่า "ความสนุกสนาน" ไม่ได้ หนังสือชุด "เก่งวิทย์ด้วยตัวเองจนคุณครูตกใจ" นอกจากกระต่าย 2 ตัวที่เป็นทั้งความสนุกสนานและทฤษฎีสำคัญแล้ว จึงเป็นหนังสือที่เด็กชั้นประถมศึกษาอ่านเข้าใจได้ง่าย และเตรียมความพร้อมในการเรียนระดับมัธยมศึกษาตอนต้นต่อไป
 
4. ล่าขุมทรัพย์สุดขอบฟ้าในรัสเซีย
ขอเชิญสัมผัสความหนาวเหน็บและความกว้างใหญ่ไพศาลของรัสเซีย ประเทศที่ใหญ่ที่สุดในโลก! ฮีโร่และเบ็คเดินทางไปรัสเซียเพื่อชมการแสดงบัลเลต์ระดับโลก แต่ฮีโร่พบว่ามงกุฎล้ำค่าของราชินีที่ใช้ในการแสดงเป็นของปลอม! มีใครบางคนขโมยของจริงไปสองสหายนักล่าขุมทรัพย์จึงต้องตามหาให้ได้ พวกเขาต้องตามล่าคนร้ายไปทั่่วรัสเซีย จากมอสโกเมืองหลวงสุดยิ่งใหญ่ไปเซ็นปีเตอร์สเบิร์กเมืองแห่งกษัตริย์ ผจญภัยบนรถไฟสายทรานส์ไซบีเรียที่ยาวที่สุดในโลก และมุ่งสู่ไซบีเรียดินแดนแห่งความหนาวเย็น นักโบราณคดีสุดไฮเทค อีกอร์และซีมอฟ หัวหน้าคณะบัลเลต์คู่กัด วิกเตอร์ อดีตสายลับ และเฟย์ สาวจอมโหดผู้วางแผนการร้ายในครั้งนี้ มาร่วมลุ้นกันว่าคู่หูฮีโร่เบ็คจะแย่งชิงมงกุฎกลับมาได้หรือไม่! "ล่าขุมทรัพย์สุดขอบฟ้าในรัสเซีย" จะพาทุกคนผจญภัยในรัสเซีย ประเทศที่กว้างใหญ่ที่สุดในโลก ด้วยการ์ตูนที่สนุกสนาน และเกร็ดความรู้ที่น่าทึ่งเกี่ยวกับรัสเซียตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน รับรองว่าประวัติศาสตร์ไม่เคยสนุกแบบนี้มาก่อน
 
5. Why ?
"หนังสือการ์ตูนความรู้ชุด "Why?" เป็นหนังสือชุดที่ทำให้เด็กเกาหลีเรียนเก่งเป็นอันดับ 1 ของโลกจากผลการวิจัยของนิตยสาร Timss ปี 2011 นำเสนอความรู้ในรูปแบบการ์ตูน มีเรื่องราวสนุกสนานชวนติดตาม ทำให้เรื่องวิชาการที่เด็กๆ คิดว่ายากกลายเป็นเรื่องง่าย โดยได้รับการแปลแล้ว 12 ภาษาและตีพิมพ์ใน 45 ประเทศ ซึ่งฉบับภาษาไทยเองก็ได้รับคำนิยมจากเลขาธิการสภาการศึกษา สสวท. ตรวจสอบโดยผู้เชี่ยวชาญ จึงมั่นใจเนื้อหาได้ว่าถูกต้องครบถ้วน สอดคล้องกับกลุ่มสาระการเรียนรู้ทั้ง 8 กลุ่มสาระวิชา ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 กระทรวงศึกษาธิการ ตามที่เด็กๆ เรียนในโรงเรียน
 
6. ประวัติพระพุทธเจ้า
การศึกษาพุทธประวัติที่ถูกต้องจะได้รับประโยชน์หลายอย่าง กล่าวคือนอกจากจะได้ทราบประวัติของพระพุทธองค์อย่างละเอียดแล้ว ยังจะได้ศึกษาพระจริยาวัตรที่งดงามของพระองค์ ทำให้ทราบว่าผู้ที่บำเพ็ญบารมีจนได้บรรลุเป็นพระอรหันต์สัมมาสัมพุทธเจ้านั้น จะต้องประพฤติปฏิบัติตนอย่างไร ใช้เวลานานเท่าใด ทำให้ผู้ศึกษาเกิดศรัทธาปสาทะแล้วนำมาเป็นแบบอย่างในการพัฒนาตนเองและสังคมได้
"น่ายินดีเป็นอย่างยิ่งที่ ณ บัดนี้ สำนักพิมพ์นานมีบุ๊คส์ได้จัดพิมพ์ การ์ตูนธรรมะชื่อ 'ประวัติพระพุทธเจ้า' ในรูปแบบการ์ตูนที่งามพร้อมทั้งเนื้อหาสาระที่เข้าใจง่าย สีสันและลายเส้นงดงาม การดำเนินเรื่องน่าสนใจนำเสนอความเป็นพระพุทธองค์อย่างมีชีวิตชีวา 'ประวัติพระพุทธเจ้า' ชี้ให้เห็นว่าการประสบความสำเร็จของพระสัมมาสัมพุทธเจ้านั้นเป็นความสำเร็จที่วางรากฐานอยู่บน 'ศักยภาพของความเป็นมนุษย์' ธรรมดาๆอย่าง เราๆ นี่เอง ซึ่งวิธีการนำเสนอพุทธประวัติเช่นนี้ ทำให้ผู้อ่านรู้สึกว่าสถานภาพของพระพุทธองค์ไม่สูงส่งเกินไปจนเข้าไม่ถึง ตรงกันข้ามกลับก่อให้เกิดศรัทธา ปสาทะเป็นอย่างยิ่งว่าบนเส้นทางของการเป็นพระบรมศาสดาผู้ยิ่งใหญ่นั้น มีเคล็ดลับอยู่ที่การพยายาม 'ฝึกหัดพัฒนา' เป็นสาระสำคัญ"
 
7. ไม่ยากถ้าอยากเรียนดี
ลองมาติดตามกันดูว่า มาร์คจะสามารถเปลี่ยนนิสัยการเรียนของเขาได้ไหม และจะลบคำสบประมาทของแนตตี้ทำให้แนตตี้หันมาสนใจได้หรือไม่ที่สำคัญ น้องๆ อย่าลืมนำเคล็ดลับการเรียนดีของมาร์คและเพื่อนๆ ไปใช้ ปรับปรุงการเรียนของน้องๆ 18 เคล็ดลับเรียนดีที่ง่าย และไม่เหมือนใคร มาลุ้นกันว่ามาร์ค ผู้เกียจคร้าน จะนำเคล็ดลับเรียนดี มาปรับปรุงการเรียนของตนเอง ให้ดีขึ้นได้หรือไม่
 
8. นักสำรวจน้อย ยานพาหนะสุดเจ๋ง
ความรู้สนุกๆเกี่ยวกับยานพาหนะต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นรถจักรยาน รถยนต์ รถไฟ เรือ เครื่องบิน และเครื่องจักรขนาดใหญ่ต่างๆ หนังสือเป็นรูปแบบ interactive ให้เด็กๆ ได้พลิกหาคำตอบได้เอง โดยมีแผ่นเปิดปิดให้เด็กๆได้ค้นหาความรู้เพิ่มเติมใต้ภาพ
 
9. รู้ไปหมด เรื่องหุ่นยนต์
หนังสือ "รู้ไปหมด เรื่องหุ่นยนต์" เล่มนี้ จะพาเด็กๆ ไปค้นพบทุกเรื่องที่สงสัยเกี่ยวกับสภาพอากาศ ไม่ว่าจะเป็น หุ่นยนต์คืออะไร พัฒนาการของหุ่นยนต์ยุคต่างๆ บทบาทของหุ่นยนต์ในโลกยุคปัจจุบันและอนาคต หุ่นยนต์ต่างจากไซบอร์กอย่างไร และอีกหลากหลายเรื่องราวน่าสนใจ เรียนรู้ผ่านภาพถ่ายสี่สีที่สวยงาม ก่อนที่จะทดสอบความรู้เรื่องหุ่นยนต์ ว่าเด็กๆ ได้เรียนรู้อะไรบ้าง รู้ทุกอย่างหรือเปล่า ถ้าใช่ก็เยี่ยมไปเลย เพราะเด็กๆ กลายเป็นผู้ชี่ยวชาญแล้ว!
ข้อเท็จจริงการถ่ายภาพ และเกร็ดสนุกๆ ของหุ่นยนต์ที่อาจกลายมาเป็นเพื่อนซี้ของเราในไม่ช้า วิทยาการคอมพิวเตอร์มาผสมกัน หุ่นยนต์ที่ผู้คนเกี่ยวข้องด้วยในชีวิตประจำวันเป็นประโยชน์มาก พวกมันสร้างสิ่งต่างๆ จับอาชญากร สำรวจโลก และต่อสู้สงคราม มีหุ่นยนต์ทำงานในบ้านด้วย พวกมันมีหน้าที่ดูดฝุ่นและทำความสะอาด และยังมีหุ่นยนต์พยาบาลสำหรับดูแลเธอเมื่อเธอเจ็บป่วยรวมถึงหุ่นยนต์ผ่าตัดด้วย พบกับหุ่นยนต์เครื่องจักรที่ทั้งซับซ้อนทั้งสุดยอดได้ใน "รู้ไปหมด เรื่องหุ่นยนต์" เล่มนี้
 
10. 50 เรื่องหลอน ตอน ผีนานาชาติ
50 เรื่องหลอน ตอน ผีนานาชาติ เปิดประสบการณ์หลอนรอบโลก กับเรื่องของ "ผี" และ "ปิศาจ" ที่คัดมาเฉพาะผีระดับตำนาน ทั้งไทย ญี่ปุ่น จีน อังกฤษ อเมริกา ฯลฯ โลกนี้มีผีมากมาย ทั้งร้ายและดี ทั้งผีของแต่ละประเทศหรือตำนานปีศาจของแต่ละชนเผ่า "50 เรื่องหลอน" เล่มนี้ จะพาทุกคนไปพบกับ "เรื่องผีจากนานาประเทศ" ที่คัดมาแล้วว่า... เป็นผีระดับตำนาน อาทิ ผีตายทั้งกลม ,ไดนี! ผีกินเด็ก ,โทแกบี ภูตจอมตลก ,ผีสาวปากฉีก ,ภูตหิมะ ,ตำนานวิญญาณฮานาโกะซัง ,สลัวฟ์ วิญญาณที่นรกไม่ยอมรับ ,ผีกลิ้งหัวจากอเมริกา มาดูกันว่า... ผีประเทศไหนจะเฮี้ยนที่สุด!
 

หน้า: 1 ... 13 14 [15] 16 17 18